‘พิชัย’ แจง เชิญ “ทักษิณ” มาให้ข้อคิดเห็น ยันนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพิ่ม แต่ต้องไม่กระทบคนไทย ตั้งเป้าภาษีไม่ให้น้อยกว่าคู่แข่ง

11 กรกฎาคม 2568 – ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านพิษณุโลก นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้เรียกประชุมทีมไทยแลนด์ พร้อมทั้งทีมที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อรับมือมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา หลัง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เผยแพร่จดหมายแจ้งอัตราภาษีนำเข้า ซึ่งไทยถูกเก็บที่ 36%

โดยตั้งแต่เวลา 07.00 น. รัฐมนตรีทีมไทยแลนด์และทีมที่ปรึกษานโยบายของนายกฯทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี รวมทั้งยังมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯ

กระทั่งเวลา 07.47 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าร่วมประชุมวงดังกล่าวด้วย โดยการหารือใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ก่อนที่เวลา 10.54 น. นายทักษิณ เดินทางออกจากบ้านพิษณุโลก โดยมี นายจตุพร รอ.ธรรมนัส และนายอรรถกร เดินออกมาส่ง

ต่อมาเวลา 11.05 น. นายพิชัย แถลงผลการประชุมว่า วันนี้เชิญหลายหน่วยงาน มีทีมที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก รวมถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาหารือกรณีที่สหรัฐเผยแพร่จดหมายเรียกเก็บภาษีจากไทย 36% ขอย้ำว่าอันนั้นเป็นการเลื่อนเวลาให้เรา เรายังไม่ได้เจรจาถึงที่สุด วันนี้ได้มีการทบทวนกันว่าเรามีเวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. เพื่อให้ได้ข้อยุติกับสหรัฐ ตนยังเชื่อว่าการได้ข้อยุติวันที่ 1 ส.ค. จะได้ข้อยุติระดับกว้างๆ เสร็จแล้วยังต้องคุยกันอีกนาน

สำหรับการหารือในวันนี้เป็นเพราะวันที่ 10 ก.ค. ตนได้เรียกประชุม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และบริษัทใหญ่ๆ ว่าหากได้รับผลกระทบในเรื่องใดจะมีมาตรการอย่างไรในการรองรับโดยแยกเป็นหมวดๆ ไป เรามีข้อมูลเยอะพอสมควรและกลับไปทำการบ้านกัน ซึ่งคงได้ก่อนวันที่ 14 ก.ค. เพื่อดูผลกระทบของแต่ละส่วนเป็นอย่างไร และเพื่อให้การทำงานระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐเดินไปได้อย่างเรียบร้อย จึงเป็นที่มาของการคุยกันวันนี้

นายพิชัย กล่าวอีกว่า สิ่งที่คุยกันคือเราได้ให้ข้อมูลทั้งหมดที่ทำงานไปให้รู้ในรายละเอียดว่าทำอะไรไปบ้างและมีท่าทีความคิดเห็นอะไรกันบ้าง เพื่อมาดูกันว่าถ้าเกิดผลกระทบจะแก้ปัญหาอย่างไร โดยพอจะสรุปได้ว่าวิธีที่จะคุยกับสหรัฐ มองในมุมมองการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐแล้ว ทั้งหมดที่เราจะทำ ข้อที่หนึ่งต้องไม่ให้ได้รับผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ ทั้งภาคเกษตรกรและภาคอุตสาหกรรมรายย่อย สองเราได้แจ้งไปว่าการทำครั้งนี้หลายเรื่องเราอาจต้องรับซื้อสินค้าเข้ามา ซึ่งเรารับซื้อปกติอยู่แล้ว ก็ได้โอกาสในการปรับตัวเราเอง โดยคุยกันว่าจะมีวิธีการปรับอย่างไรให้สินค้าที่นำเข้ามาได้รับการกำกับดูแลให้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากที่สุด และเร่งความรวดเร็วเพิ่มประสิทธิภาพทั้งขาเข้าขาออก สิ่งสำคัญที่สุดได้พูดกันว่าเรารองรับมาตรการที่จะช่วยเหลือหลายเรื่อง ซึ่งจะไปทำการบ้านในรายละเอียด หลักการมีแล้ว กลุ่มเกษตรจะทำอย่างไร อุตสาหกรรมรายย่อยจะทำอย่างไร กำหนดกว้างๆ ไว้แล้วว่ามาตรการคืออะไรและจะไปลงรายละเอียดต่อไป

