ดร.สาธิต ปลื้มน้ำใจที่งดงามของคนโควิด อาสาส่งผู้ป่วยโควิดด้วยกันถึงบ้านภูมิลำเนา

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชื่นชมน้ำใจของคนโควิด อดีตผู้ป่วยร่วมอาสาส่งผู้ป่วยถึงบ้านต่างจังหวัด พร้อมเผยสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์รักษาผู้ป่วยโรคโควิด 19 จำนวน 33 ราย ส่งผู้ป่วยคนสุดท้ายกลับบ้านวันนี้

22 พ.ค.63 ที่สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กทม. ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเยี่ยมให้กำลังใจและส่งผู้ป่วยโรคโควิด 19 ซึ่งเป็นคนสุดท้ายกลับบ้าน ว่า วันนี้มีความยินดีที่ได้มาส่งผู้ป่วยโควิด 19 รายสุดท้ายของสถาบันประสาทวิทยากลับบ้าน และที่น่าชื่นชมและประทับใจคือมีอดีตผู้ป่วยโควิด 19 ที่เคยรักษาหายจากสถาบันประสาทวิทยาเช่นกัน อาสาขับรถไปส่งถึงบ้านผู้ป่วยที่ต่างจังหวัด สำหรับผู้ป่วยรายสุดท้ายนี้ เป็นผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ ผ่านกระบวนการคัดกรอง และตรวจพบว่าติดเชื้อโรคโควิด 19 ถูกส่งมารักษาที่สถาบันประสาทวิทยาจนครบ 14 วัน ไม่มีอาการแทรกซ้อน

“ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วสามารถดำเนินชีวิตตามปกติ ทุกคนจะได้รับหนังสือรับรองจากโรงพยาบาล หลังจากหายป่วยแล้วจะต้องปรับการใช้ชีวิตตามแนวทางชีวิตวิถีใหม่ การ์ดอย่าตก สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่างระหว่างกัน ช่วยกันปฏิบัติตามแนวทางนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดระลอก 2” ดร.สาธิตกล่าว

จากนั้น ได้เยี่ยมชมการดำเนินงานของหอผู้ป่วยโรคโควิด 19 ซึ่งเปิดตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดในประเทศ  จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 3 เดือน รักษาผู้ป่วยทั้งสิ้น 33 ราย โดยมีอายุรแพทย์ และแพทย์จากทุกแผนกในโรงพยาบาลหมุนเวียนกันมาดูแล พยาบาล 13 ท่าน ผู้ช่วยพยาบาล 6 ท่าน และเจ้าหน้าที่สนับสนุนด้านรังสีวินิจฉัย และทางสถาบันฯ จะทำการปิดตึกหอผู้ป่วยโรคโควิด 19 ชั่วคราว เพื่อทำความสะอาดรองรับผู้ป่วยตามภารกิจของสถาบันฯ ต่อไป อย่างไรก็ตามหากมีผู้ป่วยโควิด 19 เข้ารับการรักษาอีกก็พร้อมให้บริการได้ทันที

Written By
More from pp
เกษตรกรหมูช้ำขาดทุนสะสม 3 ปี ซ้ำต้นทุนพุ่ง ข้าวโพด-ถั่วเหลืองแพง ป้องกันโรคเข้ม หมูขาดแคลน วอนผู้บริโภคเห็นใจ
นายสุนทราภรณ์ สิงห์รีวงศ์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ กล่าวถึงสถานการณ์สุกรในปัจจุบันว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงกำลังประสบปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Read More
0 replies on “ดร.สาธิต ปลื้มน้ำใจที่งดงามของคนโควิด อาสาส่งผู้ป่วยโควิดด้วยกันถึงบ้านภูมิลำเนา”