ซีอีโอ TSB เปิดใจพัฒนารถเมล์ครบ 3 ปี เส้นทางที่ไม่ง่าย ลงพื้นที่ดูการให้บริการด้วยตัวเอง พร้อมรับฟัง-นำข้อมูลปรับปรุงทุกจุด ด้านยอดผู้โดยสารเพิ่มทะลุ 350,000 คนต่อวัน ประกาศชัดนโยบายบริษัทรถเมล์ของคนไทยเติบโตอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG For Sustainable
นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา วันนี้ถือเป็นหนึ่งบทพิสูจน์สำคัญว่า บริษัทของคนไทย รถเมล์ที่สร้างด้วยฝีมือคนไทย สามารถทำให้ระบบขนส่งมวลชนที่ถูกละเลยมาหลายสิบปี ได้มีรถเมล์พลังงานไฟฟ้าให้พี่น้องประชาชนได้ใช้บริการกว่า 2,000 คัน มีระบบเทคโนโลยีทันสมัย มีโรงเรียนฝึกอบรมบุคลากร เราลงทุนพัฒนาจุดชาร์จ อู่สาขากว่า 24 แห่งทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของการพัฒนา สิ่งสำคัญที่สุดของบริษัท คือ เราเติบโตไปพร้อมกับสังคม สิ่งแวดล้อม ด้วยแนวคิด ESG เข้ามาจับในทุกมิติ เช่น เราลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยรถ EV, สร้างการจ้างงานให้ผู้คนได้มีอาชีพมากกว่า 5,000 คน ดูแลผู้โดยสาร พี่น้องประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ บริหารองค์กรด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้ พร้อมการกำกับดูแลการบริหารอย่างมีธรรมาภิบาล
ซีอีโอ TSB กล่าวต่อว่า การพัฒนาของบริษัทจะยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ ตนเองได้ลงพื้นที่ไปรอรถเมล์อยู่ข้าง ๆ ผู้โดยสารทุกคนตั้งแต่ช่วงเช้าถึงค่ำ เพื่อให้เข้าใจปัญหา ไปอยู่กับหน้างานจริง ซึ่งตนยอมรับว่า ยังได้เห็นความไม่สะดวกในหลายจุด ในฐานะผู้บริหารตนขอน้อมรับฟังทุกคำติชม และจะนำไปปรับปรุง พัฒนาต่อไปเพื่อให้พี่น้องคนไทยได้มีรถเมล์คุณภาพทัดเทียมกับต่างประเทศ
สำหรับภาพรวมการพัฒนาของรถเมล์ TSB นอกจากการเป็นรถเมล์ไฟฟ้า ไม่ปล่อยมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว บริษัทยังได้วางระบบ Fleet Management งานบริหารจัดการหลังบ้าน พัฒนาระบบตรวจสอบความปลอดภัย กล้อง CCTV ตรวจเช็คออนไลน์ได้เรียลไทม์ สอดส่องคุณภาพการให้บริการ ให้สอดคล้องกับความพึงพอใจของผู้โดยสาร เพื่อพัฒนาการปล่อยรถให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการนำเทคโนโลยีไปปรับปรุงข้อติดขัดต่าง ๆ กระทั่งการพัฒนาบุคลากร เนื่องจากทรัพยากรคนที่อยู่ในวงการรถเมล์ ถูกละเลยมาหลายปี เราจึงได้ลงทุนพัฒนาบุคลากร กัปตันเมล์-บัสโฮสเตส
โครงการ “สมาร์ทกัปตัน” คัดเลือกพนักงานที่อยู่ในสายรถเส้นทางต่าง ๆ ให้เข้ามาเป็นผู้ดูแลสายรถนั้น ๆ เพื่อต่อยอดอาชีพ สร้างคุณค่า เพิ่มรายได้ให้กับพนักงานอีก 100 คน เพราะตนเองเชื่อว่าไม่มีใครจะรู้ปัญหาการให้บริการดีเท่าพนักงานที่อยู่ในสายอยู่แล้ว แม้จะไม่ได้ยกระดับโดยทันที แต่ในระยะยาวหากคนในอุตสาหกรรมได้อบรม ได้ฝึกฝนอย่างมีมาตรฐาน พนักงานได้พัฒนาทักษะ เมื่อคนรุ่นใหม่เห็นภาพที่ดี ก็จะอยากเข้ามาทำมากขึ้น เชื่อว่าจะยิ่งดีกับวงการรถเมล์ จะได้มีพนักงานคุณภาพ บริการพี่น้องประชาชนได้ดียิ่งขึ้นต่อไป
