‘บริจาค’ กับ ‘ครอบครอง’ #ผักกาดหอม

'บริจาค' กับ 'ครอบครอง' #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

กระแสพรรคส้มยังแรงจัดอยู่ครับ….

วานนี้ (๒ พฤศจิกายน) นิด้าโพล เปิดผลสำรวจเรื่อง “กระแสการเมือง ภาคอีสาน”

คำถามคืออยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี เขาจัดมานับสิบอันดับ แต่ขอยกมาเฉพาะ ๕ อันดับแรก

อันดับ ๑ ร้อยละ ๓๒.๔๐ ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้

อันดับ ๒ ร้อยละ ๑๙.๗๐ ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย)

อันดับ ๓ ร้อยละ ๑๘.๕๕ ระบุว่าเป็น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (พรรคประชาชน)

อันดับ ๔ ร้อยละ ๘.๘๐ ระบุว่าเป็น นายชัยเกษม นิติสิริ (พรรคเพื่อไทย)

อันดับ ๕ ร้อยละ ๖.๑๐ ระบุว่าเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พรรคประชาธิปัตย์)

ก็ยังวัดอะไรได้ไม่มากครับ เพราะคำตอบที่บอกว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้มันสูงลิ่ว ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงคำตอบกับระยะเวลาที่เหลืออีกประมาณ ๔-๕ เดือน กว่าจะมีการเลือกตั้งนั้นยังมีอยู่มาก

แต่ก็พอเห็นเป็นแนวทาง

อีสานเป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย แต่ “อนุทิน” ขึ้นมาเป็นอันดับ ๑ คู่คี่กับ “หัวหน้าเท้ง” หายใจรดต้นคอมาเป็นอันดับ ๒

ที่น่าจับตาคือ “อภิสิทธิ์” โผล่พรวดมายืนอันดับที่ ๔ แซง “เจ๊หน่อย-คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์”, พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

แสดงว่าฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ในภาคอีสานเริ่มกลับมาแล้ว

ส่วนคำถามที่ว่าพรรคการเมืองที่คนอีสานจะสนับสนุนในวันนี้คือพรรคอะไร

อันดับ ๑ ร้อยละ ๒๖.๐๕ ระบุว่าเป็น พรรคประชาชน

อันดับ ๒ ร้อยละ ๒๔.๖๕ ระบุว่า ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้

อันดับ ๓ ร้อยละ ๑๖.๘๕ ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย

อันดับ ๔ ร้อยละ ๑๕.๗๕ ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย

อันดับ ๕ ร้อยละ ๕.๕๕ ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์

จะเห็นว่าในแง่พรรคการเมืองนั้น “พรรคส้ม” ยังมาแรง

เพื่อไทยกับภูมิใจไทยสูสี

ที่น่าประหลาดใจอีกเช่นเคยคือพรรคประชาธิปัตย์

สรุป คนอีสานอยากให้ “อนุทิน” เป็นนายกฯ แต่จะเลือกพรรคประชาชน

เลือกตั้งปี ๒๕๖๖ นิด้าโพลสำรวจพบว่าคนไทยอยากให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นนายกฯ แต่จะเลือกพรรคเพื่อไทย

ผลออกมาก็ใกล้เคียง “พิธา” เกือบได้เป็นนายกฯ เพราะประชาชนเลือกพรรคก้าวไกลมาเป็นอันดับหนึ่ง

ก็ว่ากันไปครับ

นี่คือโพล…

ของจริงไม่มีใครตอบได้ เพราะยังไม่มีการเลือกตั้ง

แต่วัดกระแสคร่าวๆ พรรคส้ม ซึ่งตรวจสอบรัฐบาลอย่างหนักหน่วง ตรวจสอบไปถึงประชาชนที่ยืนข้างทหาร แต่กลับมิได้ทำให้ความนิยมในพรรคส้มเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

แถมยังมีสัญญาณว่าจะลดลงด้วยซ้ำ

ยกตัวอย่างสดๆ ร้อนๆ กรณีการบริจาคเสื้อเกราะของมูลนิธิ กันจอมพลัง ช่วยสู้

พรรคส้มเขาฟันธงไปแล้วว่า คุก!

“โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ” สส.กทม. พรรคประชาชน ๑ ใน ๔๕ จำเลยในข้อหาร่วมกันเป็นอั้งยี่-ซ่องโจร, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ บางรายยังมีข้อหามียุทธภัณฑ์ (เสื้อเกราะ) และเครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในครอบครอง และหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขัง ด้วย

“โตโต้” จึงคิดว่าตัวเองรู้ดีกว่าใคร

เขาโพสต์ข้อความไว้ดังนี้ครับ

“…ประเด็นที่กำลังถกเถียงกันอยู่ว่าซื้อ #เสื้อเกราะ ล็อกสเปกหรือไม่ เห็นถกกันอยู่แค่ตรงนั้น แต่จะทราบหรือไม่ว่าเสื้อเกราะถ้ามันกันกระสุนได้ (ไม่ว่ากระสุนชนิดใด) ศาลเคยพิพากษามาแล้วว่ามันก็คือ ‘ยุทธภัณฑ์’ ไม่ว่าคุณจะซื้อแถวคลองหลอด หรือแอปส้ม แล้วมีแผ่นพลาสติกหรือแผ่นเหล็กบางๆ ไว้เล่น บีบีกัน หากกันกระสุนชนิดใดชนิดหนึ่งได้ก็ถือว่าเป็นยุทธภัณฑ์

ดังนั้นคนที่ซื้อหรือจัดหาที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้ได้ทำผิดกฎหมายไปแล้ว ทั้งคนและหน่วยงานที่ขอสนับสนุนเองก็ด้วย

