ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
เผลอแผล็บ..
คุณสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ก็จะอยู่ครบวาระสมัย (3ปี) การดำรงตำแหน่ง “ประธานสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ” ซะแล้ว!
ไม่ได้ใจหายหรอก เพียงแต่มีคนกระซิบบอก ก็เลยนำมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อจะมีคนในแวดวงหนังไทยที่ไม่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวภายในองค์กรแห่งนี้ จะได้ทราบ-ได้รู้..
แม้รู้แล้ว จะไม่ได้เกิดประโยชน์โพดผลอะไรกับตัว เพราะใครจะไป-ใครจะมา (นั่งเป็นประธาน) คนในวงการหนังก็มักจะพูดกันว่า..
ไม่เห็นจะมาช่วยอะไรกูได้ พวกกูต้องดิ้นรนต่อสู้ด้วยลำแข้งลำขาของตัวเองมาตลอด!
นี่..เท็จ-จริงอย่างไรผมก็แค่ฟังมา และได้ยินอีกว่า..จะหวังพึ่งสมาพันธ์สมาคมฯ ตามเจตนารมณ์ในการก่อตั้ง..เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยที่เกิดขึ้นในแต่ละสาขาอาชีพนั้น เห็นจะยาก!
ที่ยาก..ผมมองว่าไม่ใช่สมาพันธ์สมาคมฯ ไม่ได้ทำอะไรเพื่อสมาชิก หากแต่ “ปัญหา” ในวงการภาพยนตร์ไทยมีสารพัด และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ไขได้แค่พลิกฝ่ามือ!
“ประธาน” ในแต่ละสมัยต่างได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างเต็มที่เต็มกำลัง ซึ่งบางห้วงของบางท่าน ผมได้เห็นกับตาสัมผัสกับใจในความมุ่งมั่น
แต่..อย่างที่ว่า “ปัญหาหนังไทย” มันสลับซับซ้อน-ซ่อนเงื่อนไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ!
ที่พูดเช่นนี้ ไม่ใช่ผมรู้ลึก-รู้ดี เพียงแต่ได้ยิน-ได้ฟังที่เขา (คนวงการหนัง) พูด หรือบางทีก็บ่น-ด่ารัฐบาลให้เข้าหูอยู่บ่อยๆ จึงคิดเอาว่า..
อ๋อ..ที่หนังไทยไม่พัฒนานั้น เพราะมีปัญหาร้อยแปดพันเก้านี้เอง!
ก็..แอบนึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน ที่คนทำหนังไม่ว่าจะผู้สร้าง ผู้กำกับฯ เรียกร้องเอานั่นเอานี่ และคอยกล่าวโทษเอาแต่กับรัฐบาล แต่ไม่เคยจะตำหนิตัวเอง..
ทั้งที่ (บางคน) ทำหนัง บั่นทอนศรัทธาของคนดู!
พูดถึงคุณสมชัย ก็น่าเห็นใจอยู่ไม่น้อยที่ต้องเข้ามาแบกรับภาระเอาในห้วงเวลาที่ประเทศประสบปัญหาสารพันสารเพ โดยเฉพาะเรื่องของโควิด-19 ที่ทำให้ทั้งโรงทั้งหนังต่างช็อตไปตามๆ กัน
ผลงานจึงเลยไม่ปรากฏ กระทั่งการจัดงาน “สุพรรณหงส์” ก็ยังต้องเลื่อน แต่ได้ยินว่าปลายเดือนกุมภาปีหน้าจะยกทัพไปจัดงานที่เดอะมอลล์ โคราช เดี๋ยวรอฟังแถลงข่าวอีกที
ส่วนที่มีความกังวล.. คุณสมชัยจะไม่ไปต่อ (สมัยหน้า) แล้วยังค้นหาคนมาเป็นประธานใหม่ไม่ได้นั้น ผมว่าอย่าวิตกไปเลย..
ถ้าคุณสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ ปฏิเสธ คุณวิชา พูนวรลักษณ์ ไม่เอา คุณโจ๊ก-เกียรติกมล เอี่ยมพึ่งพร เด็กไป ผมใคร่ขอเสนอ..
คุณยอดชาย เมฆสุวรรณ ให้ลองพิจารณาก็แล้วกัน!
ภาพจาก เฟซบุ๊ก : Yodchai Meksuwan Museum of Arts