ในมุมของผู้โดยสารเอง เราพยายามลงรายละเอียดกับประสบการณ์ใช้งานของผู้โดยสารมากขึ้น เช่น เราพัฒนาระบบแอปพลิเคชัน TSB Go Plus+ ไว้เป็นคู่มือการเดินทางของผู้โดยสาร สามารถตรวจสอบประวัติการเดินทางย้อนหลังได้, ฟังก์ชันอัปเดตบัตรโดยสาร ผ่านระบบ NFC แตะอัปเดตยอดเงินผ่านมือถือได้ทันที, ระบบการร้องเรียน ติชม จากประวัติการใช้งาน ส่งข้อมูลของผู้โดยสารเข้าระบบ HR-Operation สามารถรับเรื่องแล้วแก้ไขได้อย่างตรงจุด กระทั่งเว็บไซต์ของบริษัท Thaismilegroup.com ทีมงานได้พัฒนาเว็บไซต์ใหม่ เพื่อเป็นฐานข้อมูลให้ลูกค้าสามารถเข้ามารู้จัก มาดูข้อมูล ที่มาที่ไปของบริษัทได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
“ในอนาคต ไทย สมายล์ บัส จะมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อตอบแทนลูกค้า มีสิทธิประโยชน์พิเศษเฉพาะผู้ถือบัตร HOP Card ให้ได้ร่วมสนุก มีฟังก์ชันใหม่ ๆ ให้ได้ทดลองใช้ มีพันธมิตรอีกหลายรายที่จะเข้ามาร่วมกัน เพราะทีมงานของเราทุกคนไม่หยุดพัฒนา ควบคู่กับการแก้ไขปัญหา ยกระดับการให้บริการ เพื่อให้สมกับการเป็นรถเมล์ของคนไทยที่ทัดเทียมกับเมืองนอกเขาได้จริง ๆ ตนเองหวังเป็นอย่างยิ่งว่า วันหนึ่งเยาวชนคนรุ่นใหม่จะหันมาใช้รถสาธารณะกันมากขึ้น” คุณกุลพรภัสร์ ซีอีโอ TSB กล่าวทิ้งท้าย
ด้านนายวรวิทย์ ชาญชญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายปฏิบัติการและกลยุทธ์ บริษัท ไทย สมายล์ บัส เปิดเผยว่า ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2567 ยอดผู้โดยสารใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 350,000 คน จากปัจจัยของรถที่มีให้บริการมากขึ้นในหลายเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางรถเมล์โดยสารที่เปลี่ยนมาใช้เส้นทาง
ปฏิรูปกับผู้ประกอบการทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้น เมื่อเส้นทางเริ่มชัดเจนเห็นรถมากขึ้น ประชาสัมพันธ์มากขึ้น สอดคล้องกับตัวเลขจำนวนรถที่ให้บริการปัจจุบัน บริษัทมีค่าเฉลี่ยรถที่ให้บริการอยู่ราว 1,600 คัน ซึ่งในช่วงไตรมาส 4 ปลายปีนี้ บริษัทมีแผนการปรับเพิ่มรถที่ให้บริการขึ้นไปอยู่ในระดับ 2,000 คันต่อวัน เพื่อเพิ่มสัดส่วนผู้โดยสารภายในปีนี้ ให้อยู่ในระดับ 400,000 – 450,000 คนต่อวัน ครองส่วนแบ่งการตลาดราว 50% ของผู้ใช้รถเมล์ทั้งหมด
ทั้งนี้ ช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า 2568 นายวรวิทย์ อธิบายต่อว่า TSB มีแผนเพิ่มรถให้บริการเป็น 2,200 คัน ไม่รวมรถสำรองหมุนเวียนภายใน เพื่อขยับสู่เป้าหมายผู้โดยสาร 500,000 คนต่อวัน จากปัจจัยเส้นทางใหม่ที่ทางบริษัทยังไม่ได้เพิ่มรถเข้าไปอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น หากดูใบอนุญาตที่มีอยู่ในตอนนี้ 123 เส้นทาง ยังเห็นโอกาสการเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มเส้นทางปฏิรูปทั้งหมด ผู้ประกอบการทุกรายใช้มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งเราเชื่อว่ามีผู้โดยสารตกหล่นอยู่ ทั้งคนที่เคยรอรถหลายต่อ หาก TSB ให้บริการได้ครบลูป 100% เชื่อมต่อล้อ สู่ล้อ และทำให้เป็นโครงข่ายการต่อรถได้ เชื่อว่ายอดผู้โดยสารจะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน