ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการ AOC รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 3 ราย เสียหายนับล้าน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 3 ราย

1. นายปรินทรฯ อายุ 19 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าอพาร์ทเม้นท์ ในซอยลาดพร้าววังหิน 67 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร

2.นายสุไลมานฯ อายุ 43 ปี ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
สถานที่จับกุม ท่าจอดเรือ ท่าจีนยูเนี่ยน พอร์ต อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร

3. น.ส.กนกกาญจน์ฯ อายุ 49 ปี ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
สถานที่จับกุม หน้าศูนย์กระจายสินค้า พื้นที่ ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

สืบเนื่องจาก ตามปฏิบัติการ Anti Online Scam (AOC) ได้มีการดำเนินการตามนโยบายของศูนย์ AOC จับกุมผู้ต้องหาที่มีพฤติการณ์เกี่ยวกับแก็งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 3 ราย ดังต่อไปนี้

1. นายปรินทรฯ มีการหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินมายังบัญชีของผู้ต้องหาเป็นเงินจำนวนเกือบ 1 ล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การเบื้องต้นว่าได้มีการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารจริง โดยได้รับการว่าจ้างจากคนรู้จักเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว เมื่อตอนที่ยังเป็นเยาวชนอยู่ โดยได้รับค่าจ้าง 1,000 บาท

2. นายสุไลมานฯ ได้มีการหลอกลงทุนหารายได้เสริม มูลค่าความเสียหายรวมกันประมาณ 6 แสนบาท ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การเบื้องต้นว่า ได้ให้บัญชีธนาคารกับคนรู้จักในหมู่บ้านไปใช้ โดยไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใดโดยหลังจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติม พบว่า เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

3. น.ส.กนกกาญจน์ฯ โดยมีผู้เสียหายได้มาร้องทุกข์ว่ามีเพื่อนของผู้เสียหายขอยืมเงินโดยใช้บัญชีธนาคารของผู้ต้องหาในการรับเงิน ต่อมาเพื่อนของผู้เสียหายได้แจ้งว่าถูกมิจฉาชีพสวมรอยยืมเงินผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าบัญชีธนาคาร เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่ามีเงินเข้าและออกในบัญชีธนาคารของตนผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารโดยผู้ต้องหาไม่ได้เป็นผู้ใช้งาน ผู้ต้องหาจึงได้แจ้งยกเลิกแอปพลิเคชันธนาคารดังกล่าว ต่อมาเมื่อมีหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมายังผู้ต้องหาจำนวน 2 หมาย ผู้ต้องหาก็ไม่ได้ดำเนินการตามหมายเรียกดังกล่าวแต่อย่างใด จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดำเนินการจับกุม

ผลปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. และ ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล สว. กก.3 บก.ปอศ., ร.ต.อ.ศิการ ไม้คู่ รอง สว.(ป.) กก.3 บก.ปอศ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ.

Written By
More from pp
“คิง เพาเวอร์” เปิดร้านค้าใหม่ พร้อมต้อนรับลูกค้านักเดินทางจากทุกมุมโลก ณ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เร่งเครื่องกลุ่มธุรกิจรีเทลเพื่อการท่องเที่ยวเติบโตรับไฮซีซั่น
กลุ่มบริษัท “คิง เพาเวอร์” ผู้นำธุรกิจค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยวครบวงจร ขานรับท่องเที่ยวไทย เปิด คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี และคิง เพาเวอร์ แท็กฟรี...
Read More
0 replies on “ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการ AOC รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 3 ราย เสียหายนับล้าน”