ผักกาดหอม
ซี้ซั้วต่า…
พวกพูดไม่หมด พูดเข้าข้างตัวเอง บิดเบือน สร้างความเข้าใจผิดให้ผู้คนในสังคม เมื่อไหร่จะหมดไปเสียที
ไม่มีใครเถียงครับว่า สส.มีหน้าที่เสนอกฎหมาย แก้ไขกฎหมาย
มีอำนาจเต็มกำมือเลยครับ
แต่…ย้ำนะครับ แต่…ใช่ว่าจะเสนอได้ทุกเรื่อง แก้ไขได้ทุกอย่าง เพราะมีข้อห้าม
ทั่วโลกก็เป็นอย่างนี้หมด ไม่ใช่เฉพาะไทย
เหตุผลที่รัฐธรรมนูญญี่ปุ่นยังไม่เคยได้รับการปรับเปลี่ยน คือการแก้ไขเลย เหตุผลไม่มีอะไรซับซ้อนมาก เพราะแก้ยาก
การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาด้วยคะแนนเสียง ๒ ใน ๓ จากทั้งหมด
และยังต้องได้รับคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของประชาชนผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงในการทำประชามติอีกด้วย
สส.พรรคส้ม อยากฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันทิ้งใจจะขาด แต่ทำไม่สำเร็จ พากันโวยวายว่า เป็นเพราะผลพวงการสืบทอดอำนาจของเผด็จการทหาร
สู้ในสภาไม่ได้ ก็ไปปลุกระดมนอกสภาแล้ว
ราวกับถ้าไม่ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งโลกไม่สงบ
เฟซบุ๊กเพจ “พรรคประชาชน-People’s Party” พรรคประชาชน เริ่มก่อหวอดในโซเชียล
ใช้แฮชแท็ก “#รัฐธรรมนูญแก้เพื่อ”
รายละเอียดพรรคส้มว่าตามนี้ครับ…
“…การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญต่ออนาคตของประเทศ แต่เมื่อพรรคฯ ไม่สามารถอภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕๖ และหมวด ๑๕/๑ ในสภาได้ จึงขอเดินหน้าต่อผ่านช่องทางอื่นเพื่อสื่อสารกับประชาชนโดยตรง
พรรคประชาชนให้เหตุผลว่า รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ มีปัญหาทั้งที่มาและเนื้อหา ซึ่งส่งผลต่อประชาธิปไตยและสิทธิของประชาชนในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น…
ปัญหาด้านที่มาและกระบวนการ
ถูกออกแบบโดยคณะรัฐประหาร ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม
ผ่านประชามติภายใต้ข้อจำกัดที่ทำให้เกิดข้อกังขาเรื่องความเป็นธรรม
ถูกออกแบบให้แก้ไขได้ยาก ทำให้ประชาชนไม่สามารถปรับเปลี่ยนกติกาการเมืองได้อย่างแท้จริง
ปัญหาด้านเนื้อหา
เปิดช่องให้ อำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน ควบคุมรัฐบาลที่ประชาชนเลือก
กลไกตรวจสอบทุจริตอ่อนแอ ไม่สามารถแก้ปัญหาคอร์รัปชันได้อย่างแท้จริง
สิทธิเสรีภาพของประชาชนถูกจำกัด ภายใต้ข้ออ้างเรื่องความมั่นคง
สวัสดิการประชาชนไม่ทั่วถึง และยังมีช่องโหว่ในด้านสุขภาพและการศึกษา
การกระจายอำนาจถูกจำกัด ท้องถิ่นไม่มีอำนาจตัดสินใจอย่างแท้จริง
ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปีของ คสช. ครอบงำนโยบายรัฐบาล ทำให้รัฐบาลจากการเลือกตั้งไม่สามารถกำหนดแนวทางประเทศได้อย่างอิสระ
‘สร้างใหม่ทั้งหลัง’ แทนการซ่อมแซมเป็นจุดๆ
พรรคประชาชนยืนยันว่า รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ไม่สามารถแก้ไขรายมาตราแล้วจบได้ เพราะปัญหามีอยู่ในทุกส่วน เปรียบเหมือน ‘บ้านที่พังทั้งหลั’ จะแค่ซ่อมแซมบางจุดไม่ได้ ต้องรื้อแล้วสร้างใหม่โดยให้ประชาชนเป็นผู้ออกแบบ
ดังนั้น พรรคประชาชนจึงเสนอให้มี ‘สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง ๑๐๐%’ เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของประเทศอย่างแท้จริง
เชิญประชาชนร่วมแสดงความเห็นและติดตามการอภิปรายนอกสภาผ่านแฮชแท็ก ‘#รัฐธรรมนูญแก้เพื่อ’ บนทุกแพลตฟอร์มออนไลน์…”
แน่ใจหรือครับว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ปราบโกงไม่ได้
แน่ใจหรือครับว่า บ้านที่สร้างใหม่ทั้งหลังจะดีกว่าหลังเก่า
แน่ใจหรือครับว่า ส.ส.ร.ส่วนใหญ่จะมีความคิดเหมือนพรรคส้ม
หาก ส.ส.ร.ส่วนใหญ่เห็นต่างกับพรรคส้ม เช่นยังคงหมวด ๑ และหมวด ๒ ไว้เหมือนเดิม จะยอมรับหรือไม่
มั่นใจกับระบบเลือกตั้งว่า จะได้คนที่มีแนวคิดเหมือนพรรคส้มทั้งหมดอย่างนั้นหรือ
เป็นคำถามง่ายๆ ให้กลับไปคิดครับ
อย่ามาสร้างความเข้าใจผิดให้สังคมเหมือนที่กำลังทำกับการแก้ ม.๑๑๒
ย้ำนะครับ การแก้กฎหมายเป็นหน้าที่โดยตรงของ สส.
มาตรา ๑๑๒ เช่นกัน สามารถแก้ไขได้ และศาลรัฐธรรมนูญมิได้วินิจฉัยว่า ห้ามสมาชิกรัฐสภา ทั้ง สส.และ สว.แก้ ม.๑๑๒
แต่ศาลท่านวินิจฉัยว่า แนวทางแก้ ม.๑๑๒ ของพรรคส้มนั้นเป็นการล้มล้างการปกครอง
ล้มล้างอย่างไร?
ข้อเสนอแก้มาตรา ๑๑๒ ของพรรคก้าวไกล มีสาระสำคัญดังนี้
ย้ายความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ออกจากหมวดความมั่นคงให้เป็นความผิดที่ยอมความได้
โดยกำหนดให้สำนักพระราชวังเป็นผู้มีสิทธิแจ้งความหรือร้องทุกข์กล่าวโทษเพียงผู้เดียว
กำหนดบทลงโทษใหม่ จากต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ ๓ ถึง ๑๕ ปี เป็นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๓ หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (สำหรับความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์)
เพิ่มบทบัญญัติเรื่องเหตุในการยกเว้นความผิดและการยกเว้นโทษ ในกรณีการแสดงความคิดเห็นที่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตหรือการพูดความจริงที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
เนื้อหาในภาพรวม การแก้ ม.๑๑๒ แบบนี้ จึงมิใช่แก้เพื่อให้การคุ้มครองสถาบันหลักของชาติ
แต่แก้เพื่อทำลาย
ในคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญมิได้วินิจฉัยจากแนวทางการแก้ ม.๑๑๒ ของพรรคส้มเพียงอย่างเดียว แต่วินิจฉัยจากพฤติการณ์ของพรรคส้ม และ สส.ของพรรค
เมื่อขมวดรวมกันแล้วจึงกลายเป็นแนวคิดล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
การลบนโยบายแก้ ม.๑๑๒ ออกจากนโยบายของพรรค อาจบรรเทาความผิดได้บ้าง
แต่การที่ ๔๔ สส.และอดีต สส.พรรคส้ม จะใช้แนวทางการต่อสู้คดีว่า การใช้ตำแหน่ง สส.ไปยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหาคดี ม.๑๑๒ เมื่อยื่นเรื่องไป คนที่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวได้คือศาล
หากยื่นเรื่องขอให้ปล่อยตัวชั่วคราว แต่ศาลไม่อนุญาตก็จบ
แบบนี้มันดูศรีธนญชัยไปหน่อย
เบิกเนตรดูกันหน่อยครับว่า พวกนี้เผ่นไปต่างประเทศกี่คนแล้ว
ที่หนีเพราะมีเป้าหมายล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งนั้น
หรือว่าไม่จริง
