พปชร.แนะ ญาติผู้เสียชีวิต และทรัพย์สินเสียหายให้ฟ้องดำเนินคดีกับฮุนเซน

4 สิงหาคม 2568 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า “ตามที่ท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะอดีต ผบ.ทบ. ลงไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจทหาร กองกำลังสุรนารี กองทัพภาค 2 และพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสู้รบที่อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ พร้อมคณะอดีตนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ประกอบด้วย อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ,อดีตผู้บัญชาการทหารบก 2 ท่าน อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม อดีตเสนาธิการทหารบก ,อดีตแม่ทัพภาคที่ 1,2,4และ อดีตผู้บังคับบัญชาอีกหลายท่าน เพื่อรับฟังปัญหาในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหา แก่พี่น้องประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม

ปัญหาที่พบคือความสูญเสียชีวิตของพี่น้องประชาชนและทหารหาญ โดยมีประชาชน เสียชีวิต 17 ราย บาดเจ็บสาหัส 12 ราย บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย (รวม 52 ราย) ทางทีมงานกฏหมาย พปชร. พิจารณาแล้วเห็นว่า จากพยานหลักฐานที่ปรากฎทางสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งไทยและกัมพูชา โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ ของ ทางการกัมพูชา และของ นายฮุนเซนเอง ปรากฏพยานหลักฐานทั้งภาพและข้อความแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของนายฮุนเซน ในการสั่งการ และบัญชาการรบเอง

ซึ่งกรณีดังกล่าว มีการปฎิบัติการทางทหารจากประเทศกัมพูชาและทำให้พี่น้องประชาชน เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำกระทำผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา อันเป็นความผิด ตาม ป.อาญา มาตรา83,84,86 ,288 และ มาตรา289 และ ยังเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับความมั่นคงนอกราชอาณาจักร ตาม ป.อาญา ม.119,120,127 ,128และ ม.129 อีกด้วย

การที่นายฮุนเซน ได้วางแผนการรบ สั่งการ และ ให้การสนับสนุนดังกล่าว ผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด ตามมาตรา119,120,127 ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับตัวการในความผิดนั้น (ตามมาตรา 129) จึงเสนอแนะ ญาติผู้เสียชีวิต และทรัพย์สินเสียหายให้ฟ้องดำเนินคดีกับฮุนเซนตามกฏหมาย

อาจมีการโต้แย้งว่า การสั่งการของนายฮุนเซน เป็นการกระทำผิด นอกประเทศไทย กรณีดังกล่าว แม้ว่าการกระทำผิดของนายฮุนเซน จะเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรไทย แต่สามารถดำเนินคดี และรับโทษในประเทศได้ ตาม มาตรา 7 และ 8 ป.อาญา ซึ่งคดีดังกล่าว อัยการสูงสุดจะเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ และมั่นใจว่า ท่านอัยการสูงสุดท่านปัจจุบัน ท่านเห็นแก่ ความสูญเสียของ ประชาชนชาวไทย มากกว่าประเทศกัมพูชาแน่นอน”

พล.ต.ท.ปิยะฯ กล่าว “พยานหลักฐานดังกล่าวชัดเจนมาก และไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะสื่อออนไลน์บางส่วนเป็นของทางการกัมพูชาและเป็นของนายฮุนเซน เอง ซึ่งไม่สามารถปฏิเสธได้ และที่สำคัญ หากศาลฯ ได้ออกหมายจับนายฮุนเซนฯกับพวก สามารถส่งหมายจับดังกล่าว ไปยังตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพล เพื่อให้ประเทศที่อยู่ในสนธิสัญญาฯ ส่งผู้ร้ายข้ามแดน มาดำเนินคดีที่ประเทศไทยได้ ซึ่งญาติผู้เสียชีวิต สามารถดำเนินคดี ได้ทั้งคดีอาญาและฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจากนายฮุนเซน และกัมพูชาใต้โดยเป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทยจะต้อง ตัวกลางในการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายและได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้“

“สำหรับการสู้รบและยึดพื้นที่บริเวณ ช่องอานม้า ขอให้กำลังใจ พี่น้องทหารที่เสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง แม้ชีวิตเพื่อปกป้องพื้นแผ่นดินไทยไว้ให้แก่ลูกหลาน ขอให้สามารถยึดพื้นที่กลับคืนได้โดยเร็วและปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ทุกคน แต่มีเสียงบ่นน้อยใจจากพี่น้องทหารหาญว่า เสียสละทั้งชีวิต แต่ได้รับเงินชดเชย จากรัฐบาลเพื่อไทยแค่หนึ่งล้านบาท แต่ผู้ชุมนุมทางการเมืองเสื้อแดงได้รับเงินถึง 7-8 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณซอฟต์พาวเวอร์ ที่เอาไปโฆษณากางเกงช้างและอื่นๆ หลายพันล้านบาท และที่สำคัญ ครม.ในการประชุมเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2568 ได้อนุมัติ การจัดงานเทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ (Electronic Dance Music : EDM) โดยกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ททท. และกระทรวงวัฒนธรรม ใช้งบประมาณกว่า 1,600 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณส่วนนี้ควรเอามาช่วยเหลือพี่น้องทหารและพี่น้องประชาชน ไม่ดีกว่าหรือ”

“นอกจากนี้ อยากฝากพี่น้องประชาชนทั้ง 20 อำเภอ 7 จังหวัด ที่มีเขตติดต่อกับประเทศกัมพูชาให้ช่วยกันสอดส่องดูอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน ที่บินอยู่ในเขตพื้นที่ ซึ่งในขณะนี้ ได้มีการประกาศห้ามบินในทุกเขตของประเทศไทย หากพบมีการบินโดรน ในพื้นที่ใด ขอให้แจ้งที่เบอร์โทร 1374 หรือกองทัพภาคที่ 1 หรือ กองทัพภาคที่ 2 หรือหน่วยทหารในพื้นที่ เพื่อป้องกันการสอดแนมจากฝ่ายตรงข้าม และฝากพี่น้องประชาชนที่มีจิตใจรักประเทศชาติและบ้านเมือง ช่วยกันหาตัวไส้ศึก ที่สั่งการให้ทหารถอย หรือแทรกแซง การทำงานของเจ้าหน้าที่ทหาร ทำให้ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่”

ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าว กรณีมีคนมาทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ แก้ตัวให้ น.ส.แพทองธารฯนายกรัฐมนตรีที่ถูกพักการปฏิบัติหน้าที่ โดยพยายามออกสื่อต่างๆนั้น พล.ต.ท.ปิยะฯ กล่าวว่า “กรณีนั้น ยิ่งตอกย้ำ รัฐบาลเพื่อไทยและตัวท่านนายกฯเอง ถ้าเอาคนที่มีความใกล้ชิดกับประเทศกัมพูชาเนื่องจากได้หลบหนีคดีจากประเทศไทยไปพึ่งความช่วยเหลือจากนายฮุนเซนเพราะถูกกล่าวหาคดี ม.112 และมีคดีเกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธสงคราม และความรุนแรงในการชุมนุมที่ผ่านมา และอาจจะโยงถึงชายชุดดำที่เผาเซ็นทรัลเวิร์ลและบ้านเรือนพี่น้องประชาขนที่ผ่านมา ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง จะทำให้พี่น้องประชาชนคิดได้เองว่า ท่านนายกฯเป็นคนอย่างไร”

0 replies on “พปชร.แนะ ญาติผู้เสียชีวิต และทรัพย์สินเสียหายให้ฟ้องดำเนินคดีกับฮุนเซน”