ยอมรับ..คนโลภมาก #สันต์สะตอแมน

สันต์ สะตอแมน

วันนี้-คิดถึงลุงตู่!

เปล่า..ไม่ได้คิดจะเอาลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรอกครับ!

หากแต่ที่ทำให้คิดถึงขึ้นมาฉับพลันก็ด้วยอ่านข่าวที่นายทักษิณ ชินวัตร ไปช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่นู่น!

ซึ่งนอกจากจะสติแตกด่ากราดใครต่อใครไปทั่วแล้ว ประโยคหนึ่งนายทักษิณว่า.. “ตนค่อนข้างมั่นใจว่า ปี 68 เราจะทำงานหนักไปด้วยกัน เพื่อพ้นจากความเฮงซวยในอดีต

ตอนตนเป็นนายกฯ เชียงใหม่ก็งามแท้ งามว่า แต่พอรัฐประหาร ปรากฏว่าเขาเอาใครก็ไม่รู้มาบริหารประเทศ ง่าวกว่าตนทั้งนั้น”

นี่..จะหมายถึงลุงตู่หรือไม่ ไม่แน่ใจ แต่ใจผมก็อดคิดถึงลุงตู่ไม่ได้ เพราะมีนายกฯ ลุงคนเดียวแหละที่บริหารประเทศต่อเนื่องยาวนาน

ก็แค่คิดถึง ไม่ได้มีอะไรพิเศษ เพราะรู้ว่าเวลานี้ลุงตู่ไม่ได้รู้ร้อน-รู้หนาวกับการเมืองแล้ว ใครจะเหน็บแนม แซะ-กัดอย่างไร ก็ยึดอุเบกขาได้!

ครับ..พูดถึงนายทักษิณ เวลานี้ดูเหมือนอารมณ์แปรปรวนอย่างเห็นได้ชัด บางอารมณ์พูด.. “ผมกลับมาเป็นกรรมการห้ามมวย ใครผิดใจกันทั้งนักธุรกิจหรือนักการเมือง

ผมจับมานั่งคุยกัน เอาไวน์คนละแก้ว นี่เป็นน้ำเปลี่ยนนิสัย กินแล้วนิสัยเปลี่ยน

ดังนั้นก็เปลี่ยนนิสัยจากโกรธกันเป็นดีกัน ตอนนี้เปลี่ยนมาหลายคู่แล้ว วันนี้เราต้องไม่ทะเลาะกัน ต้องคุยกัน และปรองดองกัน มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน และขอให้สามัคคีกัน..”

อีกอารมณ์.. “คิดเล่นๆ สื่อไม่ต้องเอาไปเขียน ผมจะขออาสาสมัครทนายความ หากใครเก่งก็ขอให้มาช่วยฟ้อง แต่ก็รู้สึกว่ามันน่ารำคาญ บางคนเราก็รู้พื้นเพกันอยู่ มันมาเห่าอยู่นั่น

เพราะบางคนไม่ได้ทำอะไรเลย บางคนผมเคยให้เงิน และพ่อเคยสอนผมว่าวันนี้เราเลี้ยงข้าวมันมื้อเดียว มันอิ่ม มันก็ขอบคุณเรา แต่มื้อหน้ามันหิว มันหาคนเลี้ยงข้าวใหม่

ถ้าเราไม่เลี้ยงมัน มันก็ขบเรา แล้วเราต้องเลี้ยงมันทุกวันเลยหรือ ลูกเราโตแล้วยังหากินเองได้ แต่บางคนแก่จนจะลงโลงแล้วยังไม่รู้จักหากินเอง เห็นแล้วรำคาญมาก”

หรืออีกท่วงลีลา.. “เมื่อแก่แล้วนิสัยก็เปลี่ยน ใจเย็นขึ้น แต่ว่าใครแรงมาก็แรงไป คิงเล่นฮา ฮาก็จะเล่นคิง และเดี๋ยวนี้ฮาไม่หมูนะ คิงอย่ามาเล่นกะฮานะ รำคาญโคตรพ่อโคตรแม่ อะไรนักหนา”

สรุปก็คือ..ไม่รู้จะกลับมาเป็นกรรมการห้ามมวยให้คนเขาดีกัน หรือกลับมาเพื่อเปิดศึกล้างแค้น-สร้างศัตรูกันแน่..อ่านแล้วก็พลอยให้เครียดไปด้วย!

