1 มีนาคม 2568 พรรคเพื่อไทยสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้การเมืองไทยอีกครั้ง ด้วยการกำหนดเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เพียงแค่วันเดียวในวันที่ 24 มีนาคม ก่อนเร่งโหวตลงมติทันทีหลังเที่ยงคืน
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะกำหนดการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงแค่วันเดียว หลังจากฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียวว่า เป็นแนวทางที่เหมาะสม เพราะการอภิปรายเพียงบุคคลเดียวไม่จำเป็นต้องใช้เวลาถึง 5 วันตามที่ฝ่ายค้านร้องขอ
“ถ้าจะใช้เวลาถึง 5 วัน ก็ควรต้องมีผู้ถูกอภิปรายถึง 10 คน แต่เมื่ออภิปรายเพียงนายกฯ คนเดียว วันเดียวก็เพียงพอแล้ว อภิปรายให้เต็มที่ให้จบในวันเดียว ไม่ต้องมาขี่ม้าเลียบค่าย” นายวิสุทธิ์กล่าว พร้อมระบุว่า พรรคเพื่อไทยกำหนดวันอภิปรายไว้ที่ 24 มีนาคม และจะลงมติหลังเที่ยงคืนทันที โดยไม่ต้องเลื่อนออกไปวันรุ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้จะต้องหารือในที่ประชุมวิปรัฐบาลวันที่ 3 มีนาคมอีกครั้ง ก่อนนำไปพูดคุยกำหนดกรอบเวลาการอภิปรายร่วมกับวิป 3 ฝ่าย
เมื่อถูกถามว่าการกำหนดวันอภิปรายเพียงวันเดียว เป็นการปกป้องนายกฯ ไม่ให้ถูกถล่มหนักหรือไม่ นายวิสุทธิ์ยืนยันว่า ไม่ใช่การปกป้อง เพราะมั่นใจว่านายกฯ สามารถชี้แจงได้ แต่การที่ฝ่ายค้านอภิปรายเพียงคนเดียว วันเดียวก็น่าจะเพียงพอ และนายกฯ เองก็ไม่จำเป็นต้องชี้แจงคนเดียวทั้งหมด เพราะสามารถมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องช่วยตอบคำถามได้
“ถ้าอภิปรายถึงเรื่องกระทรวงคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ก็สามารถชี้แจงแทนได้ ถ้าเกี่ยวกับกระทรวงเกษตรฯ ก็นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ ชี้แจงได้ นายกฯ คงให้รัฐมนตรีคนอื่นช่วยชี้แจงบ้าง เพราะหากต้องตอบทุกเรื่องคนเดียว คงไม่ไหว” นายวิสุทธิ์กล่าว
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านมองว่ารัฐบาลใจแคบที่ให้อภิปรายวันเดียว ต่างจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้เวลาอภิปรายหลายวัน นายวิสุทธิ์กล่าวว่า “ก็รอให้ฝ่ายค้านได้เป็นรัฐบาลก่อน แล้วค่อยให้เวลา 4-5 วันก็แล้วกัน” พร้อมระบุว่า หากต้องให้นายกฯ และรัฐมนตรีทุกคนอยู่ที่สภาตลอด 5 วัน อาจกระทบต่อการทำงานบริหารประเทศ
นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงการพาดพิงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างการอภิปรายว่า จะต้องพิจารณาตามเหตุผล และพรรคเพื่อไทยจะไม่ประท้วงพร่ำเพรื่อ แต่หากมีการกล่าวหาในลักษณะที่เป็นการบิดเบือนหรือพาดพิงเกินจริง ก็จำเป็นต้องประท้วง
“ไม่ถึงกับห้ามเอ่ยชื่อนายทักษิณ หากพูดในเชิงข้อเท็จจริง เช่น นายทักษิณเป็นบิดาของนายกฯ ก็พูดได้ แต่หากอภิปรายว่า นายทักษิณครอบงำนายกฯ อันนี้ไม่ได้ เพราะเป็นการกล่าวหาบุคคลภายนอกที่ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม และผิดข้อบังคับการประชุม” นายวิสุทธิ์กล่าว พร้อมย้ำว่า การที่ น.ส.แพทองธารรับฟังความคิดเห็นจากบิดาซึ่งเคยเป็นนายกฯ สองสมัย ไม่ถือว่าเป็นการครอบงำทางการเมือง
“ทำไมลูกจะฟังความคิดเห็นพ่อไม่ได้ เราไม่ได้ปกป้องนายกฯ โดยไม่ดูข้อเท็จจริง” นายวิสุทธิ์กล่าว
ที่มา https://www.thaipost.net/hi-light/748137/