เรื่องนี้การที่มีบุคคลหรือกลุ่มเอกชนจัดหาเสื้อเกราะให้กองทัพหรือตำรวจ แม้มีเจตนาดี แต่เป็นการกระทำที่อยู่ในข่ายความผิดตามตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. ๒๕๓๐ มาตรา ๑๘ โทษจำคุกไม่เกิน ๕ ปี หรือปรับไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะเดียวกัน หน่วยงานของรัฐที่รับยุทธภัณฑ์จากเอกชน โดยไม่มีการตรวจสอบหรืออนุญาตตามระเบียบ ย่อมสะท้อนความบกพร่องในระบบบริหาร และอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

ความมั่นคงของชาติ ไม่ควรถูกทำให้กลายเป็นกิจกรรมการบริจาคยุทธภัณฑ์โดยบุคคลภายนอก รัฐเองต้องมีระบบจัดหาให้เพียงพอ มีการตรวจรับ และอนุมัติที่โปร่งใส เพื่อความปลอดภัยและความถูกต้องตามกฎหมาย…”

ครับ…มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้ “ยุทธภัณฑ์” หมายความว่า อาวุธ เครื่องอุปกรณ์ของอาวุธ สารเคมี สารชีวะ สารรังสี หรือเครื่องมือเครื่องใช้ที่อาจนําไปใช้ในการรบหรือการสงครามได้

เสื้อเกราะ เป็นยุทธภัณฑ์

โดรน ถือเป็นยุทธภัณฑ์ เพราะเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ที่อาจนําไปใช้ในการรบหรือการสงครามได้

แต่พรรคส้มไม่พูดถึงการบริจาคโดรนแม้แต่นิดเดียว

แล้วการ “บริจาค” ยุทธภัณฑ์ ผิด พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. ๒๕๓๐ หรือไม่

วันนี้ใช้บริการ ทนายเกิดผล แก้วเกิด เสียหน่อย

คุณทนายโพสต์ข้อความไว้ว่า

“…#การซื้อเสื้อเกราะเพื่อบริจาคให้กับทหาร ผิดกฎหมายหรือไม่ โดยปกติกฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจนว่า ห้ามไม่ให้ครอบครองยุทธภัณฑ์เว้นแต่จะได้รับอนุญาต (มาตรา ๑๕ ตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. ๒๕๓๐)

ดังนั้นโดยทั่วไปแล้ว การมี ไว้ในครอบครอง โดยทั่วไปย่อมเป็นความผิด

แต่คำว่า #มี ตามความหมายของพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. ๒๕๓๐ มาตรา ๔ ให้คำนิยามว่า ‘มี’ หมายถึง การมีกรรมสิทธิ์ หรือมีไว้ครอบครองซึ่งยุทธภัณฑ์ (มาตรา ๔)

ในการครอบครอง ตามความหมายนี้ย่อมหมายถึงการมีกรรมสิทธิ์ #หรือเจตนาจะครอบครองไว้เพื่อตน เท่านั้น จึงจะเป็นความผิดตามกฎหมาย

หากไม่ได้มีเจตนาครอบครองสิ่งผิดกฎหมายไว้เพื่อตนย่อมไม่เป็นความผิดเพราะถือว่าขาดองค์ประกอบภายใน (ขาดเจตนา ตาม ป.อ.มาตรา ๕๙)

ซึ่งเคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การครอบครองสิ่งผิดกฎหมายไว้ #โดยมิได้มีเจตนาจะครอบครองเพื่อตน แต่ครอบครองไปชั่วคราวหรือเจตนาจะนำไปส่งมอบให้กับทางราชการ

ไม่มีความผิดฐานครอบครองสิ่งผิดกฎหมาย ตามคำพิพากษาศาลฎีกาดังต่อไปนี้

คำพิพากษาฎีกาที่ ๒๙๓/๒๕๓๗ (เรื่องของเสี่ยปอ…เก็บปืนมาคืน)

จำเลยเป็นพนักงานขับรถของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ขับรถยนต์ไปที่เกิดเหตุรถชนกัน มีผู้นำถุงบรรจุอาวุธปืนมามอบให้แจ้งว่าเป็นของผู้ได้รับบาดเจ็บ จำเลยได้ติดตามหาเจ้าของ #เพื่อมอบอาวุธปืนคืนเมื่อไม่พบก็ตั้งใจจะมอบให้แก่เจ้าพนักงานตำรวจ แต่ถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับเสียก่อน ดังนี้จำเลยไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาไปในทางสาธารณะ

คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๔๒๘/๒๕๔๘

การที่จำเลย #รับฝากอาวุธปืน เหล็กพานท้าย และด้ามปืนของกลางไว้จาก ภ. #เพื่อทำความสะอาด #ถือได้ว่าจำเลยยึดถืออาวุธปืนไว้แทน ภ. เท่านั้น #ไม่ได้มีเจตนายึดถือเพื่อตน

อันจะฟังว่าจำเลยมีอาวุธปืนของกลางไว้ในความครอบครอง ตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา ๔ (๖) จำเลยจึงไม่มีความผิดต่อ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ

ดังนั้น การซื้อเสื้อเกราะเพื่อบริจาคให้กับกองทัพ จึงไม่มีเจตนาครอบครองเพื่อตนเอง ย่อมไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย…”

ครับ…ม็อบสามนิ้วโดนคดีมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองกันหลายคน เพราะครอบครองไว้ใช้จริงๆ

แต่การบริจาคยุทธภัณฑ์ มิได้มีเจตนาครอบครอง นี่คือความต่าง

ก็เอาใจช่วยให้พรรคพวกของโตโต้รอดจากคดีมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองนะครับ.

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
0 replies on “‘บริจาค’ กับ ‘ครอบครอง’ #ผักกาดหอม”