ต้อง “วันนี้ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้” #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

 ปัญหา…..

ค่าตัว “ยิ่งลักษณ์” จะเท่าไหร่กันแน่?

๓.๕ หมื่นล้าน หรือ ๑ หมื่นล้าน หรือถูกกว่านั้น

กำลังเป็นที่ถกเถียงกันตั้งแต่ยอดหอคอยจนถึงยอดหอระฆัง!

เพื่อยุติความสับสนทั้งปวง “ในทุกกรณี” และในทุกฉากดรามาเพื่อไทย

เมื่อวาน (๒๖ พ.ค.๖๘) น.ส.สายทิพย์ สุคติพันธ์ “ตุลาการศาลปกครองสูงสุด” ในฐานะกรรมการประชาสัมพันธ์ ศาลปกครอง ท่านออกมาแจกแจงด้วยภาษาชาวบ้านให้เข้าใจกันตรงๆ ชัดๆ ดังนี้

โดยท่านเริ่มว่า การออกมาชี้แจงนี้……

“เพื่อให้สังคมประชาชนเข้าใจกระบวนการพิจารณาของศาลว่า เป็นการพิจารณาเฉพาะ “ประเด็นคำสั่ง” ที่เป็นข้อพิพาทระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ นายกรัฐมนตรี กับพวกทั้ง ๙ เท่านั้น

(นายกรัฐมนตรีกับพวกทั้ง ๙ หมายถึง อดีตนายกฯประยุทธ์, กระทรวงการคลัง และฯลฯ ที่ถูกยิ่งลักษณ์ฟ้อง-เปลว)

เมื่อ “ศาลปกครองสูงสุด” มีคำพิพากษา “เพิกถอนคำสั่ง”

คำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ ๑๓๕๑/๒๕๕๙ ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์รับผิด “ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน” เป็นเงิน ๓๕,๗๑๗,๒๗๓,๒๓ บาท

เฉพาะส่วนที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน “เกินกว่า” จำนวน ๑๐,๐๒๘,๘๖๑,๘๘๐.๘๓ บาทแล้ว

บทบาทหน้าที่ของศาลปกครองถือว่ายุติแล้ว

การดำเนินการใดๆ จากนี้ไป…..

เป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง

สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร

ต้องไปดำเนินการ “ออกคำสั่งใหม่” และปฏิบัติให้ถูกต้องตามคำพิพากษา

“ตุลาการศาลปกครองสูงสุด” อธิบายเพิ่มเติมว่า คดีนี้เป็นการฟ้องของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งโดนคำสั่งของกระทรวงการคลังที่เรียกให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมโครงการจำนำข้าวเปลือกไป ๓.๕หมื่นล้านบาท

จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงเอาคำสั่งนี้มาฟ้องต่อศาลว่า “คำสั่งนี้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่?”

ศาลก็ได้ทบทวน โดยพิจารณาแล้ว เห็นว่า  “โครงการจำนำข้าวนั้น ประกอบด้วยหลายขั้นตอน” จึงวินิจฉัยว่า

“อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ในส่วนที่ทำหน้าที่กำหนดนโยบายนั้น ไม่ต้องมีความรับผิด”

แต่ในส่วนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ คือเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมการปฏิบัตินโยบาย

ดังนั้น การระบายข้าวแบบ “รัฐต่อรัฐ” หรือ “จีทูจี” มีปัญหาการทุจริต มีการรายงานเข้ามาโดยหลายหน่วยงาน แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ติดตามกำกับดูแลตรวจสอบการทุจริตในส่วนนี้”

“ดังนั้น เฉพาะในส่วนนี้ ที่ศาลปกครองเห็นว่า คุณยิ่งลักษณ์จะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของค่าเสียหายที่กระทรวงการคลังเขาเรียกมา ๓.๕ หมื่นล้านบาท นั่นแหละ”

แต่ศาลตรวจสอบแล้วว่า “ไม่ใช่ทั้งหมดที่คุณยิ่งลักษณ์ต้องชดใช้”

แต่เป็นตัวเลขเพียงแค่ ๑๐,๐๒๘ ล้านบาท เนื่องจากโครงการจีทูจี

ดังนั้น ผลของคดี ศาลถึงบอกว่าคำสั่งเรียกเงินนั้น “ชอบบางส่วน”และ “ไม่ชอบบางส่วน”

ส่วนที่ชอบด้วยกฎหมายก็คือ ๑๐,๐๒๘ ล้านบาทนี้ “กระทรวงการคลัง” ก็มีหน้าที่ต้องไปดำเนินการเรียกจากคุณยิ่งลักษณ์ต่อไป”

นักข่าวถามว่า “นายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องออกคำสั่งให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ชดใช้เงินดังกล่าว ภายในกรอบระยะเวลาเท่าใด?”

