“ผบช.สตม” แถลงจับนักแสดงหนุ่มใหญ่หน้าหวานชาวเบลเยี่ยมหลบหนีกบดานนานกว่า 4 ปี และเอเย่นต์ชาวไทยปลอมตราประทับหลอกแรงงานต่างด้าว

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.และพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย

กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช. สตม., พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา รอง ผบช.ตชด. ปฏิบัติราชการ สตม.,

พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ รอง ผบช.สงป. ปฏิบัติราชการ สตม., พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1, พล.ต.ต.จักรทิพย์ ศตพิมลศักดิ์ ผบก.ศท.ตม., พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 และ พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.สส.บก.ตม.1 พร้อมชุดสืบสวนฯ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้าย จำนวน ๒ คดี ดังนี้

คดีที่ 1
กก.สส.บก.ตม.1 ได้รับแจ้งข้อมูลเบาะแสจากอีเมลของ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ว่ามีคนต่างด้าวชาวยุโรป ลักษณะท่าทางดี พูดไทยได้ชัดเจน แต่ไม่มีหนังสือเดินทาง เข้ามาพักอาศัยอยู่ที่อพาร์ตเม้นท์แห่งหนึ่งย่านวังทองหลาง

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ จึงได้จัดกำลังไปเฝ้าสังเกตสืบสวนหาข่าว จนทราบว่าชายชาวต่างชาติดังกล่าวได้เข้ามาพักอาศัยในอาพาร์ตเม้นท์แห่งนั้น ประมาณ 4 ปีกว่า โดยมีพฤติกรรมมักจะพาหญิงชาวไทยไม่ซ้ำหน้าเข้ามาพักอาศัยอยู่ด้วยเสมอ และไม่พบว่ามีงานทำเป็นหลักแหล่ง

เมื่อได้ข้อมูลแน่นอนชัดเจนเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนเข้าทำการตรวจสอบห้องพักของคนต่างด้าวดังกล่าว จากการตรวจสอบทราบว่า ชายชาวต่างชาติดังกล่าว ชื่อ นายปิมาร์ อายุ 49 ปี สัญชาติ เบลเยียม และเมื่อทำการตรวจสอบหนังสือเดินทางจากระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง พบว่าไม่มีข้อมูลการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรแต่อย่างใด

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบระบบลายพิมพ์นิ้วมือพบว่า นายปิมาร์ได้เคยถูกจับกุมในข้อหาปลอมแปลงเอกสารเมื่อปี 2542 (20 ปีก่อน) และได้ถูกบันทึกชื่อในระบบบัญชีเฝ้าดู ซึ่งจะไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้

นายปีมาร์เล่าว่า หลังจากถูกผลักดันกลับประเทศ ตนเองได้เดินทางเข้ามาประเทศไทย เมื่อปี 2557 ทางด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ แต่ได้ถูกปฏิเสธการเข้าเมือง จึงได้บินไปยังประเทศเมียนมาและบินต่อไปยังกัมพูชา และได้ลักลอบเดินทางเข้ามายังประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ และจากการสอบถาม นายปิมาร์ แจ้งว่าระหว่างที่พำนักอยู่ในประเทศไทยนั้น

นายปิมาร์ ได้ถูกแมวมองของ บ.การแสดงในไทยชักชวนให้ไปถ่ายทำภาพยนตร์ละคร ในฐานะตัวประกอบ เพราะนายปีมาร์ สามารถพูดภาษาไทยได้ มีบุคลิกที่เข้ากับคนง่าย และเป็นคนที่ชอบในการแสดง จึงได้รับความไว้วางใจจากวงการแสดงในไทย

เมื่อมีบทละครที่ต้องใช้นักแสดงต่างชาติ นายปีมาร์จะได้รับการว่าจ้างเสมอ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ตม.1 จึงได้ทำการจับกุมในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่ง สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 2
กก.สส.บก.ตม.1 ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1 ให้ทำการสืบสวนการปลอมแปลงตราประทับการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของ กก.2 บก.ตม.1 ซึ่งเป็นหน่วยงานที่พิจารณาการอนุญาตให้พำนักอยู่ในราชอาณาจักร ของกลุ่มผู้ใช้แรงงาน 3 สัญชาติ

โดยเมื่อวันที่ 30 ก.ค.๖๓ น.ส.ซันดาวิน อายุ 35 ปี สัญชาติ เมียนมา ได้เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.1 เพื่อให้ตรวจสอบตราประทับการอนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรประเภทวีซ่า (NON-LA) ของ กก.2 บก.ตม.1 เนื่องจาก สงสัยว่ารอยตราประทับดังกล่าวในหนังสือเดินทางของตนเองเป็นของปลอม

