สันต์ สะตอแมน
วันก่อนเห็นข่าว..
ศาลอาญาสั่งจำคุก “อานนท์ นำภา” จัดม็อบ “แฮร์รี่พอตเตอร์” หมิ่นเบื้องสูง อีก 2 ปี 8 เดือน รวมโทษจำคุก 6 คดี 18 ปี 10 เดือน 20 วัน!
และวันก่อนเช่นกัน ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว ได้โพสต์อธิบายความกฏหมายมาตรา 112 แบบกระชับ ง่ายต่อความเข้าใจ..
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเข้าถึงตา-ถึงหูของผู้ที่เสพความคิดของศาสดาส้มสามนิ้วบ้างหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม ใคร่ขออนุญาตดร.นิว เพื่อนำบทความชิ้นนี้มาให้ท่านผู้อ่านได้ทัศนา หรือเผื่อจะได้เข้าถึงตาของคนบางกลุ่ม-คณะบ้าง ตามนี้..
“ม.112 ไม่ได้ห้ามวิจารณ์ตามที่เขาหลอกลวง
ตามตัวบทกฎหมาย ม.112 ไม่ได้ห้ามวิจารณ์โดยสุจริต หากแต่ห้ามหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ในที่นี้ หมิ่นประมาท หมายถึง การใส่ความต่อบุคคลที่สามให้เกิดความเสียหาย ดูหมิ่น หมายถึง การดูถูกเหยียดหยาม
ขณะที่แสดงความอาฆาตมาดร้าย หมายถึง การพยาบาทมุ่งที่จะทำร้ายให้ได้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ฉะนั้น การกล่าวว่า ม.112 ห้ามวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเป็นการโกหกบิดเบือนที่ดูถูกสติปัญญาอย่างถึงที่สุด
อีกทั้งยังเห็นได้ชัดว่า ม.112 ไม่ใช่กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือ Lèse-majesté ที่ห้ามวิจารณ์หรือห้ามแสดงความคิดเห็นใดๆ จนกลายเป็นแตะต้องไม่ได้เลย
หากแต่จัดเป็นกฎหมายอาญาที่มีไว้คุ้มครองสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนของประมุขแห่งรัฐ
ขบวนการด้อยค่า ม.112 มักจะนำเสนอในรูปแบบของการโฆษณาชวนเชื่อ โทษกฎหมายด้วยวิธีการบิดเบือนฟอกขาวผู้กระทำผิดให้ดูราวกับว่าเป็นเหยื่อ
ทำนองว่า ม.112 เป็นปีศาจทำให้มีคนติดคุกในอัตราโทษสูงหลายปี โดยที่ไม่ได้เล่าถึงรายละเอียดที่มาที่ไป ทั้งๆ ที่เกิดขึ้นจากเจตนาและพฤติการณ์ในการกระทำผิดที่ชัดเจน
รวมถึงยังกระทำผิดซ้ำๆ ซากๆ หลายกรรม รวมกันหลายคดี
ความจริงแล้ว การติดคุกเพราะ ม.112 ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย ขนาดหลานธนาธรทำผิด ม.112 เพียงครั้งเดียว เมื่อยอมรับสารภาพผิดก็ยังได้รับความเมตตาจากศาล
ได้เข้าสู่การทำแผนบำบัดฟื้นฟูร่วมกับสหวิชาชีพ และสุดท้ายไม่ต้องติดคุก
ขณะที่นักโทษคดี ม.112 ส่วนใหญ่ทำสิ่งตรงข้ามกับหลานธนาธร คือ กระทำผิดซ้ำๆ ซากๆ หลายรายแม้ได้ประกันตัวก็ยังหาเรื่องเข้าคุกราวกับรับจ้างทำเป็นอาชีพ
เมื่อย้อนกลับไปดูกรณีศาสดาส้มสามนิ้วอย่างธนาธรและปิยบุตร ทุกวันนี้ก็ยังใช้ชีวิตอย่างสุขสบายนอกคุก ยังไม่ได้ติดคุกในคดี ม.112 จวบจนปัจจุบัน
เพราะคนเหล่านี้ระแวดระวังไม่ให้ตัวเองผิด ม.112 หากแต่มักชี้นำทางความคิดแบบเฉียดฉิวเลยเอาผิดยากกว่าปกติ
สุดท้ายคนที่ซวยที่สุดจึงเป็นคนที่เสพความคิดของศาสดาส้มสามนิ้ว แล้วมีอารมณ์ร่วมจนนำไปต่อยอดและลงมือกระทำผิด
หากยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย เชื่อมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นมนุษย์ ก็ควรเคารพในสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนของสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย
เพราะทุกคนล้วนมีความเป็นคนเท่ากัน แต่สิ่งที่ไม่เท่ากัน คือ บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบ ตลอดจนสถานะทางสังคมต่างๆ
ดังนั้น จึงควรตระหนักรู้ว่าการละเมิด ม.112 ผิดต่อหลักการประชาธิปไตยและเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน”
ครับ..การติดคุกเพราะ ม.112 แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย แต่นายอานนท์ นำภา ก็พยายามเหลือเกินที่จะทำให้เป็นเรื่องง่ายดาย และนี่ไม่รู้ยังเหลืออยู่อีกกี่คดี..
จะจบที่18 ปี 10 เดือน 20 วันหรือไม่..เวรกรรม!