ลมรั่วในเยื่อหุ้มปอดอันตราย…อาจถึงเสียชีวิตได้

โดย นพ. ศิระ  เลาหทัย

 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หน่วยศัลยศาสตร์ทรวงอกและหัวใจ

ภาควิชาศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล

ภาวะลมในเยื่อหุ้มปอดที่เกิดขึ้นเอง (spontaneous pneumothorax) หรือเรียกว่าโรคปอดรั่ว เป็นภาวะที่ถุงลมที่พองผิดปกติในปอดจนเกิดการแตกขึ้นมา ทำให้ลมมีการสะสมในช่องเยื่อหุ้มปอดจนส่งผลทำให้กดเบียดเนื้อปอดบางส่วน และบางรายสามารถเบียดไปยังหัวใจและอาจส่งผลทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งจำเป็นต้องรีบรับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะถ้ารักษาเร็วจะสามารถลดความอันตรายถึงแก่ชีวิตที่จะเกิดได้ โดยกลุ่มโรคนี้จะแบ่งได้เป็น กลุ่ม

กลุ่มแรก คือ ภาวะลมในเยื่อหุ้มปอดที่เกิดขึ้นเองแบบปฐมภูมิ (Primary spontaneous pneumothorax ; PSP) ซึ่งมักพบในกลุ่มวัยรุ่น โดยอุบัติการณ์โรคที่จะเกิดในเพศชายและเพศหญิง คือ 24 และ 10 ราย จากจำนวน 100,000 รายต่อปี

โดยกลุ่มนี้มีความเสี่ยงอาจเกิดจากการสูบบุหรี่ ทั้งยังมีรายงานการศึกษาถึงความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ที่ส่งผลต่อภาวะลมรั่วในเยื่อหุ้มปอด ซึ่งในบางรายอาจพบผู้ป่วยที่เกิดจากภาวะเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) หรือ ลมรั่วตามประจำเดือน (catamenial pneumothorax) โดยผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก เกิดในช่วงที่มีประจำเดือนควบคู่กัน โดยในกลุ่มแรกการรักษาด้วยการผ่าตัดค่อนข้างเข้ามามีบทบาทค่อนข้างสูงและได้ผลลัพธ์ที่ดีและสามารถลดอาการได้

กลุ่มที่สอง คือ ภาวะลมในเยื่อหุ้มปอดที่สัมพันธ์กับโรคอื่น (Secondary pneumothorax) โดยผู้ป่วยกลุ่มนี้มักเป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวร่วมด้วย เช่น ถุงลมโป่งพองเรื้อรัง หรือ โรคทางปอดอย่างอื่น  

โดยส่วนใหญ่อาการของผู้ป่วยที่มีภาวะลมรั่วในเยื่อหุ้มปอดอาจมีอาการตั้งแต่เจ็บแน่นหน้าอกฉับพลัน หายใจหอบเหนื่อยและในรายที่มีอาการมาก อาจเกิดภาวะที่เรียกว่า Tension pneumothorax โดยผู้ป่วยจะมีอาการอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นและมีความดันโลหิตต่ำ โดยภาวะนี้เกิดจากลมรั่วจากถุงลมในเยื่อหุ้มปอดมีปริมาณมากจนไปกดเบียดหลอดเลือดดำใหญ่ที่เข้าที่หัวใจ ส่งผลทำให้หัวใจไม่สามารถส่งเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างปกติ และอาจทำให้เสียชีวิตได้

การรักษาลมรั่วในเยื่อหุ้มปอด ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมาพบแพทย์ เมื่อมีอาการแน่นหน้าอกอยู่แล้ว เมื่อแพทย์ได้ทำการเอกซเรย์และวินิจฉัยว่ามีลมรั่วในเยื่อหุ้มปอดแล้ว ในกรณีที่ลมรั่วมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์  ผู้ป่วยจำเป็นต้องใส่สายระบายทรวงอก เพื่อระบายลมที่รั่วออกมา

โดยขั้นตอนถัดไป คือการตรวจหาสาเหตุของโรค  ในปัจจุบันการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ( CT scan ) ได้เข้ามามีบทบาทค่อนข้างมากในการหาตำแหน่งและจุดที่เกิดการรั่ว และสาเหตุของลมรั่วในเยื่อหุ้มปอด ในกรณีที่ผู้ป่วยตรวจเจอว่ามีถุงลม (subpleural bleb) กลุ่มนั้นมีโอกาสเสี่ยงที่จะกลับมาเป็นซ้ำมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ 

การผ่าตัดภาวะลมรั่วในเยื่อหุ้มปอดนั้น ในปัจจุบันแนวทางในการรักษาภาวะลมรั่วในเยื่อหุ้มปอด สามารถทำได้โดยการผ่าตัดผ่านการส่องกล้อง (Video Assisted Thoracoscopic surgery; VATS) ซึ่งเป็นการผ่าตัดแผลเล็กขนาด 2-3 เซนติเมตรบริเวณซี่โครง โดยเป้าหมายของการผ่าตัดรักษา คือ การจัดการกับสาเหตุของลมรั่วในปอด โดยการตัดถุงลม (blebs, bullae) ที่แตกร่วมกับการสร้างพังผืด (surgical pleurodesis) ระหว่างเยื่อหุ้มปอด เพื่อลดอัตราการกลับมาเป็นซ้ำ

โดยข้อดีของการผ่าตัดส่องกล้องนั้น คือสามารถลดภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้น ลดอาการปวดจากการผ่าตัด รวมไปถึงลดระยะเวลาการนอนพักรักษาโรงพยาบาลหลังการผ่าตัด

สอบถามรายละเอียดการรักษาได้ที่ เฟซบุ๊กผ่าตัดหัวใจและผ่าตัดส่องกล้อง คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล  


Written By
More from pp
โฆษกรัฐบาลขอบคฺณ “แซค แอฟรอน” โพสต์ภาพทะเลภูเก็ตผ่าน Instagram ส่วนตัว ระบุข้อความ “มีความสุขมากที่ได้มาเยือนไทย” ขณะที่ผลสำรวจ Holidu.co.uk เผยกรุงเทพฯ ติดอันดับ Top 10 Worktation
โฆษกรัฐบาล ขอบคฺณ แซค แอฟรอน โพสต์ภาพทะเลภูเก็ตผ่าน Instagram ส่วนตัว ระบุข้อความตอนหนึ่งว่า “มีความสุขมากที่ได้มาเยือนไทย” ขณะที่ผลสำรวจ Holidu.co.uk เผยกรุงเทพฯ...
Read More
0 replies on “ลมรั่วในเยื่อหุ้มปอดอันตราย…อาจถึงเสียชีวิตได้”