เปลว สีเงิน
เป็น “ความสำเร็จ” ของประชาปัตย์ ยุค “เฉลิมชัย ศรีอ่อน”
ที่ได้เข้าร่วม “รัฐบาลเพื่อไทย”
แต่เป็น “ชัยชนะ” ของทักษิณ ที่ได้กระทืบประชาธิปัตย์จมธรณี สางแค้นสะสมจากยุคชวนและยุคอภิสิทธิ์ได้อย่างสุนทร!
แต่ขณะเดียวกัน “โง่บัดซบ”
ที่ประกาศตัวเป็นศัตรูกับ “พลเอกประวิตร” และผลักไส “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” โดยถีบออกจาก “พรรคร่วมรัฐบาล”
ผมจะบอกให้เอาบุญ….
แต้มนี้ “ทอนอายุ” รัฐบาลลูกสาวตัวเอง นั่นไม่สำคัญเท่า
ตัวทักษิณเองนั่นแหละ “ดิสรัปต์” ตัวเองและตัวลูกสาวให้เข้าสู่ “วงแหวนแห่งไฟ” ทางกฎหมายและทางกฎแห่งกรรม ชนิดที่ต้องบอกว่า
หลับตาเห็นแล้ว โอ…มันช่าง “สยอดสยอง” นัก!
เตะหมาในคอกน่ะ…เตะได้
แต่เตะลุงป้อม เท่ากับ “เตะเม่น” เดี๋ยวก็รู้!
และการไม่ให้ราคา “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” จนท่านทรนงในศักดิ์ศรี ถอยออกจากการเป็น “พรรคร่วม” นั่นก็ด้วย
“สวรรค์” มีทางไปตั้งเยอะ…ไม่ไป ทางไปลงนรก แคบๆ เท่า “ช่องหมาลอด” ดันเลือกเดินไปทางนั้นซะนี่
อาจฉลาดในกล “โกงเอามาแบ่งปัน”
แต่ในกลเกมการเมือง ถ้าไม่โง่บรม ก็แสดงว่า “ชะตากรรม” เป็นม่านบังตา และกรรมนั้น เริ่มติดจรวดแล้ว!
สมัย “พลเอกชาติชาย” เป็นนายกฯ ตอนตั้งรัฐบาล มีคนถาม “ทำไมเอาพรรค ร.ต.อ.เฉลิม ที่มีแค่ ๓ เสียง มาร่วม”?
นายกฯ ชาติชายตอบชัดๆ ว่าไง ลืมไปแล้ว แต่จำความได้ว่า เอา “เฉลิม ดาวเทียม” มาเป็นพวก ดีกว่าให้ไปเป็นศัตรูในสภา ประมาณนั้น
นายกฯ อุ๊งอิ๊ง คงลืมไปแล้วกระมัง ว่าหลังจากพ่อออกจากโรงพยาบาลตำรวจ มาพักโทษที่บ้าน “จันทร์ส่องหล้า”
“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” นี่แหละให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ PPTV ช่อง ๓๖ บอกว่า ไปพบคุณพ่ออุ๊งอิ๊งที่ “โรงพยาบาลตำรวจ” ๒ ครั้ง
คือ เมื่อ พฤศจิกา.๖๖ และ ๓ กุมภา.๖๗!
ก็ทั้งหมอ ทั้งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยืนยัน คุณพ่ออาการขั้นสาหัส อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ทุกขณะ ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ใกล้ชิด ห้ามคนเข้าเยี่ยมเด็ดขาด มิใช่หรือ?!
นี่คือ หนึ่งกรรม ที่อาจ “ย้อนศร” เอาคุณพ่อกลับคืนคุกได้!
วันที่ ๑๑ พรรคร่วม นั่งเป็นแผง ร่วมแถลง ยินดีสนับสนุนคุณอุ๊งอิ๊งขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
พลังประชารัฐ “นายสันติ พร้อมพัฒน์” เลขาฯ พรรค และ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ก็ร่วมประกาศสัตยาบรรณวันนั้นด้วย
ตอนหุงข้าว ให้เขาช่วยติดเตา ผ่าฟืน แต่พอข้าวสุก ดันไม่ให้เขากินด้วย ไปเรียกคนพรรคอื่นมากิน
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะคิดยังไง…หือ ใจเขา-ใจเรา ลองคิดดู ท่านเสรีพิศุทธ์น่ะ แม้ท่านไม่แฉอะไรต่อ
แต่แค่เป็นพยานยืนยัน “อาการป่วยทิพย์” แค่นั้น ก็ฉิบหายยกล็อตแล้ว!
