“บิลกรรม” ชำระแล้ว #เปลวสีเงิน

 เปลว สีเงิน

ตายละ!

“ยิ่งลักษณ์” เธอแจ้งบัญชีทรัพย์สินไว้ต่อป.ป.ช.หลังพ้นจากตำแหน่งนายกฯเมื่อ ๖ พ.ค.๕๘ มีทรัพย์สินรวมแค่ ๖๑๒ ล้านบาท

เป็นเงินสดและเงินฝาก

๑๖ บัญชี มูลค่า ๒๔ ล้านบาท (ปัจจุบันกรมบังคับคดีอายัดไว้)

การลงทุนและหลักทรัพย์

หุ้นและกองทุน ๙ รายการ มูลค่ากว่า ๑๑๕ ล้านบาท

อสังหาริมทรัพย์

ที่ดิน ๑๔ แปลงในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย กรุงเทพฯ และสมุทรปราการ มูลค่า ๑๑๗ ล้านบาท

โรงเรือน, สิ่งปลูกสร้าง ๓๖ รายการ มูลค่า ๑๖๒ ล้านบาท

ทรัพย์สินอื่น

รถยนต์หรู ๙ คัน ยี่ห้อเบนซ์ BMW แลนด์โรเวอร์ ปอร์เช่ และโฟล์กสวาเกน มูลค่า ๒๒ ล้านบาท

อัญมณีและเครื่องประดับ ๕๗ รายการ มูลค่า ๔๑ ล้านบาท

นาฬิกาข้อมือ ๙ เรือน มูลค่า ๑.๘ ล้านบาท

กระเป๋าแบรนด์เนม ๗ ใบ มูลค่า ๒.๑ ล้านบาท

ส่วน “นายอนุสรณ์ อมรฉัตร” สามีนอกสมรส แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น ๗๖,๖๓๓,๘๙๕ บาท

และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สิน ๑๒,๕๓๕,๗๙๕ บาท

แล้วเมื่อวาน (๒๒ พ.ค.๖๘)ในคดีจำนำข้าว ที่เธอฟ้องรัฐบาลประยุทธ์ และชนะในศาลชั้นต้น ไม่ต้องจ่าย ๓.๕ หมื่นล้าน นั้น

บ่ายวาน “ศาลปกครองสูงสุด” อ่านคำพิพากษา…..

“ให้ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่กระทรวงการคลัง ร้อยละ ๕๐ ของความเสียหาย จำนวน ๑๐,๐๒๘,๘๖๑,๘๘๐ บาท!

ชนะ…แต่ลงท้าย กลับแพ้!

ทรัพย์สินมีแค่ ๖๑๒ ล้าน

แต่ต้องชดใช้ให้กระทรวงคลังตั้งกว่า ๑ หมื่นล้าน ที่เหลือจะไปเอาที่ไหนละเนี่ย?

ว่าแต่ว่า แค่ทรัพย์สินที่แจ้งไว้ นอกจากบัญชีเงินฝาก ๑๖ บัญชีที่อายัดไว้แล้ว นอกนั้น ยังอยู่ให้ยึดเร้อ?

เรียกตัวเธอกลับมา แล้วชั่งกิโลตีราคา ตอนนี้ “เต็มที่” น่าจะได้ราคาซัก “ล้าน-ครึ่งล้าน” หรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย!

แต่ตามขั้นตอน กระทรวงคลังจะเรียกยิ่งลักษณ์ให้มาชำระหมื่นกว่าล้านบาทนั้นภายในกำหนด

ถ้าไม่มาชำระภายในกำหนด ถูกกระทรวงคลังฟ้องต่อศาลปกครองอีกดอกแน่!

คิดแล้วก็หนักใจแทนกระทรวงคลังและกรมบังคับคดี

หมื่นกว่าล้านนี่…..

“หลงจ๊ง” ได้คืนกลับมาจริงๆ ซักพันล้านก็บุญแล้ว นอกนั้น จะเป็นแห้ว และไม่แคล้วต้องฟ้องล้มละลาย

แบบนี้…สงสัย “สงกรานต์” ปีหน้า ก็คงไม่กลับแล้วมั้ง เพราะคดีเสร็จสิ้นทั้ง ๒ ศาล อาญา…กลับมาก็เข้าคุก ๕ ปี ทางปกครอง ก็ต้องจ่ายหมื่นกว่าล้าน

ถ้าผมเป็นยิ่งลักษณ์นะ อยู่เป็น “เถ้าแก่เนี้ย” ที่อังกฤษ เอาหมื่นกว่าล้านพับเรือบินร่อนเล่นสนุกกว่า กลับมาแล้วมีคุกแถม จริงมั้ย?

เห็นหลานมาเยี่ยมอาปู “ดูทำเล” จะมาอยู่ด้วยละกระมัง มีอะไรๆ ก็ปรึกษาตามประสาอาๆ หลานๆ ผู้มีประสบการณ์นายกฯพับเพต “หัวอกเดียวกัน” ก็แล้วกันนะ

มาดูรายละเอียด “แบบสรุป” คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดกันหน่อยดีกว่า เพราะเรื่องนี้ เริ่มจาก….