โดยเล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่าตนเองได้ว่าจ้าง น.ส.สุกัญญา เอเย่นต์ชาวไทย ดำเนินการต่อวีซ่าให้กับตนเอง โดยคิดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเป็นเงิน 13,000 บาท และแจ้งว่าได้ดำเนินการต่อวีซ่าเรียบร้อยแล้วนำหนังสือเดินทางมาคืนให้ตนเอง พร้อมแสดงการประทับตราอนุญาต จนถึงวันที่ 31 มี.ค.64 แต่ตนเองสงสัยว่ารอยตราประทับดังกล่าวเป็นของปลอม

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการตรวจสอบไปยัง กก.2 บก.ตม.1 และได้รับการยืนยันว่ารอยตราประทับดังกล่าวเป็นตราปลอม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว จนทราบว่า น.ส.สุกัญญา อายุ 33 ปี สัญชาติไทย มีอาชีพรับจ้างต่อวีซ่าให้กับแรงงานต่างด้าว มีพฤติกรรมในการใช้รอยตราประทับปลอมการอนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักร ประทับตราให้กับแรงงานต่างด้าวอยู่เสมอ

ซึ่ง น.ส.สุกัญญา จะคิดค่าดำเนินการในราคาถูกกว่าเอเย่นต์รายอื่น เพื่อให้แรงงานต่างด้าวบอกต่อ ๆ กันและมาใช้บริการของตนเอง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ จึงได้เฝ้าสังเกตพฤติกรรมของ น.ส.สุกัญญา จนแน่ใจว่า น.ส.สุกัญญา เป็นผู้กระทำจริง จึงได้วางแผนว่าจ้าง น.ส.สุกัญญา ต่อวีซ่าให้กับแรงงานต่างพร้อมนัดส่งหนังสือเดินทาง และเมื่อได้รับหนังสือเดินทางคืน จากการตรวจสอบพบว่าตราประทับในหนังสือเดินทางที่ว่าจ้างน.ส.สุกัญญาไปดำเนินการดังกล่าว เป็นรอยตราประทับปลอม

จึงได้ทำการตรวจสอบซักถามจน น.ส.สุกัญญา ให้การรับสารภาพว่าตนได้ว่าจ้างให้ร้านค้าแห่งหนึ่งใน เขตมีนบุรี ทำตราประทับขึ้นมาจำนวน 2 ชิ้น เป็นตราประทับการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรพร้อมซื่อเจ้าหน้าที่และตำแหน่ง ซึ่งแรงงานต่างด้าวส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่าตราประทับในหนังสือเดินทางของตนเป็นตราปลอม โดยจะมีรายได้จากการประทับตราปลอมในแต่ละเล่มไม่น้อยกว่า 5,000 บาท

ซึ่งน.ส.สุกัญญาจะใช้วิธียื่นเรื่องขออยู่ต่อฯพร้อมหนังสือเดินทางของแรงงานต่างด้าว กับงานขออยู่ต่อ กก.2บก.ตม.1 จริง และจะคัดบางเล่มออกมาประทับรอยตราปลอมผสมกันไป เพื่อให้ยากต่อการสืบสวนจับกุม

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ จึงได้แจ้งข้อหา “…ประทับตราปลอมหรือลงลายมือชื่อปลอมในหนังสือเดินทาง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจะได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อไป โดยเชื่อว่าอาจมีผู้อื่นให้ความร่วมมือช่วยเหลือในการกระทำความผิดอีกด้วย

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ

หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือ เว็บไซต์ www.immigration.go.th


Written By
More from pp
“ดร.นฤมล” ย้ำจุดยืนพปชร.ช่วยคนไทยกินดีอยู่ดี ชูไอเดียผุดกองทุนหนุน SE ร่วมสร้าง ศก.ฐานราก
19 เมษายน 2565-“ดร.นฤมล” เหรัญญิก พปชร. ย้ำจุดยืนพรรค ยังคงยึดมั่นอุดมการณ์เดียวกัน เดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานรากให้ประชาชนกินดีอยู่ดี ชูแนวคิดใหม่ ฉีกกรอบออกจากข้อจำกัดของรายได้ภาษีและเพดานเงินกู้เพื่อเดินหน้าแก้ไขความยากจนให้คนไทย
Read More
0 replies on ““ผบช.สตม” แถลงจับนักแสดงหนุ่มใหญ่หน้าหวานชาวเบลเยี่ยมหลบหนีกบดานนานกว่า 4 ปี และเอเย่นต์ชาวไทยปลอมตราประทับหลอกแรงงานต่างด้าว”