เห็นนัก “ตามล่าลูกประยุทธ์” เจอหมายเรียกตำรวจโอดครวญ
จะบอกว่า “สมน้ำหน้า”
ก็จะว่าใจร้ายครั้นจะบอกว่าสงสาร ก็จะเป็นคนตอแหล!
แต่ก็เอาเหอะ นับเป็นประโยชน์อยู่บ้าง อย่างน้อยที่สุด เป็นตัวยืนยันทฤษฏีการสืบสวนที่ว่า “ไม่มีอาชญากรรมใดที่อาชญากรไม่ทิ้งรอยไว้” นั้น จริง
ส่วนจริงยังไง เดี๋ยวรู้
จำกันได้มิใช่หรือ ที่ “ร่านรุ่นใหม่” คะนองเมือง ตั้งหัวข้อ “ตามหาลูกประยุทธ์”
แล้วบรรดาสาวกทำตัวเป็นนักล่า ทวีตด้วยคำหยาบช้า ปั้นเรื่องเสียหาย ไล่ล่า ระดมโพสต์ใส่ร้ายลูกสาวนายกฯ จนเขาต้องให้ทนายแจ้งความตำรวจนางเลิ้ง
ให้ดำเนินคดีนักล่าเหล่านั้น ในข้อหาหมิ่นประมาทและผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์
เมื่อวาน (๖ กย.๖๓) จึงมีข้อความดังต่อไปนี้ปรากฏตามโซเชียลมีเดีย อ่านกันดู
ลูกฟ้า
@LukfahK
ขอความช่วยเหลือค่ะ ตอนนี้ต้องการหลักทรัพย์ในการสู้คดีที่เกิดจาก #ตามหาลูกประยุทธ์ และแนวทางสู้คดีค่ะ เราไม่รู้กฎหมายอะไรมาก หากมีข้อสงสัยหรือต้องการรายละเอียดทักหาเราและพี่ @pruetthigon คนนี้ที่โดนคดีได้เลยนะคะ
โปรดช่วยรีทวีตนี้ทีค่ะ ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ ขอบคุณค่ะ”
และตามฟอร์ม โพสต์ “หน้าบัญชีธนาคาร” ตัวเอง เป็นการเปิดรับบริจาค
ก็..ขอให้รวย กับชำร่วยคุก!
จากโพสต์ แสดงว่า ตอนนี้ตำรวจออกหมายเรียกนักล่า “ร่านรุ่นใหม่” ที่ตามราวีเขาแล้ว จากนี้ คงมี “ร่านกำสรวล” ตามมาเป็นลำดับ
ที่ @LukfahK อ้างอิง “หากมีข้อสงสัยหรือต้องการรายละเอียดทักหาเราและพี่ @pruetthigon คนนี้ ที่โดนคดีได้เลยนะคะ” นั้น
ก็อย่างที่ว่า “ไม่มีอาชญากรรมใดที่อาชญากรไม่ทิ้งร่องรอยไว้”
คือ ลูกฟ้าอ้างว่า “พี่ @pruetthigon” คนนี้โดนคดีด้วย
ต่อมา ก็มีโพสต์ของ @pruetthigon ปรากฏ ๒ โพสต์
โพสต์แรก มีข้อความว่า pruetthigon/คณะก้าวหน้าXพรรคก้าวไกล
ยอดรับบริจาคตอนนี้อยู่ที่ 12,870.65 บาท ณ เวลา 00.34 น.ครับ
โพสต์ที่ ๒ ข้อความว่า pruetthigon/คณะก้าวหน้าXพรรคก้าวไกล
ผมได้โทรหาทนายของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนแล้ว จะเข้าไปปรึกษารายละเอียดคดีในวันจันทร์นี้ แล้วจะอัพเดทความคืบหน้าเป็นระยะครับ ขอบคุณทุกท่านจากใจจริง
และ ลูกฟ้า@LukfahK โพสต์ต่อมาว่า
วันจันทร์พี่@pruetthigon จะเข้าพบกับทีมศูนย์ทนายโดยจะเข้าไปคุยเรื่องแนวทางการสู้คดีและเรื่องเงินบริจาคให้ทีมศูนย์ทนายเป็นคนกลางรับเงิน หากทางศูนย์ทนายรับเป็นคนกลางทางพี่เขาจะโอนเงินทั้งหมดเข้าคนกลางทันทีค่ะ
อืมมม….
