เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 63 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 3/2563
โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วมด้วย
โดยที่ประชุมได้เห็นชอบพื้นที่ที่จะประกาศให้เป็นท้องที่ให้เสพและครอบครองพืชกระท่อมได้โดยไม่เป็นความผิด จำนวน 135 หมู่บ้าน/ชุมชนเพื่อเป็นประโยชน์ในทางการแพทย์ พร้อมมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข ประกาศให้พื้นที่จำนวน 135 หมู่บ้าน/ชุมชน เป็นท้องที่ที่ให้เสพพืชกระท่อมได้โดยไม่เป็นความผิด ตามมาตรา 58/2 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562
ที่ประชุมรับทราบแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2564 โดยมีแนวคิดหลัก คือ แก้ไขปัญหายาเสพติด ตั้งแต่ ต้นทาง – กลางทาง – ปลายทาง ยึดคนเป็นศูนย์กลาง แก้ไขปัญหาตามบริบทของพื้นที่ และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน นำไปสู่ผลสัมฤทธิ์สุดท้าย คือ สังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติด
โดยมีจุดเน้น เช่น พัฒนาและผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อลดทอนศักยภาพลักลอบค้าและผลิตยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ดำเนินการกับทรัพย์สินในคดีความผิดที่เกี่ยวกับยาเสพติดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผลไปยังโครงสร้างเครือข่ายการค้ายาเสพติด และนักค้ารายสำคัญ ดูแลผู้ผ่านการบำบัดรักษาอย่างต่อเนื่องและไม่กลับมาเสพซ้ำ เป็นต้น
สำหรับผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2563 พบว่าประชาชนมีความพึงพอใจและมีความเชื่อมั่นต่อการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านยาเสพติดของรัฐบาลโดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 90
ทั้งนี้ ในการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดปี พ.ศ. 2564 สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จะยังคงยึดกรอบแนวทางตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 แผนแม่บทด้านความมั่นคง สอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อสร้างความมั่นคง ความปลอดภัย มุ่งเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศต่างๆ ในทุกภูมิภาค
ทั้งนี้ ก่อนการปิดประชุม ฯ รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของ ป.ป.ส. เป็นที่น่าพอใจ รวมถึงผลงานจับกุมยาเสพติดจำพวกเคตามีน จำนวน 11.5 ตัน ซึ่งคาดว่าเป็นรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่จังหวัดฉะเชิงเทราเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา และขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันทำงานจนประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้