30 ตุลาคม 2567 เวลา 14.00 น . นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. และ ศปช. ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ภายหลังนายกรัฐมนตรีเปิดงาน โครงการไทยแลนด์วินเทอร์เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในทุกมิติ ที่ผ่านมานั้น วันนี้รัฐบาลได้ติดตามการดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันศุกร์ที่ 1 พ.ย. นี้ ซึ่งพบว่ามีความพร้อมในการให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว
ทั้งนี้รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชน ร่วมลงทะเบียนแคมเปญ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง“ โดย ททท. ได้ร่วมกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวการท่องเที่ยวในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เช่น โรงแรม/ที่พัก ร้านกาแฟ ร้านอาหาร กิจกรรม DIY แหล่งท่องเที่ยว ร้านของที่ระลึก ฯลฯ ให้แก่นักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวสามารถลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ www.แอ่วเหนือคนละครึ่ง.com”
นอกจากนี้สำหรับมาตรการด้านสาธารณสุขได้ออกสติ๊กเกอร์ “สะอาดชัวร์” เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว โดยให้ผู้ประกอบการได้ประเมินตนเองตามมาตรการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมหลังน้ำท่วมรองรับการท่องเที่ยวสำหรับสถานประกอบการและแหล่งท่องเที่ยว พร้อมคำแนะนำด้านต่าง ๆ เช่น ด้านคุณภาพน้ำ อาหาร การกำจัดขยะ เป็นต้น เมื่อผ่านการประเมินจะได้รับสติกเกอร์ดังกล่าว สำหรับให้สถานประกอบการนำไปติดเพื่อเป็นการการันตีสาธารณสุขต่อไป นายจิรายุกล่าว
ส่วนการบริหารจัดการน้ำ ของ ศปช.นายจิรายุกล่าวว่า ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องใน อัตรา 1,679 ลบ.ม./วินาที ลดลงจากเมื่อวาน 80 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยา 2,038 ลบ.ม./วินาที การระบายน้ำที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาล่าสุดวันนี้ (30 ต.ค. 67) ปรับลดเหลือ 1,500 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าภายใน 7 วันข้างหน้า ปริมาณน้ำที่สถานี C.2 จะลดลงอยู่ที่ 1,300-1,400 ลบ.ม./วินาที และคาดว่าจะมีการระบายน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่อัตรา 700 ลบ.ม./วินาที ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน พ.ย. 67
นายจิรายุกล่าวว่า สทนช. ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนขอให้เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง ในช่วงวันที่ 2 – 12 พ.ย. 67 ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำมีระดับเพิ่มสูงขึ้น จึงมีโอกาสเกิดน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวในจังหวัดกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม โดยขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด
