16 ธันวาคม 2563-ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช ประธานคณะอนุกรรมการนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในขณะนี้ประเทศไทยติดอันดับ 3 ของเมืองที่มีอากาศแย่ที่สุดในโลก โดยข้อมูลจากแอปพลิเคชัน Air Visual ระบุว่าสภาพอากาศโดยทั่วไปของกรุงเทพมหานคร ตามมาตรฐาน US AQI อยู่ที่ 190 ซึ่งคุณภาพของอากาศเช่นนี้ส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพของประชาชน
ซึ่งทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ได้ออกมายอมรับว่าพื้นที่ใน กทม. อากาศจะแย่จนถึงวันที่ 17 ธ.ค. 2563 และคำตอบที่เราได้รับจากรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังคงเหมือนเดิม คือค่าไอเสียเกินมาตรฐานและปัญหาการกดทับของสภาพอากาศที่เกือบจะไม่มีลม จึงทำให้ กทม. เกิดสถานการณ์ฝุ่นสะสม ซึ่งปัญหาฝุ่นพิษแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ของคนไทย โดยส่วนใหญ่จะเกิดประมาณเดือน พ.ย. – ก.พ. โดยเราจะต้องทนรับกับปัญหาเช่นนี้ในทุกๆ ปี
ซึ่งทางพรรคเพื่อไทย ห่วงใยในสุขภาพของคนไทยทุกคน ดังนั้นจึงอยากจะเห็นรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ เร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนและจริงจัง เพราะฝุ่นพิษนี้ส่งผลร้ายต่อสุขภาพของคนไทย
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรจะใส่ใจและพร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอแนะในเรื่องปัญหาฝุ่นพิษอย่างจริงจังจากทุกๆ ฝ่าย พรรคเพื่อไทยขอเสนอแนววิธีการดังนี้
1.ควรดำเนินการติดตั้งระบบการแจ้งเตือนมลพิษตามสถานที่สุ่มเสี่ยงต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิ์ที่จะรู้ว่าเวลาและพื้นที่ไหนที่ควรจะต้องระวัง เพราะปัญหาฝุ่นพิษส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นในบริเวณเดิม
2.พิจารณาภาษีฝุ่นพิษ โดยโรงงานต่างๆ ที่ปล่อยมลพิษเกินมาตรฐานจะต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นตามปริมาณที่ปล่อยเกิน และถ้าหากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ภายใน 1 ปี จะต้องถูกดำเนินการปิดโรงงานอย่างจริงจัง และเพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ประกอบการในการเร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็ว จึงควรจะจัดทำมาตรการลดภาษีให้แก่ผู้ประกอบการที่สามารถลดปริมาณมลพิษได้
3.เริ่มยุทธการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษอย่างเร่งด่วน โดยเริ่มดำเนินการฉีดน้ำจากที่สูง ฉีดน้ำล้างถนน และติดสปริงเกอร์บนตึกสูงเพื่อพ่นละอองน้ำ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง ถนนที่รถติด เป็นต้น และรัฐบาลควรที่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
4.สร้างระบบ Big Data โดยจัดเก็บข้อมูลเพื่อทำการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยง ที่จะมีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานล่วงหน้าได้ ซึ่งถ้าหากเรามีข้อมูลและเครื่องตรวจที่เพียงพอ เราก็จะสามารถแจ้งเตือนล่วงหน้าได้ เพื่อที่โรงเรียน บริษัท และทางราชการจะได้มีเวลาเพื่อเตรียมตัวรับมือ
5.เร่งนำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติเรื่องการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละลอง ที่มีมาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2562 มาร่วมดำเนินการกับภาคประชาชนโดยด่วน เพราะหลายหน่วยงานของภาครัฐ ภาคเอกชนและมหาวิทยาลัย ได้มีการทำวิจัยกันมานานแล้ว และขณะนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่พวกเราทุกคนควรจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษอย่างจริงจังและทันที
“ปัญหาฝุ่นพิษคือปัญหาเร่งด่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ ควรจะต้องเร่งแก้ไข เพราะในหลายประเทศสามารถแก้ไขได้แล้ว แต่ไทยเรายังไม่ได้ทำอะไรที่เป็นรูปธรรมเลย และหากเราอยากให้ไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับคนไทยทุกคน ดังนั้นเราจึงควรเร่งแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษโดยด่วน เพราะหากอากาศยังคงแย่แบบนี้ ก็คงไม่มีใครอยากที่จะเที่ยวในประเทศไทยอีกต่อไป” ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าว