ผักกาดหอม
งงกับตรรกะของพรรคส้มจริงๆ
ก่อนซักฟอกรัฐบาลแพทองธาร ตีเกราะเคาะกะลาว่า เป็นยุทธการโรยเกลือ
ในวันนั้น “รังสิมันต์ โรม” ขู่ไว้จนคนฟังขนลุก
“…การโรยเกลือของเราหลังจากที่เราเปิดเอกสารที่ค่อนข้างมั่นใจว่าเอาผิดได้แน่นอน ยุทธการนี้จะเป็นการดำเนินการทางกฎหมายต่อไปกับทางนายกรัฐมนตรี…”
ในการอภิปรายสมาชิกพรรคส้มก็ออกปากไล่ นายกฯแพทองโพย ออกจากตำแหน่งเป็นรายชั่วโมง
มาวันนี้จู่ๆ ก็หน้าบางอีกแล้วครับทั่น!
“วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ยืนยันหัวเด็ดตีนขาด ไม่ร่วมสังฆกรรมถอดถอนนายกรัฐมนตรีตามกลไกรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะประเด็นจริยธรรม
“…พรรคประชาชน อยากชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาว่า เรื่องจริยธรรมบุคคลที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ และยังแบกรับหน้าที่และความรับผิดชอบทางสาธารณะในระดับที่สูง
หากถูกสังคมและประชาชน ตั้งคำถามถึงความมีจริยธรรมอย่างต่อเนื่อง และไม่อาจชี้แจงข้อเท็จจริงได้จนสิ้นข้อสงสัย นายกรัฐมนตรีควรต้องมีหิริ โอตตัปปะ มีความสำนึกในตัวเอง พิจารณาความเหมาะสมของตัวเอง และแสดงความรับผิดชอบต่อสาธารณะด้วยการลาออกโดยสมัครใจ
ไม่จำเป็นต้องให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งเป็นมรดกบาปของการทำรัฐประหาร ขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตย และไม่มีการยึดโยงต่อเจตจำนงของประชาชน มาเป็นผู้ชี้นิ้วไล่ให้ออกจากตำแหน่ง
เพราะจะเป็นการทำลายเกียรติภูมิของตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในระบอบประชาธิปไตยอย่างไม่อาจประเมินค่าได้
การใช้ผ้าที่สกปรกถูบ้าน ไม่อาจทำให้บ้านสะอาดขึ้นมาได้ การนำน้ำเน่าไล่น้ำเสีย ไม่อาจทำให้น้ำในคูคลองใสสะอาด
พรรคประชาชนยืนยันว่า เราจะไม่ใช้กลไกที่เราไม่ยอมรับความชอบธรรม ในการจัดการกับสิ่งที่ไม่ชอบธรรมอย่างเด็ดขาด เพราะหากเราทำเช่นนั้น บ้านเมืองก็จะติดอยู่ในวังวนนิติสงครามที่คณะรัฐประหาร ได้วางหลุมพรางเอาไว้
และประเทศชาติจะไม่สามารถกลับคืนสู่ความเป็นนิติรัฐได้อีกเลย…”
“…เชื่อว่าบุคคลที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลที่ถืออำนาจรัฐในระดับสูง และเป็นประมุขของฝ่ายบริหารของประเทศ เมื่อพบช่องว่างทางกฎหมาย ที่กฎหมายไม่สามารถเอาผิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่เป็นธรรมต่อสังคมได้ ย่อมต้องมีหน้าที่ปิดช่องว่างทางกฎหมายนั้น
มิใช่ฉกฉวยโอกาสในการแสวงหาผลประโยชน์จากช่องว่างทางกฎหมายนั้นเสียเอง
เรายังคงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี สำนึกในความดีความชั่วของตน และแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง ในขณะที่ยังสามารถรักษาเกียรติภูมิของตำแหน่งผู้นำประเทศเอาไว้ได้
โดยไม่ต้องรอให้กลุ่มบุคคลใดมาชี้หน้า ว่าท่านไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง จนต้องถูกไล่ออก เหมือนทรชนที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย”
“…หลายคนบอกว่า ทำไมเราไม่ใช้หอกทมิฬแทงทมิฬ ทำไมเราไม่เอาให้สุดซอย อย่าไปสนใจวิธีการเลย จะจัดการกับใครทำไมต้องสนใจวิธีการ เราคิดอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าเราจัดการกับคนโดยที่ไม่สนใจวิธีการเลย เราก็ไม่แตกต่างจากคนเหล่านั้น…”
น่ายกย่องชื่นชมครับ!
การมองโลกในแง่ดี ทำให้ดูเหมือนว่าปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นสามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดาย
ง่ายกว่าปอกกล้วย!
แต่…ด้วยคุณภาพของนักการเมืองไทย มันไม่ได้ง่ายแบบนั้น
ดูเหมือนว่าพรรคส้มจะยังอยู่ในชั้นอนุบาลสำหรับการเมืองไทย
ดูดนม นอนกลางวัน แล้วกลับบ้าน
แปรงฟัน ล้างก้น ยังเป็นหน้าที่ผู้ปกครอง
ให้ตายเถอะครับ “วิโรจน์” เชื่อจริงๆ หรือว่านักการเมืองไทย มีหิริ โอตตัปปะ มีความสำนึกในตัวเอง พิจารณาความเหมาะสมของตัวเอง และแสดงความรับผิดชอบต่อสาธารณะด้วยการลาออกโดยสมัครใจได้
ถ้า “วิโรจน์” เชื่อแบบนั้นโดยบริสุทธิ์ใจริงๆ จะยกให้เป็น สส.ดีเด่นประจำปี ๑๐ ปีรวดเลยครับ
แต่ถ้าไม่ใช่ พรรคฝ่ายค้านจะถูกตั้งคำถามเยอะครับ
รอเสียบหรือเปล่า!
ยกตัวอย่างง่ายๆ ให้ “วิโรจน์” กลับไปเหลือกตาดูในกระจกหลังตื่นนอนกลางวันก็แล้วกัน
กรณี สส.ก้าวไกล บ้ากาม ละเมิดทางเพศ สังคมจี้ให้สอบจริยธรรม ขับออกจากพรรค
สส.ก้าวไกลปากดีทั้งหลายเผ่นหมด ไม่มีใครออกความเห็น
กว่าจะตั้งหลักได้ เสียงเรียกร้องจริยธรรมในโซเชียลไปไกลแล้ว
สส.บ้ากาม มีหิริ โอตตัปปะ มีจิตสำนึกหรือเปล่า
ก็ไม่
ต้องประชุมคณะกรรมการวินัยพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค ขับออกจากพรรค
ผลออกมายิ่งอัปยศ
อุ้ม สส.บ้ากามหน้าตาเฉย
โซเชียลเดือดสิครับ!
สุดท้ายพรรคก้าวไกลต้องแก้ตัวใหม่ขับพ้นพรรคแบบจำยอม
นั่นคือโลกแห่งความจริง และเป็นประสบการณ์ตรงของพรรคส้ม
ครับ…ก็แปลกพอสมควร รัฐธรรมนูญฉบับปี ๒๕๖๐ แม้จะเป็นผลิตผลของคณะรัฐประหาร แต่ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า นักการเมืองขี้ฉ้อขยาด
ใครมีประวัติเทาๆ แล้วคิดว่าแค่มีเงินก็เป็นรัฐมนตรีได้ พวกนี้ล้มเลิกความคิดไปหมดแล้ว
ไม่กล้าเข้ามา เพราะกลัวตายยกเข่ง
ถึงได้พยายามแก้รัฐธรรมนูญกัน
แต่พรรคส้มบอกว่า เป็นผ้าที่สกปรก!
เป็นน้ำเน่า
ถ้าเห็นด้วยก็จะตกในวังวนนิติสงครามที่คณะรัฐประหารวางหลุมพรางไว้
ถุย!
เหมือนเด็กมีปม
คิดจะปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปทุกอย่าง แต่ทำเป็นไม่รู้จักสันดานนักการเมืองไทย
มันจะเป็นไปได้อย่างไรครับ พรุ่งนี้ตื่นมา นายกฯ แพทองโพย ออกมาขอโทษประชาชน ผิดไปแล้วขอลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เป็นไปได้หรือครับ “ทักษิณ” จะสำนึกในความผิด ตั้งโต๊ะแถลงข่าวว่า วางแผนไปนอนชั้น ๑๔ ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว
ขออภัยสังคม หวังว่าประชาชนจะให้อภัย
รอหมาออกลูกเป็นคนก่อนครับ
หรือแถวพรรคส้มมีคนลูกหมาเกลื่อนจนเป็นเรื่องปกติ
ทำงานการเมืองอย่าเผาเวลาหมดไปกับเรื่องเพ้อเจ้อ ไร้สาระ
เป็นฝ่ายค้านยังถูกตั้งคำถามเรื่องประสิทธิภาพในการทำงาน
สภาพนี้อย่าเพิ่งคิดเป็นรัฐบาลเลยครับ
ประเทศไม่ใช่ของเล่น หลังตื่นจากนอนกลางวันของเด็กอนุบาล
ฉะนั้นเลือกตั้งคราวหน้าอย่าลง
เพราะรัฐธรรมนูญเป็นมรดกบาปรัฐประหาร.