“ตุลาการศาลปกครองสูงสุด” ตอบว่า……

“อันนี้ เป็นขั้นตอนเรียกให้เจ้าหน้าที่ชดใช้ความรับผิดทางละเมิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจเรื่องนี้คือ “กระทรวงการคลัง”

เขาก็ต้องไปออกมาตรการ อาจจะเป็นการแจ้งให้เอาเงินมาชำระ ถ้าหลังจากนั้น ยังไม่มีการชำระ อาจมีการดำเนินการ “ยึดอายัดทรัพย์สิน” ต่อไป

ก็เป็นกระบวนการของ “เจ้าหนี้กับลูกหนี้” ปกติ

ซึ่งตอนนี้ “กระทรวงการคลัง” ถือว่า “เป็นเจ้าหนี้” ที่ต้องไปตามเอาค่าเสียหายคืนมา

ส่วนทางฝ่ายน.ส.ยิ่งลักษณ์ซึ่งถือ “เป็นลูกหนี้” จะมีการเจรจาหรือประสานงานกับกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้ที่ต้องออกคำสั่งให้ใช้เงิน เขาก็ต้องเจรจาตกลงกันไป

ส่วนเรื่องระยะเวลา ขึ้นอยู่กับกฎหมายของกระทรวงการคลัง

“นักข่าว” ถามว่า……

“ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า อาจมีการหักลบกลบหนี้กับยอดขายข้าวก่อนหน้านี้ เพื่อที่สุดท้าย น.ส.ยิ่งลักษณ์อาจจะไม่ต้องจ่ายสักบาท จริงๆ แล้วสามารถหักลบกลบหนี้ได้หรือไม่?”

น.ส.สายทิพย์ “ตุลาการศาลปกครองสูงสุด” ในฐานะ กรรมการประชาสัมพันธ์ ศาลปกครอง ตอบว่า

“ก่อนที่จะไปพูดถึงหักลบกลบหนี้กันได้หรือไม่ แต่สำหรับคดีนี้ ในทาง “กฎหมายวิธีพิจารณาความ” นั้น ถือว่า “สิ้นสุดแล้วในทางปกครอง”

ในคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด “ถือเป็นที่สุด”

กรณีที่จะเกิดการทบทวนขึ้นใหม่ จะอยู่ในมาตรา ๗๕  ของกฎหมายวิธีพิจารณาคดีปกครอง โดยสาระสำคัญเขียนว่า

“กรณีที่ศาลปกครองมีคำพิพากษาในคดีเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว” ซึ่งขณะนี้ คดีนี้ก็เป็นเช่นนั้น

ถ้าในกรณีผู้มีส่วนได้เสีย อาจมีคำขอให้ศาลปกครองพิพากษาคดีนั้นใหม่ได้ มี ๔-๕ เงื่อนไข

แล้วเงื่อนไขที่ทนายความอ้างถึง เช่น อาจจะขอให้พิจารณาได้ ถ้ากรณีคำพิพากษานั้น ทำขึ้นโดยอาศัยข้อเท็จจริง

แล้วมีข้อเท็จจริงที่เปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ เช่นที่เขาอ้างว่า มีข้อเท็จจริงใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป

แต่อย่างไรก็ตาม…..

ต้อง “ผ่านขั้นแรก” มาก่อนคือคำขอพิจารณาคดีใหม่ภายใน ๙๐ วัน ศาลก็พิจารณาว่า “มีเหตุตามเงื่อนไขของมาตรา ๗๕ นี้หรือไม่”

สรุป คดีนี้ “เป็นที่สุด” แล้ว

ยิ่งลักษณ์เป็น “ลูกหนี้” ต้องจ่าย ๑๐,๐๒๘ ล้านบาท!

กระทรวงการคลังเป็น “เจ้าหนี้” นายพิชัย ชุณหวชิร เจ้ากระทรวง ต้องไปตามเอาเงินก่อนนี้มา ถ้าไม่ได้ก็ “ยึดทรัพย์”!

ส่วนที่ต้องการขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ ถ้าเข้าเงื่อนไขตามมาตรา ๗๕  ของกฎหมายวิธีพิจารณาคดีปกครอง

ก็ไปเข้าตามตรอก-ออกตามประตู คือเริ่มนับ ๑ “ยื่นคำขอพิจารณาคดีใหม่” ภายใน ๙๐ วัน

เรื่องก็มีเท่านี้ ไม่ต้องเอะอะมะเทิ่งเป็นยายเพิ้งขายปลาร้า ไม่มีก็ไปขอพี่ชายหรือพี่สาวตัวดีก็ได้ มาจ่ายให้คลังเขา จะได้เอาไปแจก ๑ หมื่น เฟส ๓ ไงล่ะ!

