นายกรัฐมนตรียืนยันดูแลอาสาสมัครสาธารณสุข จัดสรรเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 7 เดือน พร้อมพิจารณาวันหยุดเพื่อชดเชยวันหยุดสงกรานต์ที่เหลืออยู่ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะดีขึ้น แต่ยังต้องมีการติดตามประเมินผลการทำงานของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเตรียมความพร้อมรองรับแรงงานต่างด้าวและนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาไทย   พร้อมกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด  ติดตามการปฏิบัติงานของข้าราชการในพื้นที่แม้จะมีการผ่อนคลายแล้วก็ตาม ย้ำให้กิจการ/กิจกรรม และสถานประกอบการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด

สำหรับการป้องกันความรุนแรงในภาคใต้นั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งการหน่วยงานความมั่นคง ให้ปฏิบัติงานอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาแก่เจ้าหน้าที่ วันนี้ รัฐบาลทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชน ทั้งการทบทวน ปรับปรุงกฎหมาย อาทิ กฎหมายการลงทุน กฎหมายการค้าออนไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน  แทนข้อกฎหมายเดิมที่เน้นการอนุมัติ อนุญาต หรือการลงโทษ  โดยยึดความโปร่งใส ความเป็นธรรม  เพื่อประเทศสามารถเดินต่อไปข้างหน้า รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก ทั้งสนับสนุนเครื่องมือทำการเกษตร การขุดลอกแหล่งน้ำ รวมทั้งเสนอจัดทำคอกกลางสำหรับโค กระบือประจำหมู่บ้าน สร้างรายได้ส่วนรวม ลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนของประชาชน

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการพบปะภาคธุรกิจ เอกชน ผู้ประกอบการรายใหญ่และรัฐวิสาหกิจชั้นนำ  ในกิจกรรมจิตอาสา “ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี…เราสร้างไปด้วยกัน” ซึ่งได้เชิญชวนให้ร่วมกับรัฐบาลในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะการพัฒนาแหล่งน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค รวมทั้งรัฐวิสาหกิจที่มีงบประมาณด้าน CSR อาจพิจารณาใช้เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้อีกทางหนึ่งด้วย  ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังประชาสัมพันธ์จิตอาสา “ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี…เราสร้างไปด้วยกัน” ซึ่งนิทรรศการเกี่ยวกับข้าวไทย การพัฒนาพันธุ์ข้าว ผลักดันข้าวไทยสู่ตลาดโลก ขอเชิญชวนให้ประชาชนเยี่ยมชมและยังได้ความรู้กลับไป

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีฝากให้รัฐมนตรีทุกท่านทำงานแบบ New Normal ตอบสนองความต้องการของประชาชน และจะมีการหารือถึงวันหยุดชดเชยสงกรานต์ที่เหลืออยู่เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวอีกด้วย