งบประมาณ..เท่าไหร่อีกล่ะ? #สันต์สะตอแมน

สันต์ สะตอแมน

“เราต้องกล้าหาญไม่ยกมือไหว้คนโกงชาติ

ไม่ว่าจะเป็นใคร เป็นญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงสนิทกัน แต่ถ้าได้มาเพราะโกง ก็ไม่จำเป็นต้องยกมือไหว้

อยากให้ทุกคนไปสอนคนอื่นให้เกลียดคนโกง ทำอย่างไรก็ได้ ขอให้ทุกคนเกลียดคนโกง เพราะเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดที่มีในชาติบ้านเมือง”

นี่..หากดวงวิญญาณ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รับรู้ หรือมองลงมาจากสรวงสวรรค์ เห็นภาพวันที่สื่อจัดดินเนอร์ทอล์ก และเชิญนายทักษิณ ชินวัตร ร่วมแสดงวิสัยทัศน์

โดยมีบรรดานักการเมือง นักธุรกิจระดับชาติเบียดเสียดแย่งกันเข้าไปยกมือไหว้ “คนโกง” แทบจะกราบตัก ก็คงจะรู้สึกว่าที่ท่านพูดให้โอวาทไว้เมื่อครั้งกระโน้น..

สูญเปล่า..ไม่ได้ซึมซับ หรือฝังอยู่ภายใต้จิตสำนึกของบรรดานักการเมือง นักธุรกิจชั้นนำเลยแม้แต่น้อย!

ยิ่งไปกว่านั้น ที่พล.อ.เปรมได้กล่าวว่า.. “สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ การแก้ปัญหาทุจริตต้องใช้ความรวดเร็ว และรุนแรง ต้องทำคดีให้เร็ว ลงโทษรุนแรง

มิเช่นนั้นอันดับการทุจริตของประเทศจะอยู่แค่นี้ กฎหมายต้องทำด้วยความรวดเร็ว และรุนแรงให้คนกลัวว่า เป็นการกระทำที่จะต้องติดคุกนานๆ..”

ก็..ดูจะไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ เพราะนอกจากกฏหมายจะทำงานด้วยความล่าช้าและไม่รุนแรงแล้ว..

การติดคุก (คดีโกง) ก็แค่ประเดี๋ยวประด๋าว พูดตามประสาชาวบ้าน..ตดไม่ทันหายเหม็น คนโกง (พันล้าน-หมื่นล้าน) ก็ออกจากคุกเสียแล้ว!

และที่น่าเจ็บตับ คนโกงกลับได้สิทธิพิเศษเหนือนักโทษวิ่งราวทรัพย์ ตีหัวหมาด่าแม่เจ็ก อย่างนายทักษิณ (สารภาพตัวเองโกงจริง) ยังไม่ต้องนอนคุกสักนาทีเดียว!

ครับ..เห็นทีคงยากและเป็นไปไม่ได้ ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ นักการเมือง นักธุรกิจ-เจ้าสัวจะให้ในสิ่งที่พล.อ.เปรมเอ่ยปาก..

“ขอร้องบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง จะต้องยืดอกอย่างสง่าผ่าเผยแล้วพูดว่า ชาติไทยไม่โกง” แล้วล่ะ!

ก็ให้ทำใจเสียเถอะป๋า อย่าได้รับรู้ และมองลงมาเลยให้ช้ำใจเลย..ชาติบ้านเมืองจะต้องอับอายขายหน้า (เพราะคอร์รัปชัน) อยู่อย่างนี้แหละ..

ตราบที่นักการเมือง นักธุรกิจ-เจ้าสัว คนไทย ยังยึดถือคติ.. “โกงไม่เป็นไรขอให้แบ่งปันกัน”!

เออ..พูดถึงนายทักษิณ (ทั้งๆ ที่ไม่อยากพูดถึง) วานซืนเห็นข่าวลงพื้นที่พบปะประชาชนในสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.เทิง จ.เชียงราย

พร้อมเปิดเผยกับสื่อ.. “สำหรับปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งเป็นเรื่องซ้ำซากเพราะเกิดขึ้นซ้ำๆ เพราะไม่ได้มีการแก้ไขปัญหา

สมัยพรรคไทยรักไทยก็พยายามแก้ไขด้วยการนำเอาสินค้าเกษตรจากการพัฒนาระบบน้ำไปชำระหนี้ ซึ่งเจ้าหนี้ก็ยอมรับ

ซึ่งหากจะกลับมาเริ่มกันใหม่ในวันนี้ก็คงต้องใช้วิธีการตั้งงบประมาณ และคงใช้จำนวนมาก เพราะเป็นทั้งระบบและลุ่มแม่น้ำทั้งหมด..

สำหรับแม่น้ำโขงนั้นคงต้องคุยกันเรื่องระหว่างประเทศ เพราะจีนปล่อยน้ำลงมาเยอะ จึงต้องหารือว่าทำอย่างไรจึงจะปล่อยน้ำลงมาโดยไม่ให้ล้นตลิ่ง”

ไม่ได้เป็นนายกฯ แต่พูดราวกับตัวเองเป็นผู้นำประเทศ และที่ว่า “คงใช้ (งบประมาณ) จำนวนมาก เพราะเป็นทั้งระบบและลุ่มแม่น้ำทั้งหมด” น่ะ..

สักเท่าไหร่อีกล่ะ..หือ?

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
11 มีนาคม วันแรก ผู้ถือบัตรสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ต้องสแกนใบหน้า และใส่รหัส 6 หลักทุกครั้ง ที่ซื้อสินค้า เพื่อความโปร่งใส ป้องกันคนสวมสิทธิ
11 มีนาคม 2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เพื่อให้การรับชำระค่าสินค้าและบริการผ่านสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐจากแอปพลิเคชันถุงเงินเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและโปร่งใส รัฐบาล โดยกระทรวงการคลังได้กำหนดวิธีการรับชำระค่าสินค้าและบริการ ด้วยวิธีการสแกนใบหน้าควบคู่กับการใส่รหัสคู่บัตร (PIN...
Read More
0 replies on “งบประมาณ..เท่าไหร่อีกล่ะ? #สันต์สะตอแมน”