“การบ้าน-การเมือง” ตอนนี้ “เดินเรื่องเร็ว” ตามธรรมชาติหนังไทย “ใกล้จบ” ต้องรวมดารา

การเข้ามารวมเป็นหนึ่งของ “สนธิ-จตุพร-นกเขา” และอีกมากมายหลายคน ด้วยเป้าหมาย “รวมใจเปลี่ยนแปลงประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว”

ฉุดขาให้ทุกคนหยุด มอง คิด…ด้วยใคร่ครวญ!

โค่นล้มรัฐบาลเพื่อไทยหรือ?

โค่นล้มระบอบทักษิณหรือ?

“สนธิ-จตุพร-นกเขา” บอก พวกเขามองข้ามทั้งสองสิ่งนั้นไปแล้ว เพราะไม่ต้องโค่น มันก็กำลังจะล้มด้วยตัวมันเอง

และด้วย “กฎหมาย”!

ความล้มเหลวทางสังคมชาติบ้านเมือง ความเหลวแหลกทางสังคมบริหาร เศรษฐกิจ-ชีวิต-ความเป็นอยู่ชาวบ้าน ไร้ทิศทางทั้งปัจจุบันและอนาคต

“ทุจริต-คอร์รัปชัน” กลายเป็นสัญลักษณ์ระบบไทย ความเสื่อมทรามทางจิตใจ ความชั่วร้ายจากอบายคลุมไปทั้งประเทศ

“รัฐบาล-รัฐสภา” วันนี้ เป็นผลไม้พิษจาก “ต้นประชาธิปไตย” อันเป็นต้นไม้พิษ ซึ่งเหมาะกับสภาพ “มนุษย์วัตถุ” ทางตะวันตก

ไม่เหมาะนำมาใช้กับสภาพสังคมทางตะวันออก เช่นที่ไทย อันเป็นประเทศของ “มนุษย์จิตใจ”

เหล่านี้แหละคือ “ปัญหาหลัก” ของชาติบ้านเมืองไทยวันนี้ ถ้าไม่มีใครกระชากกลับมา พวกอสูร-ผีห่า มันเข้าสิงและผ่าประเทศแบ่งแน่!

การรวมใจเพื่อกระชากประเทศไทยของเราให้กลับคืนเป็นหนึ่ง ณ ศูนย์กลาง “ชาติ-พระศาสนา-สถาบันพระมหากษัตริย์”

ถ้าทุกคนดูดาย ไม่รวมใจทำตอนนี้ วันนี้ เดี๋ยวนี้ ขณะนี้

แผ่นดินบรรพบุรุษสร้าง อาจถึงกาลวิบัติ ด้วยน้ำมือ “อมนุษย์การเมือง” ที่มันอาศัย “ประชาธิปไตยเปลือก” ชอนไช กินไส้ กัดเนื้อเถือหนังประเทศ แล้วตัดแบ่งกัน

สุดท้าย….กระทั่งชื่อ “ไทย” ก็จะไม่เหลือด้วยซ้ำ!

พวกเขา “สนธิ-จตุพร-นกเขา-หมอวรงค์-หมอตุลย์-อาจารย์เจษฎ์-ชาญชัย-พิชิต-กองทัพธรรม และฯลฯ”

เขา “รวมใจเพื่อไทยหนึ่งเดียว” เพราะเหตุนี้

ไม่ใช่เพื่อเรื่องขี้หมาพื้นๆ แค่ล้มรัฐบาล-ล้มระบอบทักษิณ ถ้าทำแค่นั้น มันก็แค่เปลี่ยนเพื่อ “เหลือบฝูงใหม่”

แต่เขาต้องการ “รื้อ-ล้าง-สร้างใหม่” เป็นไทยประเทศ ด้วยระบบ-ระบอบของคน “มีจิตใจ-มีศีล-มีธรรม” นำชาติ

ไม่ใช่อบายมุขและคอร์รัปชั่นทุกระบบดังปัจจุบันนำชาติ!

เปลว สีเงิน

๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
ดำรง พุฒตาล เล่าผ่านไลน์ เรื่อง โควิด19 กับชายผู้ค้าประเวณี
ดำรง พุฒตาล เล่าผ่านไลน์ เขารู้กันในกลุ่ม ผู้ให้และผู้รับการบริการทางเพศหญิง กับ ผู้ให้และผู้รับบริการทางเพศชายว่า
Read More
0 replies on “ต้อง “วันนี้ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้” #เปลวสีเงิน”