ทั้งหมอ ทั้งราชทัณฑ์ ทั้งตัวคุณพ่อคือทักษิณเองที่อ้างว่า “เอ็นเปื่อยยุ่ย”
ตานี้แหละ ไม่เปื่อยยุ่ยแค่เอ็น จะยุ่ยทั้งตัว จนต้องหามกลับเข้าไปนอนรักษาที่โรงบาลราชทัณฑ์ในคุกใหม่และอาจแถมด้วย “ข้อหาใหม่” อีกด้วย!
จำข้อความในหนังสือที่ยื่นทูลเกล้าฯ เพื่อขอรับพระราชทานอภัยโทษได้มั้ย ความตอนหนึ่ง ในหนังสือที่ยื่นทูลเกล้าฯ มีว่า
“………..ด้วยความเคารพในกระบวนการยุติธรรม ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิด จึงขอรับโทษตามคำพิพากษา
ขณะนี้อายุมาก มีปัญหาสุขภาพเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาพยาบาลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ”
นั่นน่ะ…..
ทูลเกล้าฯ ขอรับพระราชทานอภัยโทษ อ้างว่าเจ็บป่วย แต่สภาพ “ที่เห็น-ที่เป็น” ตอนออกจากโรงพยาบาล มันยืนยันอยู่ในตัวมันเองได้ว่า “ป่วยจริง” หรือ “ป่วยเท็จ”?
เนี่ย ผมกลัวว่า เรื่องมันจะ โก โซ บิ๊ก ยิ่งในหนังสือสารภาพ และสำนึกในความผิด
แต่ไปพูดที่ไหน-ต่อที่ไหน ก็ว่า “ผมถูกยัดข้อหา” สดๆ ร้อนๆ ขึ้นเวทีแสดงวิสั้นที่เนชั่นเขาจัด
ต่อหน้า “เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำไทย” แท้ๆ ทักษิณยังบอก “ถูกยัดข้อหา” แบบนี้ จะให้เขาเข้าใจระบบกฎหมายไทยและสถาบันว่าไง?
นี่…คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เขาส่งเรื่องให้ป.ป.ช.สอบประเด็น “ป่วยทิพย์” แล้ว
ฐานใช้สิทธิ์เหนือคนอื่น….รพ.ตำรวจ ราชทัณฑ์ ก็เลือกปฎิบัติ
ให้ระเห็จขึ้นไปนอนห้อง รอยัล สวีท ชั้น ๑๔ ของโรงพยาบาลตำรวจ รักษาด้วยสิทธิ “บัตรทอง”
“ป่วยทิพย์” ก็ช่วยกันปกปิดว่า “ป่วยใกล้ตาย”!
ทีนี้แหละ ทั้งหมอ ทั้งโรงพยาบาล ทั้งราชทัณฑ์ มีหลักฐานอะไรว่า “นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร” ป่วยรุนแรงขั้นสาหัส ตั้ง ๔ โรค ๕ โรค อาจตายได้ทุกขณะ
ต้องเอา “หลักฐาน” มาแสดง….
เอาเทปในกล้องวงจรปิดบนชั้น ๑๔ มาให้ดูด้วย ว่าการควบคุมตัวเป็นไปตามกฎระเบียบราชทัณฑ์มั้ย ไม่มีคนขึ้นไปเยี่ยมเลยตามอ้างจริงมั้ย?
จะได้ให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ช่วยยืนยัน!
เส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย อาการสาหัส รักษาครึ่งปีไม่หาย แต่พอได้รับ “พักโทษ” ออกจากโรงพยาบาลไปนอนบ้านเท่านั้นแหละ
เหมือน “ห่าคืนป่า-ปลาคืนน้ำ”
“หายวัน-หายคืน” จากทุกโรค ฟิตปั๋ง-แข็งปึ๋ง ยิ่งกว่าเฮอร์คิวลิสซะอีก!
ออกตรวจราชการงานเมือง ล่องเหนือ-ล่องใต้ จัดปาร์ตี้ ขึ้นเวทีโชว์วิสัยทัศน์ บัญชาการงานตั้งรัฐบาล
วานซืนไปเชียงราย น้ำท่วมมิดหลังคา
ทักษิณแสดงอภินิหาร เหยียบพื้นถนนปุ๊บ น้ำแหวกปั๊บ
เป็นช่องให้ทักษิณเดิน ท่ามกลางชาวบ้าน ที่หนีน้ำขึ้นไปยัดเยียดอยู่บนเรือ ๒ ข้างทาง ต่างพนมมือ ฮือฮา-ตาค้างในอภินิหาร “เทวดาเหนือคุก”
สมแล้ว ที่ชาวเหนือเขาบอกว่าทักษิณเป็น “พระเจ้ามูลเมือง” กลับชาติมาเกิด!
