ฉิบหายเพราะ ‘กาสิโน’ #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

เด็ดหัวไปแล้วหนึ่ง!

“ทักษิณ” สั่งไอ้เสือถอย ถอนร่างกฎหมายกาสิโน ออกจากสารบบของสภาผู้แทนราษฎรไปก่อน แต่จะมีอีกรอบหรือเปล่า ยังเป็นที่สงสัย

เพราะลงทุนลงแรงไปเยอะพอควรแล้ว

ที่ประชุมสภาผู้แทนฯ วานนี้ (๙ กรกฎาคม) มีมติ ๒๕๓ ต่อ ๖๗ เสียง ให้ถอนร่างกฎหมายกาสิโนออกไป พร้อมคำชี้แจงจากรัฐบาล ไม่รู้กาสิโนจะรีเทิร์นหรือไม่

“…จะมีการนำร่างฉบับดังกล่าวกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้งหรือไม่นั้น ยอมรับว่าตอบไม่ได้ แต่ก็รู้กันดีว่ากฎหมายในลักษณะนี้ ใช้การดำเนินการค่อนข้างนาน และหากในสภายังมีความเห็นที่แตกต่าง ยิ่งใช้เวลานานเป็นเท่าตัว เพราะฉะนั้น ด้วยเวลาที่จำกัดเราต้องไปดูว่ามีโอกาสที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จได้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างยาก ตอบได้เพียงเท่านี้ จะตอบนอกเหนือจากอำนาจหน้าที่ที่ ครม.ให้มา คงดำเนินการไม่ได้…”

เป็นคำตอบจาก “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รัฐมนตรีช่วยคลัง

สรุปว่าเขาให้มาตอบแค่นี้ ไม่ได้มาจากสำนึกที่มีต่อสังคมเกรงว่าจะมีปัญหาอื่นๆ ตามมาแม้แต่น้อย

ถอนเพื่อรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลล้วนๆ

เกรงรัฐบาลพังก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีถอดถอน “แพทองธาร” ด้วยซ้ำ!

รัฐบาลลงทุนกับร่างกฎหมายกาสิโนไปเยอะครับ

การประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อ ๒๑ มกราคม ที่ผ่านมา เห็นชอบให้แก้ไขกฎหมายการท่าเรือ

ประเด็นที่กระเหี้ยนกระหือรอจะแก้กันก็คือ ขยายวัตถุประสงค์และการดำเนินการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.)

แปลงท่าเรือเป็นกาสิโน

แผนมันถูกวางไว้แบบนั้น

ถ้า “ตาเฒ่าวุ้นเส้น” ไม่เอาคลิปมาประจาน “แพทองธาร” ป่านนี้สภาพ่นกันเรื่องกฎหมายกาสิโนไฟแลบแล้ว

ไม่ถอยหรอกครับ!

จะไปถอยได้ไง เครือข่ายของ “ทักษิณ” วิ่งหาบริษัทสถาปนิก ว่าจ้างออกแบบเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์กันแล้ว

ที่ดินท่าเรือคลองเตยคือเป้าหมาย!

ฉะนั้นไอ้ที่บอกว่าออกใบอนุญาตโปร่งใสตรวจสอบได้ อย่าไปเชื่อครับ

ขี้เท็จทั้งเพ

แต่วันนี้มันมีปัญหาใหญ่กว่าถอนกาสิโนครับ ฝีมือรัฐบาลหุ่นเชิดล้วนๆ

ให้ตายเถอะยังนึกถึงโพสต์ของ “สุรนันทน์ เวชชาชีวะ” เมื่อหลายปีก่อนไม่หาย

“กูพูดไม่ได้” เป็นบทสนทนาของ “บุญทรง เตริยาภิรมย์”

แฟ้มเอกสารบนโต๊ะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของ “บุญทรง” มีแต่เรื่องน่ากลัว

แต่…ร่างกฎหมายกาสิโนน่ากลัวยิ่งกว่า

ต่อไปเป็นรายการแฉครับ

วันนี้ “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นฝ่ายค้านเต็มตัวแล้วแฉได้ ผิดกับตอนเป็นรัฐบาลยังต้องอุ้มหม้อข้าว ก็เป็นธรรมดาของนักการเมืองที่ต้องอยู่ในอำนาจนานที่สุดเท่าที่จะทำได้

แฉครั้งนี้ไม่ธรรมดา เพราะมันเห็นถึงที่มาแห่งความฉิบหายของประเทศ

“…รัฐบาลทราบเป็นอย่างดีว่าจีนมีท่าทีไม่เห็นด้วย ที่ทางการไทยจะผ่านกฎหมายให้มีการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจรพร้อมกับอนุญาตให้มีการเล่นการพนันได้ และได้มีการพูดตอกย้ำถึงสามครั้งในที่ประชุมระดับผู้นำของทั้งสองประเทศว่าขอให้ยกเลิกนโยบายนี้เสีย มิฉะนั้นรัฐบาลจีนมีความจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการต่างๆ ที่จะทำให้คนจีนและกิจการต่างๆ ของจีนปรับท่าทีต่อการท่องเที่ยว รวมไปถึงท่าทีต่อการค้าและการลงทุนกับไทยให้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

