เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 ส.ค. ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ นางซาราห์ เทย์เลอร์ (H.E. Mrs. Sarah Taylor) เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ ในโอกาสเข้ารับหน้าที่
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้อวยพรให้เอกอัครราชทูตแคนาดาฯ ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทยอย่างราบรื่นและประสบผลสำเร็จทุกประการ โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติงานของเอกอัครราชทูตแคนาดาฯ ในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับแคนาดาอย่างเต็มที่ และได้ฝากความระลึกถึงไปยังนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ซึ่งได้มีโอกาสพบปะกันในการประชุมระหว่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา
น.ส.ไตรศุลี ระบุว่า ด้านเอกอัครราชทูตแคนาดาฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ดำรงตำแหน่งในประเทศไทย ประเทศไทยและแคนาดามีความสัมพันธ์กันมายาวนาน โดยจะครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ในปี 2564 ซึ่งเป็นโอกาสอันดีในการเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ของทั้งสองประเทศ เพื่อให้เกิดความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกระชับความร่วมมือทางการศึกษา การเกษตร และโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทั้งสองประเทศยังมีศักยภาพและโอกาสที่จะขยายการค้า การลงทุนระหว่างกันในด้านที่มีศักยภาพ พร้อมเชิญชวนนักลงทุนจากแคนาดาเข้ามาลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
และขอให้เอกอัครราชทูตพิจารณากิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศภายหลังสถานการณ์โรคโควิด 19 คลี่คลายไป ด้านเอกอัครราชทูตแคนาดาฯ ยืนยัน ทำงานอย่างเต็มความสามารถเพื่อสนับสนุนความร่วมมือกับไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับรัฐบาลไทย
โอกาสนี้ ทั้งสองได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด 19 เอกอัครราชทูตแคนาดาฯ ชื่นชมการจัดการสถานการณ์โรคโควิด 19 ของไทย และมาตรการต่าง ๆ ทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น และนายกรัฐมนตรีชื่นชมบทบาทของแคนาดาในการสนับสนุนช่วยเหลือต่างๆ เพื่อการรับมือกับโรคโควิด 19 นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะร่วมมือกันในด้านการพัฒนาวัคซีน
นายกรัฐมนตรียินดี และพร้อมสนับสนุนบทบาทแคนาดากับประเทศในภูมิภาค ทั้งในกรอบอาเซียน อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งเอกอัครราชทูตแคนาดาฯ เห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านดังกล่าวทั้งไทยและในระดับภูมิภาค เพื่อเพิ่มโอกาสในด้านต่าง ๆ ให้ครอบคลุมทุกมิติ
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าการเข้ารวม CPTPP ของไทยจะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งต้องฟังเสียงประชาชน ศึกษารายละเอียดอย่างรอบด้าน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับผู้ที่ได้รับผลกระทบในภาคส่วนต่างๆจำนวนมาก จึงต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังรอบครอบ ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อศึกษาถึงข้อดีข้อเสีย พร้อมขอบคุณแคนนาดาที่พร้อมสนับสนุนการเข้าร่วมความตกลง CPTPP โดยขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ฝ่ายไทยพร้อมรับฟังข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาพิจารณา
น.ส.ไตรศุลี กล่าวด้วยว่า เอกอัครราชทูตแคนาดาฯ ยังได้ชื่นชมนายกรัฐมนตรี ในการออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เข้าใจในแนวทางการเดินหน้าทำงานของรัฐบาลในอนาคต และยังชื่นชมจุดยืนของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ประกาศรับฟังความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ มองเยาวชนเป็นศูนย์กลาง เช่นเดียวกับนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ที่ให้ความสำคัญกับบทบาทของคนรุ่นใหม่ อันเป็นอนาคตและกำลังสำคัญของประเทศ