การเมือง “คนหลังบ้าน” #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

การเมือง…..
ช่วง “ครึ่งปีหลัง” เป็น “การเมืองลอกคราบ” ผมว่า มันน่าจะเป็นแบบนั้น
“ก้าวไกล” ซู่ซ่า อยู่พัก

ตอน “สามนิ้ว” ปักหมุดคณะราษฎรที่สนามหลวง “ธนาธร-คนหลังบ้าน” น่าจะวิญญานกระดี่คางส้มเข้าสิง
ลิงโลด ประกาศ “เปิดประตูบานแรก” สำเร็จแล้ว เมื่อปี ๖๓

แต่ตอนนี้ คณะพรรค ออกอาการลิงหลับ “๗ สิงหา” กลัวถูกยุบพรรค เพราะตอนหาเสียง ดันซ่า…เล่นของสูง ประกาศจะยกเลิกมาตรา ๑๑๒

นี่คือชนวนนำไปสู่การเปลี่ยนตัว “คนหน้าบ้าน” ของคณะส้มในทางการเมือง!

“เพื่อไทย” ขั้วใหญ่สีแดง “ฝ่ายรัฐบาล” เป็นอีกพรรคที่หนีการเปลี่ยนตัว “คนหน้าบ้าน” ไปได้ยาก
หาเสียงด้วย “คำใหญ่-คำโต” ชนิดไม่แคร์ “คำพังเพย”

ปลาหมอ ในน้ำ ตายเพราะคางดำ ปลาหมอ บนบก ตายเพราะปาก

“ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ค่าแก้ส ลดทันที”… “ใครมีรายได้ไม่ถึง ๒ หมื่น/เดือน จะเติมให้ครบ ๒ หมื่นทุกคน ทุกเดือน” …ปิดสวิตช์ ๓ ป.ทุกคนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีกิน มีใช้ไปด้วยกันทุกคน”

“แจกทันที อายุ ๑๖ ปี ขึ้นไป….
แจกทุกคน คนละ ๑๐,๐๐๐ บาท ๕๖๐,๐๐๐ ล้านบาท ไม่ต้องกู้”

เป็นรัฐบาลปุ๊บ ที่บอกจะเติมให้ครบ ๒ หมื่น/เดือนทุกคน ก็เติมเหมือนกัน แต่เติมตัวเลข “ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ค่าแก้ส” ให้ทุกคน

ที่บอกมีกิน ก็กลายเป็นไม่มีจะแดก ที่บอกมีใช้ ก็กลายเป็นจะตายด้วยหนี้รัดคอกันทั้งแผ่นดิน

ที่บอกมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ก็มีจริงซะด้วย ทั้งรัฐมนตรี ทั้งข้าราชการ ต้องไปยืนกุมไข่-กราบตีน โจรปล้นแผ่นดิน

ที่บอก ๕๖๐,๐๐๐ ล้าน ไม่กู้ ก็ต้องกู้ เป็นหนี้สาธารณะให้ชาวบ้านใช้หนี้แทน ที่บอกแจกทันทีคนละ ๑ หมื่น นี่ก็จะครบปี มีแต่ลมตด

คุยโม้ เพื่อไทยคิดใหญ่-ทำเป็น
“คิดใหญ่” คือ คิดขายคอนโดฯ กับแผ่นดิน ๙๙ ปี “ทำเป็น” คือเล่นแร่แปรธาตุเงิน ๕,๐๐๐ ล้านบาท ไปกับงานตุ๊กตาเสียกบาล ที่เรียก “ซอฟต์ พาวเวอร์”

“เศรษฐกิจจะปัง” ปังนั้น คือเสียงปิดฝาโลงชาวบ้าน เพราะของแพงทั้งแผ่นดิน เศรษฐกิจประเทศ “กำลังพัง”!

และ ๑๔ สิงหา. “ศาลรัฐธรรมนูญ” นัดฟังคำวินิจฉัย ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐาจะสิ้นสุดลงหรือไม่?