เรื่องเงินเรื่องใหญ่จริงๆ!
จากโพสต์ ทำให้รู้ว่า พี่@pruetthigon หัวขบวนตามล่าลูกประยุทธ์ ไม่ใช่อื่นไกล
คนในคณะก้าวหน้าของ “ธนาธร-ปิยบุตร” และของพรรค “ก้าวไกล” ในเงาธนาธร-ปิยบุตรนี่เอง
และก็เป็นหลักฐานลงตัวว่า “คณะก้าวหน้ากับพรรคก้าวไกล” อยู่ในกันและกัน ตามที่้ “pruetthigon/คณะก้าวหน้าXพรรคก้าวไกล” สำแดงตน
สรุปว่า นักล่าทั้งหลายไม่ต้องห่วง
พรรคก้าวหน้า และคณะก้าวไกล รับเป็นเจ้าภาพให้ทั้งเรื่องคดีและเรื่องเงินบริจาค!
แต่ทีนี้ มันมีประเด็นว่า การตกเป็นผู้ต้องหานั้น มันไม่จบแค่โรงพัก แค่ประกันตัว
ยังมีขั้นตอนในความเป็นจำเลยที่ต้องเทียวห้องขังและเทียวศาลอีกเป็นปี กว่าจะรู้ว่าต้องติดคุกหรือไม่ติด
ฉะนั้น ในความเป็น “ร่านรุ่นใหม่” ที่ยังคึกตามแรงปลุกปั่น อย่างที่ทักษิณเปรียบว่าชาวบ้านเหมือน “คนตาบอดไม่กลัวเสือ”
คือไม่รู้เรื่อง-รู้ความอะไรเลย หลอกอย่างไรก็เชื่อ จึงไม่กลัวเสือกิน
ก็อย่ากระนั้นเลย …….
ผมไม่อยากเห็น “ร่านรุ่นใหม่” ตกเป็นเหยื่อ “เสือสามสัส” หลอกไปติดกรง จึงอยากให้ “คู่มือจำเลย” ไว้ศึกษาเพื่อเตรียมตัว-เตรียมใจ ตอนใกล้คุกจริงๆ จะได้สติไม่แตก
เพราะถึงตอนนั้น วันนั้น
พวกที่หลอกใช้พวกคุณตอนนี้ ไม่รู้หายหัวไปทางไหนหมด เชื่อเหอะ…ตัวของตัวเองและใจถึงๆ เท่านั้น เป็นที่พึ่ง รองเท้าผ้าใบไม่เกี่ยว
จึงอยากให้เตรียมตัว-เตรียมใจไว้แต่เนิ่นๆว่า นรกมันมีจริง เมื่อต้องคดีความ
แต่ผมเพียงผ่านขั้นผู้ต้องหาของตำรวจ-อัยการและขั้นจำเลยในชั้นศาล ยังไม่จบถึงขั้นเข้าคุก จะให้เล่าทุกขั้นตอนนรก อาจขาดๆ เกินๆ
พอดี เห็นท่าน Chuchart Srisaeng อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ไว้วานซืน “เจนจบครบเรื่องนรกดี”
จึงขออนุญาตนำโพสต์ของท่านมาเป็นวิทยาทานต่อ ดังนี้
Chuchart Srisaeng
กรณีบุตรสาวทั้งสองของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มอบอำนาจให้ทนายความไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน
เพื่อดำเนินคดีแก่ผู้ที่นำความเท็จมากล่าวใส่ความทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งมีความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
ตามประมวลกฎหมายอาญา และพรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ นั้น
พนักงานสอบสวนมีหมายเรียกบุคคลผู้เข้าข่ายกระทำความผิดไปพบพนักงานสอบสวนแล้ว
มีผู้ออกมาขอความช่วยเหลือบุคคลที่ถูกหมายเรียกแล้ว ทั้งขอคำแนะนำการสู้คดีและความช่วยเหลือทางการเงินโดยการบอกหมายเลขบัญชีให้มีการโอนเงินให้
ขอบอกว่า หลังจากนี้สิ่งที่ต้องประสบคือ
