ส่อง ‘ดีเอสไอ’ ย้อนดู ‘ธาริต’ #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

นี่ไงนิติสงคราม…

แต่พรรคส้ม และผู้นำจิตวิญญาณอย่าง ปิยบุตร แสงกนกกุล ไม่ออกมาพูดสักแอะ

ไม่มีอำนาจ ไม่มีหน้าที่ แต่ทะลึ่ง อยากทำคดี

อยากให้ “บอร์ดคดีพิเศษ” ที่ “ภูมิธรรม เวชยชัย” นั่งหัวโต๊ะ รวมถึง “ทวี สอดส่อง” รัฐมนตรียุติธรรม และดีเอสไอ ดูกรณี “ธาริต เพ็งดิษฐ์” เป็นตัวอย่าง

คดีไม่เหมือนกันเสียทีเดียว

แต่พฤติกรรมใกล้เคียง!

ข้อถกเถียงเรื่อง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีอำนาจสอบสวนคดีเลือก สว.หรือไม่ ยังคงมีประเด็นให้พูดถึง

วันนี้ (๖ มีนาคม) บอร์ดคดีพิเศษนัดลงมติกันอีกรอบว่า จะรับคดีเลือก สว.เป็นคดีพิเศษหรือไม่

ถ้าตีความแบบศรีธนญชัย ตั้งแต่ กรรมการบอร์ด ยันอธิบดีดีเอสไอ ขาข้างหนึ่งมีความเสี่ยงเข้าไปอยู่ในคุกแล้ว

ถ้าไม่รับ ก็ปล่อยให้ กกต.ทำงานไปตามกระบวนการของเขา

ปฏิเสธไม่ได้หรอกครับคดีนี้เริ่มต้นมาจากคำสั่งของฝ่ายการเมืองที่ไม่มีตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น แต่มีอำนาจเหนือรัฐบาล

เพราะต้องการสร้างฐานอำนาจการเมืองสีน้ำเงิน

หวังยึดวุฒิสภาเอาไปใช้ประโยชน์ทางการเมืองเสียเอง

แต่ก่อนที่ “บอร์ดคดีพิเศษบะหมี่ ๕ ก้อน” จะลงมติ ลองตรวจสอบความเห็นทางกฎหมายของอดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ “จรัญ ภักดีธนากุล”

“…กฎหมายเปิดช่องให้ดีเอสไอรับคดีอาญาได้ทุกคดี ผ่านมติของคณะกรรมการคดีพิเศษ แต่ปัญหาอยู่ที่ กรณีนี้เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นอำนาจของ กกต. ตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.โดยตรง…”

“…รัฐธรรมนูญมีเจตนารมณ์ชัดเจนว่าไม่ต้องการให้ฝ่ายการเมือง ไม่ว่าจะฝ่ายข้างมากหรือฝ่ายข้างน้อย เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือกตั้ง…”

“…รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ชัดเจน ในมาตรา ๔๙ ของ พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. ว่าความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ต้องอยู่ภายใต้การดำเนินการของ กกต. …”

“…ถ้ามีการจ่ายเงินจ่ายทอง วางระบบฮั้วกัน ถือเป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งต้องอยู่ในอำนาจของ กกต. …”

“…ดีเอสไอไม่สามารถรับทำคดีนี้ได้เอง เพราะเป็น ความผิดที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้อยู่ในอำนาจของ กกต. ซึ่ง หากมีเรื่องฟอกเงิน ก็ต้องให้ กกต.ตรวจสอบก่อน แล้วจึงส่งเรื่องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)…”

“…ดีเอสไอเป็นหน่วยงานที่ทรงอำนาจมาก มีอำนาจมากกว่าตำรวจ และที่สำคัญดีเอสไออยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของฝ่ายบริหารผ่านกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นสายตรงของคณะรัฐมนตรี…”

“…หากปล่อยให้ดีเอสไอเป็นตัวหลักในการทำคดี และแยกความผิดเลือกตั้งออกจาก ข้อหาอั้งยี่-ซ่องโจร อาจทำให้ ดีเอสไอกลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง…”

“…นี่ไม่ใช่อั้งยี่ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมร้ายแรง เช่น ค้ามนุษย์ แต่มันเป็นอั้งยี่ที่เกิดจากการฮั้วเลือก สว.ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องอยู่ในอำนาจของ กกต. …”