กรณี ตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ซึ่งขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เป็นรัฐมนตรี
นี่ก็จะนำไปสู่การเปลี่ยนตัว “คนหน้าบ้าน” ในทางการเมือง ทีมีความน่าจะเป็นสูง

สรุปแล้ว……..
การเมืองทุกวันนี้ แต่ละพรรค จะขับเคลื่อนด้วย “คนหลังบ้าน” เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ ๒ พรรคแกน

คือพรรคเพื่อไทย “แกนรัฐบาล” พรรคก้าวไกล “แกนฝ่ายค้าน” คนหน้าบ้าน ทั้ง “เศรษฐา-ทั้งพิธา” เคลื่อนไหวอยู่ภายใต้กลไก “คนหลังบ้าน” โดยตรง!

เมื่อหน้าบ้านของ “๒ พรรคแกน” ชะตากรรมน่าจะไม่ต่างกัน แต่ละพรรค มีปฎิกริยาตอบรับการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?
ค่อยๆ ตามดูกันไปนะ

พรรคแรก คือ “ก้าวไกล” ในขณะที่ทุกคนปากก็ว่า “ไม่ผิด-ไม่ยุบ” ๗ สิงหา.จะได้ไปต่อ
แต่ขณะเดียวกัน มีการวางตัว “หัวหน้าพรรค” คนใหม่ไว้แล้ว

จะเป็นใครอื่นไปมิได้……..
นอกจาก “สาวไหม-ศิริกัญญา ตันสกุล” หนึ่งเดียวคนนี้!

ผมเอง ๕ นิ้วครบ ชอบกินส้ม แต่เป็นส้มตำ ไม่นิยมส้มสามสัส แต่ก็เห็นด้วย และโหวตสนับสนุนศิริกัญญา ๑ เสียง

เมื่อวาน (๒๙ กค.๖๗) นักข่าวเกริ่นนำร่องกับสาวไหม
“หากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ต้องสู้กับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็จะเป็นการต่อสู้กันด้วยพลังหญิง”

“สาวไหม” ยิ้มหวาน ก่อนเดินตามร่องที่นักข่าวขุด
“ถ้าท้ายที่สุด พรรคตัดสินใจเสนอชื่อดิฉัน และมีสมาชิกพร้อมจะเลือก การที่ วันนี้ ประเทศไทย มีผู้นำพรรคการเมืองเป็นผู้หญิงมากขึ้น คิดว่าน่าจะเป็นมิติใหม่ที่ดี

นอกจากเป็นตัวแทนประชาชนทุกฝั่ง ทุกเพศ ทุกวัย เราก็จะยิ่งมีมุมมองใหม่ๆต่อการเมือง ที่อาจแตกต่างจากที่ผ่านมา ที่ผู้นำทางการเมืองเป็นผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ เราคิดว่า จะสร้างมิติใหม่ให้กับการเมืองไทยได้”

“ไม่ติดใช่หรือไม่ ถ้ามีคนเสนอชื่อ?” นักข่าวยิงตรง
และนี่คือ คำตอบของว่าที่ “หัวหน้าพรรคส้ม” คนต่อจากพิธาที่ชื่อ “ศิริกัญญา” เธอแจกยิ้ม พลางแย้มโอษฐ์
“ค่ะ แล้วแต่ทางพรรค”!