1.ต้องไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ถ้าไม่ไปพนักงานสอบสวนก็ไปขอศาลให้ออกหมายจับได้
หากศาลอนุญาตให้ออกหมายจับและถูกจับตามหมายจับ พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังต่อศาล
เมื่อศาลอนุญาตก็ต้องขอประกันตัว มิฉะนั้นก็ต้องส่งตัวไปคุมขังในเรือนจำระหว่างสอบสวน
2.เมื่อพนักงานสอบสวนเสร็จ
หากพยานหลักฐานฟังได้ว่า มีการกระทำความผิดจริงก็มีคำสั่งฟ้อง และส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการพิจารณา ถ้าพนักงานอัยการเห็นด้วย ก็สั่งฟ้อง และนำตัวไปฟ้องต่อศาล
3.เมื่อศาลสั่งประทับฟ้องแล้ว ก็ต้องขอประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี
และศาลจะนัดสอบคำให้การจำเลย ถ้าจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็จะมีคำพิพากษา
แต่ถ้าจำเลยให้การปฏิเสธ ก็จะนัดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลย เสร็จแล้วก็จะมีคำพิพากษาลงโทษหรือยกฟ้อง
ถ้านับตั้งแต่วันที่ไปพบพนักสอบสวนตามหมายเรียกหรือถูกจับตามหมายจับ จนถึงวันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาก็จะใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 1 ปี
ในช่วงเวลานี้ ต้องใช้หลักทรัพย์หรือเงินในการขอประกันตัว ต้องเสียเงินจ้างทนายความเพื่อช่วยเหลือในการสู้คดีในศาล ต้องไปศาลตามวันนัด และต้องเสียเวลาที่เคยมีชีวิตอย่างสงบสุขไปกับการวุ่นวายในต่อสู้คดี
ประการสำคัญที่สุดคือ ผู้ถูกดำเนินคดีอาญาทุกคนต้องประสบคือความทุกข์ทรมานทางใจที่เกรงว่าศาลจะพิพากษาลงโทษจำคุก
ยกเว้นบุคคลที่เคยถูกลงโทษจำคุกมาแล้วหลายครั้งจนเคยชินแล้ว
คดีนี้ ผู้ที่นำข้อความอันเป็นเท็จกล่าวหาผู้เสียหายทั้งสองคน มีโอกาสรอดยาก
เพราะผู้เสียหายทั้งสองไม่ได้เป็นข้าราชการหรือนักการเมืองหรือเป็นบุคคลสาธารณะ
จึงไม่อาจนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 และ มาตรา 330 มาอ้างได้
นี่คือบทเรียนที่สอนให้รู้ว่า….
อย่าตกเป็นเครื่องมือของคนอื่น ก่อนลงมือทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบว่าทำไปเพื่ออะไร ใครจะได้หรือเสียประโยชน์
เมื่อถูกดำเนินคดี จะมีใครให้ความช่วยเหลือบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก ถูกนำตัวเข้าไปคุมขังอยู่ในเรือนจำ จะได้รับความทุกข์ยากลำบากเพียงใด และไม่มีใครสามารถมารับโทษจำคุกแทนได้
………………
ก็ขอให้นักล่า “ร่านรุ่นใหม่” ทุกท่าน เอนจอยทัวร์ศาลนะ!
เพิ่มช่องทางรับข่าวสารได้ที่ LineID:plewseengern.com หรือสแกน QR Code
