1.ความเชื่อ: การทำงานของไตที่ลดลงคือไตทำงานลดลงเพียงข้างเดียว
ข้อเท็จจริง: การทำงานของไตที่วัดจากค่า creatinine เพื่อคำนวณค่า estimated glomerular filtration rate (eGFR) เป็นการทำงานวัดการกรองของเสียของไตรวมกันทั้งสองข้าง หากต้องการวัดแยกการ ทำงานของไตแนะนำวัดด้วยการทำ Renal scan ซึ่งแพทย์มักจะเลือกทำในเคสที่ต้องประเมินแยกข้าง เช่น ก่อนบริจาคไต หรือคนไข้มีพยาธิสภาพเช่น ก้อนหรือไตบวมน้ำ เพียงด้านใดด้านนึง และอยากประเมินก่อนผ่าตัด
2.ความเชื่อ: ถ้าเป็นโรคไตต้องฟอกไตทุกคน
ข้อเท็จจริง: โรคไตเรื้อรังมีทั้งหมด 5 ระยะ ในระยะที่ 5 ที่การทำงานของไตน้อยกว่า 15 แพทย์จะติดตามอย่างใกล้ชิดและทำการบำบัดทดแทนไตหรือฟอกไตเฉพาะรายที่มีอาการจากการขับของเสียออกไม่เพียงพอ หรือภาวะยูรีเมีย และให้การรักษาแล้วไม่ดีขึ้นสามารถให้แพทย์ ประเมินความเสี่ยงของการฟอกไตได้ หรือใช้แบบสอบถามจากเว็บไซต์ https://www.kidneyfailurerisk.com เพิ่มเติมได้ โดยต้องใส่ข้อมูลอายุ เพศ เชื้อชาติ ค่า eGFR และค่า microalbumin/creatinine ratio ด้วย
3.ความเชื่อ: ถ้าฟอกไตแล้วไม่ต้องคุมอาหาร
ข้อเท็จจริง: ฟอกไตทางหลอดเลือดมักทำเพียงสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ ครั้งละ 4 ชั่วโมง ดังนั้นจะไม่เพียงพอกับการขจัดของเสียออกจากไต ท่านควรควบคุมอาหารบางชนิดต่อ เช่น
ลดอาหารโซเดียม ลดอาหารโพแทสเซียมสูง และจำกัดน้ำตามความเหมาะสมถ้าปัสสาวะออกน้อยลง อาหารที่แพทย์มักจะให้ทานเพิ่มได้คืออาหารจำพวกโปรตีนไม่ติดมัน เนื่องจากการฟอกไตจะทำให้สูญเสียโปรตีนและกล้ามเนื้อได้ ควรปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยทุกครั้ง
4.ความเชื่อ: ถ้าปวดหลังต้องเป็นโรคไต
ข้อเท็จจริง: ปวดหลังอาจมีสาเหตุอย่างอื่น เช่น โรคกล้ามเนื้อ กระดูก โรคทางเดินอาหารและตับอ่อนและหลอดเลือดบางชนิด หากมีอาการที่สงสัยปวดหลังจากไตมักมีปัสสาวะผิดปกติด้วยหรือปวดร้าวลงมาที่ขาหนีบ อย่างไรก็ตามหากมีข้อสงสัยสามารถขอรับคำปรึกษากับอายุรแพทย์โรคไต
5.ความเชื่อ: รับประทานยาเยอะๆ ทำให้เป็นโรคไต
ข้อเท็จจริง: ยาบางชนิดต้องระมัดระวังในผู้ป่วยโรคไต เช่น ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs และยาฆ่าเชื้อ
แต่ยาประจำตัวเช่น ยาไขมัน ยาเบาหวาน ความดัน ทั้งหมดนี้หากรับประทานอย่างถูกต้อง และมีการติดตามค่าไตสม่ำเสมอ ไม่ได้มีผลทำให้ไตวาย และยังทำให้คุมโรคอันอาจก่อให้เกิดโรคไตในอนาคตได้อีกด้วย