9 ตุลาคม 2568 – ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า คดี 44 สส. ของอดีตพรรคก้าวไกล กรณีลงชื่อแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 จะสามารถ สรุปได้ในเดือนธ.ค.นี้ ว่า
เรายืนยันเรื่องความบริสุทธิ์ของเรา ว่า การทำหน้าที่ของสส. ของพรรคก้าวไกลเดิม ไม่ได้ผิดกฎหมาย และจริยธรรม ยืนยันว่าทุกสิ่งไม่ได้ไปแอบทำ แต่เป็นเรื่องความโปร่งใส ที่พยายามทำหน้าที่ สส.ในอำนาจนิติบัญญัติ เมื่อเราดำเนินการแล้ว ไม่ได้หมายความว่าจะสำเร็จทันที แต่ต้องมีการถกเถียงกันในสภา และมีขั้นตอนอีกพอสมควร ซึ่งยังไปไม่ถึงขั้นนั้นเพราะประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น มองว่าไม่สามารถบรรจุวาระดังกล่าวได้
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องการสู้คดีเราทำอย่างเต็มที่ มีบุคคลที่ถูกกล่าวหาเยอะ ซึ่งทางป.ป.ช.ก็ให้เวลาชี้แจงพอสมควร เราก็ดำเนินการไปทั้งนี้อย่าเพิ่งไปตั้งธงว่าเราจะโดนแน่นอน เชื่อว่าการที่เราทำหน้าที่พิสูจน์ตัวเอง จึงไม่มีประโยชน์ที่จะใช้กลไกนิติสงครามกับสส.พรรคประชาชน ดังนั้นตนหวังว่า เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะป.ป.ช. จะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่เพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองหรือกลั่นแกล้งใคร
ส่วนกังวลหรือไม่ที่ ป.ป.ช. จะไต่สวนเป็นรายบุคคล นายรังสิมันต์ กล่าวว่าไม่กังวลอะไร เราอยู่กับเรื่อง 44 สส.มานาน ตนก็พยายามสู้คดีอย่างเต็มที่ ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจ เราก็ทำหน้าที่สส. และเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง ดังนั้นไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะทุกอย่างอยู่บนโต๊ะมีความโปร่งใส และยืนยันว่าประชาชนจะสนับสนุนพรรคประชาชนอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่า การที่คดีนี้จะรู้ผลช่วงใกล้เลือกตั้ง จะกระทบกับยุทธศาสตร์พรรคหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าอย่าเพิ่งตั้งธงว่าจะโดนฟันแน่ หากเชื่อว่ามีธง แสดงว่าเรารู้คำตอบล่วงหน้า กระบวนการยุติธรรมก็ไม่มีอยู่จริง จึงอยากให้สื่อมวลชนถามป.ป.ช. ว่ามีธงหรือไม่
ส่วนหากรอดจะถูกมองว่าเป็นการดีลกับการเมืองสีน้ำเงินหรือไม่ นายรังสิมันต์ หัวเราะพร้อมระบุว่า ยืนยันว่าเราไม่เคยมีการสนทนาทั้งซีเรียสและไม่ซีเรียสกับทางพรรคภูมิใจไทยในการช่วยเหลือทั้ง 44 คน เราเห็นบทเรียนการสร้างดีลต่างๆแล้ว ดังนั้นเมื่อมีข้อกล่าวหาเราก็ต้องว่าตามกระบวนการ ยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรี ว่าเราไม่มีดีลกับสีน้ำเงินหรือค่ายไหนทั้งสิ้น.