“กระทรวงคลัง” เรียกความเสียหายทางละเมิด “คดีโครงการรับจำนำข้าว” จากยิ่งลักษณ์ มูลค่ารวม ๓๕,๗๑๗,๒๗๓,๐๒๘ บาท

ยิ่งลักษณ์ “ไม่ยอม…ไม่มี…หนี…ไม่จ่าย”

กับสามี “นายอนุสรณ์ อมรฉัตร” ร่วมกันยื่นฟ้องกราวรูด ตั้งแต่นายกฯ ประยุทธ์, รัฐมนตรีคลัง, รัฐมนตรีช่วยคลัง, ปลัดกระทรวงการคลัง

สำนักนายกรัฐมนตรี, กระทรวงคลัง, กรมบังคับคดี, อธิบดีกรมบังคับคดี, เจ้าพนักงานบังคับคดี, สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร

ว่า “ร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย”!

ปรากฎว่า “ศาลปกครองชั้นต้น” พิพากษา “เพิกถอนคำสั่ง”กระทรวงการคลัง ทั้งคำประกาศ, ยึด, อายัด อะไรๆ ทั้งหมด

ที่ให้ยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงินกว่า ๓.๕ หมื่นล้านบาทนั้น!

โดย “ศาลปกครองกลาง” พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า….

การที่ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด เห็นว่า มีบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายคนในมูลละเมิดกรณีโครงการรับจำนำข้าว

ย่อมเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ…….

ที่จะต้องดำเนินการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดและจำนวนค่าสินไหมทดแทนที่มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องอีกหลายคนต้องชดใช้

เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่อื่น ที่มีส่วนต้องรับผิดในมูลละเมิดเดียวกันกับยิ่งลักษณ์รับผิดตามสัดส่วนเฉพาะในส่วนของตน

แล้วจึงนำ “จำนวนเจ้าหน้าที่ทั้งหมด” ที่ต้องรับผิดมากำหนดสัดส่วน “ความรับผิด” ของแต่ละคน

มิใช่พิจารณาเพียงเสนอความเห็นว่า ยิ่งลักษณ์ผู้เดียวเป็นผู้กระทำโดยจงใจปล่อยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทางราชการ

กรณีจึงฟังไม่ได้ว่าผู้ฟ้องคดีที่ ๑ (นส.ยิ่งลักษณ์) กระทำโดยจงใจปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว

และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทางราชการที่ “ยิ่งลักษณ์” ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่กระทรวงคลัง

คำสั่งกระทรวงการคลัง ที่เรียกให้ยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จึงเป็นคำสั่งทางปกครองที่ “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย”

จึงไม่มีเหตุที่ยิ่งลักษณ์จำต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากคำสั่งดังกล่าวแต่อย่างใด

นี่…ถ้าเป็นมวย ในศึกเดิมพัน ๓.๕ หมื่นล้านบาท ก็ต้องบอกว่า “ยิ่งลักษณ์” ชนะยกแรก!

“ศาลปกครอง” มี ๒ ระดับ คือ “ศาลปกครองชั้นต้น” กับ “ศาลปกครองสูงสุด” ส่วนศาลปกครองกลาง ก็คือ “ศาลปกครองชั้นต้น”

ฝ่ายผู้ถูกยิ่งลักษณ์ฟ้องทั้ง ๙ คือฝ่ายรัฐ โดย “กระทรวงคลัง”เป็นหลักนั่นแหละ บอกว่า….

ไม่ยอม เรื่องนี้ต้องฟ้องครูใหญ่ คือ “ศาลปกครองสูงสุด”

จึง “ยื่นอุทธรณ์” คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้นต่อ “ศาลปกครองสูงสุด”

บ่ายวาน (๒๒ พ.ค.๖๘) “ศาลปกครองสูงสุด” พิพากษาแก้

มีคำสั่งให้ “น.ส.ยิ่งลักษณ์”

ชดใช้ความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว ๑๐,๐๒๘ ล้านบาท!

ใจความโดยสรุปเป็นขั้นตอนก็มีว่า “ศาลปกครองสูงสุด” วินิจฉัยเพิกถอนคำสั่งของ “กระทรวงการคลัง”

ที่สั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าว ๓.๕ หมื่นล้านบาท ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

แต่สั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดเฉพาะในส่วน

ของการระบายข้าว (จีทูจี) ๕๐% ของมูลค่า ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท

เพราะเป็นคำสั่งที่ “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” เนื่องจากเป็นการใช้ “อำนาจทางปกครอง” ดำเนินการ

โดย ป.ป.ช.และ สตง.เคยทำหนังสือเตือนว่าอาจมีการทุจริต แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อระงับยับยั้ง

จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดย “ประมาทเลินเล่อ” อย่างร้ายแรง ทำให้เจ้าหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์

ทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐการเงินการคลังของประเทศ มูลค่า ๒๐,๐๕๗,๗๒๓,๗๖๑ บาท และ “ไม่มีเหตุอันควรยกเว้นความผิด”

จึงให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่กระทรวงการคลัง ร้อยละ ๕๐ ของความเสียหาย จำนวน ๑๐,๐๒๘,๘๖๑,๘๘๐ บาท

เป็นอันว่า กระทรวงคลัง ที่แพ้ยกแรก ใน Final Round กลับชนะ ๓.๕ หมื่นล้าน ที่ตกน้ำป๋อมแป๋มไปแล้ว ยังได้กลับมา “หมื่นกว่าล้าน”

ขุนคลัง “พิชัย ชุณหวชิร” เรียกยิ่งลักษณ์เอาหมื่นล้านมาชำระด่วนเลย หรือไม่งั้น ไปเอาจาก “พี่ชาย” เขามาจ่ายให้รัฐก่อนก็ได้

จะได้เอาไป “แจก เฟส ๓” คนละหมื่นนั่นไง

กัน “เสียหมา” ถูกชาวบ้านเขาด่า สัญญาจะแจก เอาเข้าจริง ได้แต่ยืนแยกเขี้ยวโชว์ฟันขาวแหง!

หลังทราบคำพิพากษา “ศาลปกครองสูงสุด” นักขียนมือผีหรือมือยิ่งลักษณ์เองไม่ทราบ โพสต์เฟซคร่ำครวญทันควัน ตัดพ้อ น่าสงสารใจจะขาด

ตอนท้าย เธอโพสต์ว่า……..

“ตลอดเวลา 11 ปี นับตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 สิ่งที่ดิฉันจำต้องพบเจอซ้ำแล้วซ้ำเล่าคือ ยึดอำนาจ ยัดคดี อายัดทรัพย์ และเอาเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องมาบังคับให้ใช้หนี้

ความรู้สึกแบบนี้ ไม่เกิดขึ้นกับตัวเอง ก็คงไม่มีใครรู้ แต่ถึงกระนั้น ดิฉันก็จะเรียกร้องต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในชีวิต จนถึงที่สุดตามกฎหมายที่พึงกระทำได้

ถ้านายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง ยังไม่อาจเข้าถึงความยุติธรรมที่แท้จริง

ก็ไม่มีหลักประกันใดๆ สำหรับประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยเช่นกันค่ะ”

ผมอ่านแล้วก็งง “ความยุติธรรมที่แท้จริงของนายกฯ ที่มาจากเลือกตั้ง” มันต้องเป็นแบบไหนหรือ?

แบบพี่ชายเธอ “ติดคุกแล้วไม่ต้องเข้าคุก” เป็นนักโทษเทวดาอย่างนั้นใช่มั้ย “ความยุติธรรมที่แท้จริง”?

ป.ป.ช.และ สตง.เคยทำหนังสือเตือนเธอว่าอาจมีการทุจริต แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อระงับยับยั้ง

ศาลจึงบอกว่า…..

การที่เธอปฏิบัติหน้าที่ โดย “ประมาทเลินเล่อ”อย่างร้ายแรง ทำให้เจ้าหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์

ทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐการเงินการคลังของประเทศ มูลค่า ๒๐,๐๕๗,๗๒๓,๗๖๑ บาท และ “ไม่มีเหตุอันควรยกเว้นความผิด”

เธอตัดพ้อ

ต้องให้ศาลพิพากษาว่า “เธอไม่มีความผิด…ไม่ต้องชดใช้”อย่างนั้นใช่มั้ย จึงจะเป็น “ความยุติธรรมที่เข้าถึง” สำหรับเธอ!?

เอาหละ…ข้องใจตรงไหน กลับมาเข้าคุก ๕ ปีก่อนนะ

แล้วคอยดู ๑๓ มิ.ย……

ว่าพี่ชายเธอ “จะเข้าถึงความยุติธรรมที่แท้จริง” มาตรฐานเดียวกับประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยหรือไม่ ว่า…

“ติดคุกแล้ว-ต้องเข้าคุก”!?

เปลว สีเงิน

๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๘

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
ร้าน “เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” ชวนฉลองคริสต์มาสและต้อนรับปีใหม่กับ เมนูเฟสทีฟหลากหลาย ตั้งแต่ วันนี้ – 31 มกราคม 2568
“เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” ร้านกาแฟชั้นนำจากฮ่องกงสู่ประเทศไทย ภายใต้การบริหารงานโดย อิมแพ็ค เมืองทองธานี ชวนคุณเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและต้อนรับปีใหม่ไปพร้อมกัน มาเติมความสุขกับ 8 เมนูเฟสทีฟคุณภาพสุดหลากหลาย ที่เอาใจคอกาแฟและคนรักความอร่อยแบบครบครัน...
Read More
0 replies on ““บิลกรรม” ชำระแล้ว #เปลวสีเงิน”