อ้อ..แต่ก็มีคำพูดให้ยิ้ม ให้ผ่อนคลายอยู่หน่อยก็ตรงที่นายทักษิณว่า.. “ตนนั่งดูข่าวเห็นคนหลอนยา และตนไม่สบายใจ..ปีหน้าจะจัดการยาเสพติดทั้งผู้ค้าและผู้เสพ

ฉะนั้น หากขี้ยาอยากใช้ชีวิตอยู่สบาย เลิกได้แล้ว เพราะทักษิณเกลียดคนขี้ยา”

ดูเหมือนนายทักษิณจะผูกใจเจ็บ-แค้นกับ “ยาเสพติด” เข้ากระดูก ซึ่งก็เป็นเรื่องดีที่ประกาศ “ปีหน้าจะจัดการยาเสพติดทั้งผู้ค้าและผู้เสพ” ไว้เป็นสัญญาประชาคม

แต่ที่บอก.. “หากขี้ยาอยากใช้ชีวิตอยู่สบาย เลิกได้แล้ว เพราะทักษิณเกลียดคนขี้ยา” นั้น ความจริง “ขี้ยา” ก็ใช้ชีวิตสุขสบายอยู่แล้ว เพราะพ่อแม่เป็นนักการเมืองบ้าง เป็นเศรษฐีบ้าง

และ “ขี้ยา” เหล่านั้นก็คงไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรกับคำขู่หรือความรู้สึกของนายทักษิณ เกลียดก็เกลียดไป แต่จะให้เลิกไอซ์-เลิกยาเสพติด บางคนอาจคิด..ตัดพ่อ-ตัดแม่เสียจะง่ายกว่า!

ฉะนั้น..นายทักษิณจะกลับมาแล้ว หรือยังเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศ สำหรับ “ขี้ยา” ระดับวีไอพีที่มีอยู่เกลื่อนเมือง เห็นจะไม่ได้หวั่นกลัวแต่อย่างใดหรอกกระมัง?

แต่ที่สังคมให้หวั่นใจก็คำพูดทิ้งท้ายหน้าเวที.. “เลือกเพื่อไทยก็คือเลือกทักษิณ ถ้าเลือกเพื่อไทยก็ใช้ทักษิณ อยากให้ยาเสพติดหายไปก็ใช้ทักษิณ หนี้จะเบาบางลงก็ทักษิณ

ตังค์จะมีขึ้นก็ทักษิณ และคราวหน้าขอ สส. 10 คนคืนมา แบ่งคนก็ไม่ยอม ตนเป็นคนโลภมาก อยากได้ 10 คน 9 ครึ่งก็ไม่เอา”

ไอ้ตรงยอมรับ “ตนเป็นคนโลภมาก” นี่แหละ..น่ากลัว (ว่ะ)!.

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
สยามเซ็นเตอร์ ร่วมแสดงความยินดีกับ AIS SHOP
เอกวิทย์ ชัยวรานุรักษ์ ผู้บริหารหน่วยธุรกิจ สยามเซ็นเตอร์และสยามดิสคัฟเวอรี่ แสดงความยินดีกับ เลิศชัย กดทรัพย์ หัวหน้าหน่วยธุรกิจบริหารกลุ่มลูกค้ารีเทล และกระจายสินค้า เอไอเอส ในโอกาสเปิดตัว AIS...
Read More
0 replies on “ยอมรับ..คนโลภมาก #สันต์สะตอแมน”