นี่คือการหารือในระดับผู้นำประเทศทั้งสอง คือ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน และนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งผมได้ร่วมประชุมอยู่ด้วยและได้จดบันทึกการประชุมในประเด็นนี้อย่างละเอียด ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ซึ่งจะต้องมีความเกี่ยวข้องเป็นอันมากต่อการดำเนินนโยบายนี้…”

“….ผลพวงอันเลวร้ายที่ได้เกิดขึ้นมาจนถึงบัดนี้ก็คือ การหายไปของนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนกว่าร้อยละ ๙๐ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ประชาชนที่อยู่ในภาคธุรกิจบริการ กิจการโรงแรม ที่พัก การขายสินค้าไทย ของที่ระลึก อาหาร เครื่องดื่ม ร้านค้าปลีก แผงขายของ ทั้งหมดได้รับผลกระทบอย่างมหาศาลที่พวกเขาไม่เคยประสบมาก่อน

นี่เพียงแค่อยู่ในขั้นตอนการบรรจุญัตติเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายเท่านั้นนะ เขายังส่งสัญญาณเตือนมาขนาดนี้ คงไม่ต้องนึกถึงความหายนะที่จะเกิดขึ้นหากกฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาและมีผลบังคับใช้…”

จีนอาบน้ำร้อนมาก่อนจากสงครามฝิ่น

“สี จิ้นผิง” ถึงได้พยายามไม่ให้การพนันทำลายจีนซ้ำอีกรอบ

แต่ “แพทองธาร” ไม่เข้าใจ ออกมาตอบโต้แบบแม่ค้าปากตลาด

“ท่านอดีต มท.๑ ออกไปได้ไม่นาน ลืมเสียแล้ว ลืมเสียแล้วว่าเหตุผลที่นักท่องเที่ยวจีนเขาไม่มาเมืองไทย เพราะความปลอดภัยหรือเปล่า เรื่องของมหาดไทยยังไง เรื่องของความปลอดภัย เขาไม่เข้ามาเนี่ยคะ

และจริงๆ แล้วตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ลดลงในช่วงโลว์ซีซัน ประมาณ ๓๐% มันมีปัญหาหลายเรื่อง เรื่องคอลเซ็นเตอร์เอง เรื่องตัดน้ำ ตัดไฟ จริงๆ พอจะตัดก็ตัดยาก ต้องสั่งแล้วสั่งอีก ไม่ทราบว่าได้จดหรือเปล่า”

“แพทองธาร” คงลืมไปว่าตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจสั่งการรัฐมนตรีทุกกระทรวง

ปล่อยให้ มท.๑ สร้างความฉิบหายจนนักท่องเที่ยวจีนหนีไทยไปเกือบหมดโดยไม่ห้ามปราม แทรกแซง ได้อย่างไร

เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว ไม่ใช่หน้าที่ของนายกรัฐมนตรีหรืออย่างไร

น่าขำครับ นายกรัฐมนตรี ไม่รู้ว่าความรับผิดชอบต่อประชาชนคืออะไร

พูดเหมือนธุระไม่ใช่ เพราะเป็นงานของ มท.๑

นโยบายกาสิโนสร้างปัญหาให้ไทยเยอะจนประชาชนตกเป็นเหยื่อของรัฐบาล

รัฐบาลมีปัญหากับจีน กับเขมร แต่ประเทศต้องรับเคราะห์ เพียงเพราะมีคนบางกลุ่ม ตาลุกวาวกับผลประโยชน์ที่จะได้จากการเปิดกาสิโน

ถอนร่างกฎหมายออกไปก็สายเสียแล้ว เพราะความเสียหายจากความโลภได้เกิดขึ้นแล้ว

เห็น “ทักษิณ” ไปโชว์วิสัยทัศน์ในงานซอฟต์พาวเวอร์ ของกระทรวงวัฒนธรรม

เหมือนยังไม่สำนึกใดๆ ทั้งสิ้น

“…บ้านเราเสียเวลาเรื่องการเมืองที่ไร้สาระมากกว่าเรื่องที่มีสาระ เลยทำให้เรื่องมีสาระถูกละเลยเป็นประจำ เป็นช่วงๆ…”

สาระของ “ทักษิณ” คงต่างไปจาก สาระของประชาชนเยอะพอควร

กาสิโน พนันออนไลน์ แจกเงินหมื่น คงเต็มไปด้วยสาระ

บ้านเมืองเสียเวลากับ “ทักษิณ” มากเกินไปแล้ว

ถึงเวลาต้องหยุดไว้เพียงแค่นี้

พ่อติดคุกลูกออกไป.

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
กลัฟ คณาวุฒิ โชว์เชิดมังกรเบิกฤกษ์ศักราชใหม่ ‘ตรุษจีน’ ปีมะเส็ง เฮงมาหา ในงาน THE MALL LIFESTORE JOY LUCK LOVE CHINESE NEW YEAR 2025
เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จํากัด (มหาชน), บริษัท...
Read More
0 replies on “ฉิบหายเพราะ ‘กาสิโน’ #ผักกาดหอม”