นี่เท่ากับคอนเฟิร์มไปชั้นแล้วว่า คณะพรรคก้าวไกล รู้อนาคต “พิธา-พรรคก้าวไกล” ไปแน่

ธนาธร “คนหลังบ้าน” จึงวางตัว “สาวไหม” เป็นผู้นำส้ม-สามนิ้ว “รุ่นที่ ๓” เป็นที่รับรู้และรับได้กันหมดทั้งพรรค
“คนหน้าบ้าน” มีตัวแล้ว

แล้ว “พรรคล่ะ มีเตรียมไว้หรือยัง”? เมื่อถามตรง เธอตอบตรง

“ก็มีการเตรียมไว้บางส่วน เราก็ไม่อยากให้กลายเป็นลางที่ไม่ดี แต่เราก็มีการเตรียมไว้แล้ว ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจริง ก็พร้อมที่จะไปอยู่ “บ้านหลังใหม่” ด้วยกัน”

จาก ๒ คำตอบ
๑.ศิริกัญญา ยอมรับ ได้รับการวางตัวเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไปแล้ว และ
๒.เตรียม “บ้านหลังใหม่” คือพรรคไว้รองรับเหตุการณ์ยุบพรรคแล้ว

ก็ ซ.ต.พ.ได้ ว่าพรรคก้าวไกล ที่มีระดับ “ผู้นำวิญญาน ๓ นิ้ว” ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายรัฐธรรมนูญไทยและฝรั่งเศส เป็นกุนซือ

ที่พรรคมีวันนี้ เพราะจงใจทำให้มี ไปสู่การยุบพรรค
เพราะการยุบ เขามั่นใจ ว่านั่นคือวิธีการ “สร้างพรรค-สร้างชื่อ” ตามทฤษฎี “ยิ่งยุบ-ยิ่งโต”

เลือกตั้งคราวนี้ ยังได้สส.ตั้ง ๑๕๐ คน
เมื่อยุบ คราวหน้า คนต้องเลือกพรรคส้มเกินกว่า ๒๕๐ คน ตั้งรัฐบาล “พรรคเดียว” ได้เลย!

นี่คือ “สูตรสำเร็จ” ที่คนหลังบ้าน-หน้าบ้านก้าวไกลตกผลึกแล้ว เพราะเขาเชื่อ ยิ่งเพื่อไทย โตรอตาย แบบนี้ด้วยแล้ว

เลือกตั้งครั้งหน้า คนจะเฮละโลมา “ลองของใหม่” เพราะเพื่อไทย “ดีแต่โม้”

ว่ากันตามลักษณะสังคมไทย แนวคิดนี้ก็ “เป็นไปได้”
“กบเลือกนาย” ของคุณปู่ “อีสป” เป็นตัวยืนยัน!

พูดแล้ว อยากให้พรุ่งนี้เป็นวันที่ ๗ สิงหา.ซะเลย ไม่ใช่อะไร อยากเห็นพรรคใหม่ ที่มี “ศิริกัญญา” เป็นหัวหน้าพรรค

อุ้งอิ๊ง-แพทองธาร เป็นแม่ทัพเพื่อไทย ไหม-ศิริกัญญา เป็นแม่ทัพพรรคส้ม

แล้ว ๒ แม่ทัพหญิง “ชนช้าง” กัน ในสนามเลือกตั้ง นอกจาก “แห้ว” แล้ว ยังจะมีอะไรมันไปกว่านี้อีกล่ะ!?

นี่คือ ความเคลื่อนไหว “ครึ่งปีหลัง” ของพรรคก้าวไกล ที่ “คนหลังบ้าน” เชิดศิริกัญญาขึ้นมาอยู่ในบท “คนหน้าบ้าน”

แล้วเพื่อไทยล่ะ?
“ครึ่งปีหลัง” วางกลเกมรับการเมืองที่กำลังเปลี่ยนโฉมยังไง?

ดูเหมือนทุกสำนัก “ไม่ให้น้ำหนัก” เศรษฐาเลย แต่ขณะเดียวกัน “อุ๊งอิ๊ง” หัวหน้าพรรค แม้ “น้ำหนักได้” เพราะอิ่มหมีพีมัน
แต่ฝีมือ “ยังไม่ได้”!