เรื่องข้อความในหนังสือ “ขอพระราชทานอภัยโทษ” นั้น ผมได้ยินบางทนายของทักษิณ….
หยิบยก “ข้อความ” ในหนังสือนั้น มา “พูดบิดเบือน” ให้ผิดไปจากข้อเท็จจริง ในทางสู้คดีมาตรา ๑๑๒ ที่ไปพูดที่เกาหลีใต้
วันหลัง ผมจะนำ “พระบรมราชโองการ” นั้น มาให้ดู และจะชี้ให้ดูว่า เขาหยิบข้อความตรงไหนไป “บิดเบือนพูด” ให้คนไม่รู้หลงเชื่อตาม!
นี่พูดเฉพาะที่สืบเนื่องจาก “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” เท่านั้น ยังไม่ได้พูดด้าน “บิ๊กป้อม” ที่เขาเรียกกันว่า “พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์” เลย
บิ๊กป้อม ไม่ใช่ “เต้าหู้ขาดไส้” ที่ใครอยากใช้ ก็จิกหัวมาใช้ หมดประโยชน์จะใช้ ก็ถีบหัว-ผลักไส ชนิดประจานกันกลางตลาดแบบนี้
ผมยังแปลกใจ ว่าคนอย่างทักษิณ ไม่ใช่คนโง่
แต่ด้วยแรง “อาฆาตแค้น-เอาคืน” ๓ ป.จะด้วยเข้าใจผิด-เข้าใจถูก อย่างไรก็ช่าง แต่แค้น-อาฆาตนั้น มันคือโมหะ…พาโง่
“พลังประชารัฐ” ของลุงป้อมนั้น สำหรับ “ทักษิณ-เพื่อไทย” เหมือนไม้ใหญ่ “ใบครึ้ม” ต้นหนึ่ง กลางแดด
ทักษิณเดินฝ่าแดดเปรี้ยง….
แทนที่จะรักษาไว้อาศัยร่มเงาบังแดด กลับโค่นให้เป็น “ฟืนเปียก” เพื่อหุงข้าว!?
เหอะ….
ฟืนก็ไม่ติดไฟ ข้าวไม่ได้กิน ถึงได้กิน ก็สุกๆ ดิบๆ ซ้ำแดดฝ่ากบาลเปรี้ยง!
รู้จัก “ป้อม-ใจบันดาลแรง” น้อยไปซะแล้ว ถ้าอ่านหน้าไพ่ได้แค่นี้ เล่นเผก็หมดตูด อาจถึงขั้นต้องขาย “จันทร์ส่องหล้า”
บอกไม่เชื่อ
ทักษิณ ว่าแน่ มีร่วม ๔๐๐ เสียง แต่เป็นรัฐบาลได้นานสุดแค่ ๕ ปี
แต่ ๓ ป.โดย “บิ๊กป้อม” พี่ใหญ่ เป็นรัฐบาลให้เด็กวานซืนมันดู เบาะๆ ๙ ปี แล้วนี่ เลี้ยงหมาเป็นคอก เป็นรัฐบาลได้แค่ ๙ เดือน ก็เจ๊งแล้ว
และรัฐบาล “ในครอบครอง” ที่กำลังจับผีลุก-ปลุกผีนั่ง ไม่เกินพฤษภา.๖๘ ก็จะเจ๊งอีก!
ไม่เจ๊งเฉยๆ แต่จะเจ๊งแบบ “เจ็บๆ” ทั้งพ่อ-ทั้งลูก ไม่เชื่อก็คอยดู
คงนึกว่าเจ๋งมากซีนะ ที่ทำให้พลังประชารัฐแตก แล้วเก็บ “ซีกธรรมนัส” มาเป็นตะกั่วตีนแห
ระวังเถอะ จะเข้าตำรา “เอาลูกเขามาเลี้ยง เอาเมี่ยงเขามาอม” รัฐบาลแพทองธารที่ “ลูกแทนพ่อ-พ่อแทนลูก-น้องแทนพี่” ในเก้าอี้รัฐมนตรีนั่นน่ะ
ครม.หน้าตาออกมาแบบนี้ เขาเรียกว่า
รัฐบาล “ทรพี-ทรพา”
อยากรู้เป็นไฉน ไปหา “รามเกียรติ์” ตอนศึก “ทรพี-ทรพา” ว่าด้วยเรื่อง “ควาย ๒ พ่อลูก” มาอ่านเอาเอง!
เปลว สีเงิน
๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๗