“…หากบอร์ดคดีพิเศษลงมติรับคดีนี้ เท่ากับเป็นการแย่งอำนาจ กกต. และอาจนำไปสู่การสร้างบรรทัดฐานเปิดช่องให้ฝ่ายการเมืองใช้ DSI แทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งในอนาคต…”

“…ถ้ารับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ ต่อไปจะกลายเป็นบรรทัดฐาน ไม่ใช่แค่เรื่อง สว. แต่รวมถึงการเลือกตั้ง สส. และประชามติ ฝ่ายการเมืองที่กุมอำนาจรัฐอยู่ก็จะใช้ ดีเอสไอ รับทำคดีเลือกตั้งได้ทุกประเภท…”

ครับ… “บอร์ดคดีพิเศษ” จะข้ามเส้นระหว่างองค์กรตรวจสอบ กับ การเมือง หรือไม่

สมัยรัฐบาลทักษิณ มีการสร้างรัฐตำรวจขึ้นมา

นี่ก็กำลังจะกลายเป็นรัฐตำรวจอีกรูปแบบหนึ่ง

นิติสงครามที่พรรคส้มไม่ยอมพูดถึงนี้ มันยิ่งกว่ากระทำต่อตัวบุคคล

เพราะมันถึงขั้นล้างระบอบ

จะเป็นโฉมใหม่ในประวัติศาสตร์การเมืองไปในทันทีหากมีการเปลี่ยนตัว สว.ถึง ๑๓๘ คน โดยดีเอสไอ ซึ่งเป็นเครื่องมือของรัฐบาล

เผด็จการรัฐสภาจะเกิดขึ้นอีกครั้ง

ถึงกระนั้น…ก็ยากที่จะใช้อำนาจนั้น เพราะแรงต้านจะเกิดขึ้นอย่างมหาศาลเช่นกัน

แต่…ระวังสถานการณ์ตีกลับ

อาจมีคนต้องติดคุกเพราะใช้อำนาจไม่ถูกต้อง

อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นให้ดูกรณี “ธาริต เพ็งดิษฐ์” เป็นตัวอย่าง

๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก “ธาริต เพ็งดิษฐ์” คดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เป็นเวลา ๒ ปี โดยไม่รอลงอาญา

พิพากษาเสร็จส่งคุกทันที

คำพิพากษาศาลฎีกา โดยมีใจความว่า…

“…ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานมีข้อที่ต้องวินิจฉัยว่าจำเลยทั้งหมด ทำผิดตามที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาหรือไม่

เห็นว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยจำเลยที่ ๑ (นายธาริต) ทราบอยู่แล้วว่า ตนเองและหน่วยงานไม่มีหน้าที่สืบสวนสอบสวนบุคคลทั้งสองที่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (อภิสิทธิ์-สุเทพ) ต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีอำนาจหน้าที่สรุปสำนวนเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง…”

องค์กรตรวจสอบแต่ละองค์กรล้วนมีอำนาจ หน้าที่ ของตนเอง

ดีเอสไอที่เราคุ้นชินคือทำคดีเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรม ที่เกินกำลังของตำรวจเป็นหลัก

เช่นคดีค้ามนุษย์ คดีฉ้อโกงมูลค่านับหมื่นล้าน

ยันคดีแตงโม!

หากดีเอสไอจะข้ามมาทำคดีเลือก สว. ต่อไปก็มีโอกาสทำคดีเลือก สส.ได้เช่นกัน

เพราะหากการซื้อ-ขายเสียง ถูกตีความว่าเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร ก็เป็นช่องทางให้ดีเอสไอปาดหน้า กกต. ใช้อำนาจตามใบสั่งการเมืองเพื่อเล่นงานฝั่งตรงข้ามที่ถืออำนาจอยู่ในขณะนั้น

แล้วมันจะเหลืออะไร?

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
กสทช.ต้องปล่อยให้คาราคาซัง?
สันต์ สะตอแมน แต่งงานกันหม้อ (ข้าว)ไม่ทันดำ.. ฝ่ายสามี- “ดีเจแมน” หรือนายพัฒนพล มินทะขิน ชีวิตก็ทำท่าจะวุ่นวาย หลังถูกแฉ-ถูกโยงร่วมขบวนการแชร์ลูกโซ่ “FOREX 3D”...
Read More
0 replies on “ส่อง ‘ดีเอสไอ’ ย้อนดู ‘ธาริต’ #ผักกาดหอม”