5 ก.ย. 63 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้เวลา10.30 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้มอบหมายให้ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปล.กห. เป็นประธานในพิธีลงเสาเอก อาคารเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพเด็กพิการ “โครงการค่ายศิลปะเพื่อมวลมนุษย์” ณ Art for All Village ถนนประชาร่วมใจ 31 เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร
พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปล.กห. ได้กล่าวเปิดงานในพิธีลงเสาเอกอาคารเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพเด็กพิการ “โครงการค่ายศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ ” โดย พล.อ.ประวิตร ได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะถือว่า โครงการนี้ เป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญที่สามารถรวบรวมบุคคลทั้งผู้ไม่พิการ และผู้พิการ ทุกประเภทมาร่วมกิจกรรมเดียวกัน มาใช้ชีวิตร่วมกัน
สามารถเรียนรู้ผ่านการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมกัน และที่สำคัญคือได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน และมั่นคง ถึง 24 ปี จึงเชื่อมั่นว่า คนเราทุกคนสามารถเรียนรู้ และพัฒนาได้ เด็กพิการก็มีความสามารถเรียนรู้ได้ ปรับตัวได้เช่นกัน กิจกรรมศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ จึงเป็นเวทีหนึ่งที่จะให้เยาวชนได้แสดงออก ช่วยให้ได้มีโอกาส มีคนเข้าใจและร่วมมือ ช่วยกันสนับสนุน การที่ได้ร่วมกิจกรรมกับคนพิการทำให้เห็นว่าคนพิการมิได้ต้องการความสงสาร แต่เขาต้องการโอกาสที่จะแสดงความสามารถและไม่เป็นภาระ ต่อครอบครัวหรือสังคม
ซึ่งปัจจุบัน เรามีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เรามีนักเรียน นักศึกษาพิการที่เรียนจบระดับปริญญามากขึ้น เรามีการฝึกอาชีพคนพิการ เรามีกฎหมายให้หน่วยงานรับคนพิการเข้าทำงาน และเรามีงาน friendly Design ที่มีการออกแบบ ให้เหมาะสมสำหรับคนพิการมากขึ้น นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สังคมไทย มีการสนับสนุนคนพิการให้อยู่ร่วมกันในสังคมได้สะดวกยิ่งขึ้น ทำให้เด็กพิการสามารถเป็นกำลังสำคัญที่มีค่ายิ่ง ต่อสังคมและประเทศชาติ ในอนาคตได้ต่อไป
หลังจากนั้น พล.อ.ณัฐ ได้เป็นประธานฝ่ายฆราวาสใน พิธีลงเสาเอกอาคารเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพเด็กพิการ พร้อมเดินเยี่ยมชมกิจกรรมของเด็กพิการ และทักทายให้กำลังใจเด็กๆ อย่างใกล้ชิด ทำให้บรรยากาศของงานเป็นไปด้วยความอบอุ่น และเป็นกันเอง
พล.อ.ณัฐ ยังได้กล่าวขอบคุณ ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ และคณะ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้มีส่วนสำคัญในการจัดกิจกรรม และให้การสนับสนุนโครงการเพื่อประโยชน์แก่สังคมในครั้งนี้ อย่างน่าภาคภูมิใจ พร้อมขอเชิญชวนให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนภาคประชาชน ได้ร่วมกันให้การสนับสนุน และยังช่วยสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ด้วย