ทักษิณผู้พ่อในความเป็น “คนหลังบ้าน” ก็ต้องเปิดหน้าตัวเองเป็น “คนหน้าบ้าน” กรายๆ

ประกาศไปแล้ว ๒๒ สิงหา.พ้นจากความเป็น “นักโทษเทวดา” หลานไม่เลี้ยงแล้ว ต้องการเชิดหุ่นการเมืองออกหน้าฉาก เอากันด้านๆ อย่างนั้นเลย

เดินสาย กวาดต้อน “บ้านใหญ่” ตามจังหวัดต่างๆ วันเกิด ๒๖ กรกฎา.ก็เปิด “จันทร์ส่องหล้า” แสดงบารมีให้เห็นกันจะจะไปเลย

ทั้งครม.ใหม่-เก่า พ่อค้า-นายทุน ทั้งทาสที่ไม่เลี้ยงแล้ว แต่ไม่มีที่ไป ทั้งเก่า-ทั้งใหม่ ต่างคลานมาพันมือ-พันตีน กันคึกคัก หนักประเทศ

ประกาศ ปีนี้ ๗๕ แต่จะอยู่อีก ๔๐ ปี!?

อยู่ทำไม ก็อยู่เป็นคนหลังบ้าน แต่คอยบัญชาอยู่หน้าบ้าน เพราะขืนปล่อยลูกสาวคนเดียว เจอฉลามชื่อเฉลิมเข้าคนเดียว ก็เสียวแล้ว

สรุป…เพื่อไทย จากที่ทักษิณต้องลงมาเป่าตูดแบบนี้
แสดงว่า “ขาลง” ชัดเจน!

เมื่อพูดถึง “คนหลังบ้าน” ที่ชื่อทักษิณ ขยับตาเดิน

ถ้าไม่พูดถึง “คนหลังบ้าน” อีกคนที่ชื่อ “เนวิน” การเมืองครึ่งปีหลัง ใน “เส้นทางสายเปลี่ยน” จะไร้ความหมาย!

ทักษิณขยับ เนวินก็ขยับ แต่ขยับในทาง “ตรงกันข้าม”
ทักษิณขยับการเมือง เพื่อครองอำนาจบ้านเมือง

แต่เนวินขยับการบ้าน เพื่ออภิบาล “องค์พระภูมินทร์” เปิด “สนามช้างอารีน่า” ที่บุรีรัมย์ จัดพิธีถวายพระพร เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๗๒ พรรษา
“พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” เหลืองสะพรั่งอร่ามเมือง

นายเนวินสวมสีน้ำเงิน ปักสัญลักษณ์ ‘ฅนบุรีรัมย์’ ที่หน้าอก นักข่าวไปถาม ทำไมใช้ ฅ. นายเนวินตอบว่า

“เป็นเสื้อที่ลูกสาวออกแบบ คำว่า “ฅนบุรีรัมย์” เป็นสัญลักษณ์ของคนเมืองนี้

ที่เราใช้คำว่า ฅ.เพราะเราเป็นฅน

หากเราใช้ ค.เราก็เป็นควาย และทำให้บ้านเมืองนั้นวุ่นวาย”

“ทำไมเสื้อจึงเป็นสีน้ำเงิน มีนัยอะไรหรือไม่?”
“สีน้ำเงินนั้น มาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว”

นี่คือคำตอบของ “ฅน” ชื่อ “เนวิน ชิดชอบ”!

เปลว สีเงิน
๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๗

 

Written By
More from plew
๒๐ มหาเศรษฐี (ไม่) มีทักษิณ?
ว่าจะทอดสันหลังยาวแล้วไปคุยกันวันจันทร์ตามปกติ แต่แหม….. เห็นเสียงถากถาง “จดหมายเปิดผนึก” ของนายกฯ ที่จะทำไปถึง ๒๐ มหาเศรษฐีไทยดังขรม ว่า “รัฐบาลขอทาน”! หมดตูด-บ้อท่า ก็ร่อนกะลาขอเงินเศรษฐี...
Read More
0 replies on “การเมือง “คนหลังบ้าน” #เปลวสีเงิน”