จากการตรวจเจอพฤติกรรมการทุจริตของ “หน่วยบริการ” ที่ปรับแต่งตัวเลข ขอเบิกงบประมาณจากกองทุนบัตรทอง ถือเป็นการยืนยัน “ขบวนการโกงเงินแผ่นดิน” ซึ่งเป็นเรื่องที่ นายอนุทิน รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ยอมรับไม่ได้ และต้องนำตัวผู้ที่กระทำผิดมารับโทษอย่างถึงที่สุด ล้างบางหน่วยบริการที่ทุจริตทั้งขบวนการ
โดยแบ่งการตรวจสอบเป็น 2 รอบ
รอบแรก: พบหน่วยบริการ 20 แห่ง แบ่งเป็นคลินิกเอกชน 18 แห่ง และหน่วยบริการทันตกรรม 2 แห่ง ขณะนี้ดำเนินการเอาผิดทุกช่องทางกฎหมาย และผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุก ชดเชยทางแพ่ง และมีโทษทางปกครอง รวมทั้งมีสิทธิ์ในการถูกเพิกถอนสถานพยาบาล และใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
รอบสอง: ขยายผลตรวจสอบ พบหน่วยบริการ 66 แห่ง โดยพบ “ห้องปฏิบัติการ” 2 แห่ง ทำหลักฐานปลอมกับหน่วยบริการจำนวนมาก
นายอนุทิน ย้ำว่า ต้องการที่จะถอนรากถอนโคน และทำให้เป็นกรณีตัวอย่าง จะไม่ปล่อยให้คนโกงชาติโกงแผ่นดินมีพื้นที่ยืนในสังคมอีกต่อไป และเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ที่จะมีใครมาปู้ยี้ปู้ยำเงินภาษีประชาชน ซึ่งรัฐจัดสรรไว้สำหรับให้บริการด้านสุขภาพแก่ทุกคน เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่
จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบและขยายผล ทั้งทางแพ่งและอาญา รวมถึงจะเพิกถอนสถานพยาบาล พร้อมให้ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังอีก 10 ปี หากพบมีการทุจริตสั่งให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที
หลังจากนี้ทาง สปสช. ต้องเพิ่มขั้นตอนการยืนยันตัวบุคคลโดยใช้ Smart card reader หรือ Application เพื่อเป็นหลักฐานว่ามีผู้มาใช้บริการจริง ถือเป็นการตรวจสอบตั้งแต่ก่อนเริ่มใช้บริการสุขภาพ