ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
“ขอให้ประชาชนตัดสินเอง..
ว่า ระหว่างนายชวนกับตน ใครรักษาผลประโยชน์บ้านเมืองมากกว่ากัน”
“ตน”..คนที่พูดนี้คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ส่วน “นายชวน” ก็คือ คุณชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา
ผมน่ะ ขอเว้นที่จะแสดงความคิดเห็นผ่านตัวหนังสือตรงนี้ แต่ได้ตัดสินอยู่ในใจ และจะดูสิ มีใครสนอง “คำขอ” ตัดสินตรงกับผมบ้าง?
แต่นี่..มอง-คิดไม่ตรงกับผมแน่ ผมกำลังพูดถึง “หมออั้ม” นายอิราวัต อารีกิจ อดีตนักร้องค่ายอาร์เอสฯที่ได้โพสต์..
“ถึงพี่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พี่น่าจะเจออะไรมามากมายนะครับ พี่เดินทางไปที่ต่างๆ เห็นคนทุกระดับ สวมกอดคนเป็นแผลเรื้อรัง เป็นโรคที่สังคมรังเกียจ แต่พี่ไม่เคยแสดงความรังเกียจพวกเขาเลย
แม้แต่ร่างไร้วิญญาณ พี่ก็ไม่เคยบ่น หรือรังเกียจ พี่ช่วยเหลือคนมามาก มากมายจริงๆ ในส่วนนั้น ในฐานะหมอ ผมมองออกว่าพี่จริงใจ และมีความสุขที่ได้ทำ
แต่พี่อย่าลืม ว่าความช่วยเหลือของพี่ มันก็มาจาก #ความศรัทธาของประชาชน พี่เหมือนเป็น #สะพานบุญ มอบเงินคนบริจาคจากคนที่เขาโอนให้พี่อีกที มอบให้พี่อีกที
บางคนมีเงินติดตัวไม่กี่ร้อย เขาก็โอนให้พี่และพวกเขาก็ #ไม่เคยเรียกร้องให้พี่แจกแจง ที่ผ่านมา พี่ไปที่ต่างๆ ทั่วแผ่นดินไทยพี่มองไม่ออกเลยเหรอครับ? ว่าเกิดอะไรขึ้น
พี่มองไม่เห็นถึงความเหลื่อมล้ำ เหรอครับ? ไม่เห็นความแตกต่างของโอกาสคน เหรอครับ? ไม่เห็นสิทธิมนุษยชน ที่ถูกละเมิดกดขี่ เหรอครับ?
ไม่เห็นความไม่ยุติธรรมในสังคมเรา เหรอครับ? ทั้งที่พี่ทำงานในสถานที่ที่เรียกว่า #มูลนิธิ พี่ไม่เห็นอะไรบ้างเลยเหรอครับ?
หลายครั้งที่พี่ออกตัว แสดงความเห็นสาธารณะ ออกมาแบบ #สุดโต่ง และ #Aggressive เหมือนคนที่เห็นต่างจากพี่ เป็นผักปลา ล่าสุด จะตบ จะทำร้ายเด็กๆ ลูกหลานเราทั้งนั้น
พี่อาจพูดไม่ทันคิด ถึงต้องไลฟ์ออกมาร้องไห้ต้องประกาศลาออกจากมูลนิธิฯ ทำไมพี่ไม่ศึกษาดูดีๆ ถึงเหตุและปัจจัยที่ทำให้คนรุ่นลูก รุ่นหลานพี่ ออกมาแก้ไขในประเด็นที่คนแบบพี่ ยังไม่กล้าพูด
ด้วยความเคารพครับพี่ในฐานะ FC พี่เช่นกัน ในหลายๆ เรื่องอยากถามพี่ว่า สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ทำไมเราไม่คุยกัน
ทำไมพี่ไม่ใช้ความเป็นพี่ ภาพพ่อพระ ที่ไปทุกหนแห่ง ช่วยคนทุกชนชั้นออกมาพูดคุยกับน้องๆ เขาดีๆ หรือที่ผ่านมา มันแค่การแสดง? หรือตัวตนของพี่ ไม่ใช่แบบที่เราเห็นกัน? รักนะครับ ถึงถาม”
ขอโทษ..ผมก็รักคุณหมอ..จึงใคร่ขอตอบ (แทน) คุณบิณฑ์ก็แล้วกัน เพราะเท่าที่ได้ยิน-ได้ฟังและได้คุยกับพระเอกแบกศพ เขาไม่ใช่คนตาบอดหรือหูหนวก จึง “เห็น” ทุกอย่างในสังคม-ประเทศนี้
เพียงแต่คุณบิณฑ์เลือกจะไม่พูด-ไม่วิจารณ์ และการที่คุณบิณฑ์ออกตัวแรงก็ไม่ได้เกี่ยวกับ “คนเห็นต่าง” หรือลูก-หลานที่ชู 3 นิ้ว เพราะนั่นมันเรื่องการเมือง
หากแต่ในฐานะคนรัก-เทิดทูนสถาบัน คุณบิณฑ์ทนเห็นการกระทำย่ำยีต่อสถาบันพระกษัตริย์ในขณะนี้ต่อไปไม่ไหว จึงได้ออกมาแสดงให้คนเหล่านั้นได้รู้ว่า..
ความอดทน อดกลั้นของคนรักสถาบันใกล้จะเกินขีดควบคุมแล้ว ก็เท่านั้น!
ผมเชื่อ คุณบิณฑ์คิดรอบคอบดีแล้วถึงได้พูด..คุณหมอล่ะที่โพสต์นี้ คิด-ไตร่ตรองดีแล้วหรือ ถึงได้มีประโยค..
“ทำไมพี่ไม่ศึกษาดูดีๆ ถึงเหตุและปัจจัยที่คนรุ่นลูก รุ่นหลานพี่ ออกมาแก้ไขในประเด็นที่คนแบบพี่ ยังไม่กล้าพูด”
มันหมายความว่าอย่างไร..หือ?
ภาพ:เฟซบุ๊ก อั้ม อิราวัต อารีกิจ
