16 มิถุนายน 2567 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าตรวจเยี่ยม บริษัท พี.เค.มารีนเทรดดิ้ง จำกัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ให้บริการคลังรับฝากน้ำมันปาล์มและท่าเทียบเรือส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ของประเทศ และได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า
“รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัยได้มอบหมายให้ตนลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ซึ่งการมาลงพื้นที่จังหวัดชุมพรและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในครั้งนี้ อันดับแรกผมได้รับรายงานจากสมาชิกสภาผู้แทนจังหวัดชุมพรและสุราษฎร์ธานี ที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเกษตรกร ที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องราคาปาล์มตกต่ำ ในช่วง 3-4 อาทิตย์ที่ผ่านมา
พอได้รับเรื่องผมก็ให้อธิบดีกรมการค้าภายในจัดทีมลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องราคาตกต่ำว่าเหตุเพราะอะไร และประสานผู้รับซื้อ โรงสกัด และที่เกี่ยวข้องต่างๆ ทำให้ตอนนี้ราคาปาล์มปรับขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 5 บาท ทางผมเองลงมาเพื่อติดตามผลลัพธ์จากที่กรมการค้าภายในได้ลงพื้นที่ ผลลัพธ์คือ เกษตรกรได้เข้าใจความจริงถึงสาเหตุ ทางกรมก็ได้แนะนำในเรื่องการจัดทำปาล์มคุณภาพ ทำให้ผลผลิตปาล์มที่เข้าสู่โรงงานดี โรงงานอยู่ได้ เกษตรกรอยู่ได้”
“สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ อนาคตคนปลูกปาล์มจะเป็นอย่างไร ต้องถามผู้ส่งออกกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งวันนี้ผมได้นำ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ มารับฟังปัญหาและหาวิธีแก้ไข โดยกรมเจรจาฯ มีหน้าที่ไปเจรจา เพื่อเปิดตลาดในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศจีนและประเทศอินเดียเพื่อเพิ่มปริมาณการรับซื้อตลาดน้ำมันปาล์ม ซึ่งถ้าเราเพิ่มตลาดส่งออกได้ เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มซึ่งเป็นต้นน้ำก็ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาปาล์มจะตกต่ำอีก”
นายสุชาติฯ ยังย้ำว่า “ขณะนี้สถานการณ์การส่งออกน้ำมันปาล์มสดใส ยังมีความต้องการปริมาณน้ำมันปาล์มทั่วโลก และอินเดียเป็นตลาดรองรับขนาดใหญ่ ซึ่งผมดำเนินการตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ท่านภูมิธรรม เวชยชัย ในการมุ่งเป้าตลาดใหญ่ของตลาดอินเดียโดยรวมหน่วยงานทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกให้มาโฟกัสที่ตลาดอินเดียด้วย เราอยากพึ่งพาพึ่งพิงประเทศที่เป็นตลาดใหญ่ทุกประเทศเพื่อรองรับให้ราคาปาล์มเพิ่มสูงขึ้น”
นอกจากนี้ ทางกระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในที่ลงพื้นที่มาตรวจจากที่เห็นภาพทั้งหมด ทำให้เข้าใจเกษตรกรในเรื่องการเก็บเกี่ยว ทึ่อาจจะมีการเก็บผลผลิตที่ไม่สุกเมื่อถึงโรงงานสกัดอาจจะทำให้ราคาปาล์มตก เนื่องจากคุณภาพ ทางกรมการค้าภายในจึงจัดให้มีการอบรมเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มให้ทราบวิธีการเก็บเกี่ยวอย่างไรเพื่อให้ผลผลิตปาล์มมีคุณภาพเพื่อนำไปขายให้กับโรงสกัดเพื่อจะทำให้ราคาดี
จึงขอฝากฝากเกษตรกรให้เรียนรู้และทำความเข้าใจ เกี่ยวกับการทำตามคุณภาพและทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภาคใต้ทุกท่านก็คอยดูแลสินค้าปาล์มน้ำมันโดยกระทรวงพาณิชย์ก็ได้ติดตามสถานการณ์ปัญหาและมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรดังกล่าว
ทั้งนี้ ปริมาณการส่งออกน้ำมันปาล์ม พบว่า ณ เดือนพฤษภาคม 2567 ปริมาณการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบภาพรวม อยู่ที่ประมาณ 0.12 ล้านตัน และปรับเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย โดยปัจจัยบวกที่สำคัญคือ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการแข็งขันกับ ประเทศเพื่อนบ้าน โดยปัจจุบันผู้นำเข้านำ้มันปาล์มดิบที่สำคัญของไทย ได้แก่ อินเดีย