เมื่อถามว่า ตัวเลขภาษีที่เวียดนามได้ 20% ทำให้ภาคเอกชนเป็นห่วงว่าหากไทยได้มากกว่า 20% อาจทำให้กระทบต่อสินค้าประเภทเดียวกันเพราะเราเสียภาษีมากกว่าคู่แข่ง จะมีมาตรการอย่างไร นายพิชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราคุยกันว่าสิ่งที่เราทำจะทำให้ดีที่สุด เราเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำไปหลายๆ เรื่อง ที่ไม่ใช่เรื่องอัตราภาษีอย่างเดียวมีเรื่องอื่นๆ ประกอบด้วย เราจะชี้แจงให้ชัดเจนและหวังว่าสิ่งที่เราได้ เราน่าจะได้ในส่วนที่ไม่ทำให้เป็นการเสียเปรียบ และทางสหรัฐเขาแบ่งสินค้าเป็นสองสามประเภทใหญ่ๆ ประเภทที่เป็นสินค้าทั่วไปเริ่มที่ 10% ประเภทไหนตกที่ 20% เช่นเวียดนาม และอีกประเภทคือสินค้าผ่านทางที่นำเข้ามาประกอบแล้วส่งออก เราเชื่อว่าประเทศไทยวันนี้เริ่มเข้มงวดและกวดขันส่วนนี้ เราสามารถดูแลได้ดีเมื่อเทียบกับบางประเทศ

ส่วนข้อมูลที่ประชุมกันแล้วจะสรุปส่งไปยังสหรัฐเมื่อใดนั้น นายพิชัย กล่าวว่า เราส่งข้อเสนอเรื่องมาตรการภาษีไปแล้ววันที่ 6 ก.ค. วันนี้เรามาดูรายละเอียดเป็นรายสินค้า และให้เห็นว่าสิ่งที่เราทำเพื่อยืนยันว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว จะส่งข้อมูลไปเพิ่มหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างพูดคุย หาโอกาสคุยทางออนไลน์กับผู้ปฏิบัติว่ายังต้องการอะไรอีก ส่วนจะยื่นหรือไม่นั้น หากมีก็อีกเล็กน้อยที่เราจะปรับปรุงในสิ่งที่เราควรปรับปรุงอยู่แล้ว อย่างไรก็ต้องทำ และถ้าจำเป็นก็พร้อมเดินทาง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เราวางเป้าไว้หรือไม่ว่าอยากได้ตัวเลขภาษีที่เท่าไหร่ นายพิชัย กล่าวว่า การวางเป้าต้องไม่ให้เสียเปรียบคู่แข่งขั้น

เมื่อถามว่า หากเป็นตัวเลข 25% จะพอใจหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า “แล้วเสียเปรียบหรือไม่หาก 25% ถ้าเสียเปรียบเราไม่วางเป้าไว้ที่ตัวเลขนี้”

เมื่อถามถึงการที่นายทักษิณมาร่วมประชุมด้วยนั้น ได้ให้ความเห็นอะไรบ้าง นายพิชัย กล่าวว่า ได้เชิญทีมที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลกมาร่วมประชุม และเห็นว่านายทักษิณรู้เรื่องเหล่านี้ดีน่าจะให้ข้อคิดเห็นได้ดี จึงเชิญมาร่วมประชุมด้วย

ที่มา เว็บไซต์ไทยโพสต์

https://www.thaipost.net/politics-news/822604/

Written By
More from pp
นายกฯ ปลื้ม กรุงเทพฯ ครองอันดับ 2 เมืองที่ดีที่สุดในโลกสำหรับกลุ่ม “Digital Nomads” ปี 2022 กำชับทุกฝ่ายต่อยอดโอกาสพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในทุกมิติ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
24 มิถุนายน 2565- นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่เว็บไซต์ Instant Offices...
Read More
0 replies on “‘พิชัย’ แจง เชิญ “ทักษิณ” มาให้ข้อคิดเห็น ยันนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพิ่ม แต่ต้องไม่กระทบคนไทย ตั้งเป้าภาษีไม่ให้น้อยกว่าคู่แข่ง”