เปลว สีเงิน
นับตั้งแต่ “นักโทษเทวดา” กลับเข้ามานี่ บ้านเมืองนับวันแต่มีเหตุ “อาเพศ-วิปริต”
มีรัฐบาล ชาวบ้านก็ถามกันว่า “เมื่อไหร่จะไป”?
มีนายกฯ ก็เหมือนตัวตลก “ลิงตีฉาบ” ไขลาน
ทำอะไรไม่เป็นโล้-เป็นพาย วันๆ คิดแต่จะเอาเงินชาติ ๕ แสนล้านไป “เล่นแร่-แปรธาตุ” แจกแบบมีเงื่อนงำ
ไม่ได้อย่างใจ ลูกสาวเทวดา “หัวหน้าพรรค” ก็อ่านโพยด่า “ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ” เป็นอุปสรรคต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ฝ่ายตัวพ่อ “นักโทษรันอินคุก” ก็วางตนประหนึ่ง “เจ้าของประเทศ” ออกตรวจเมือง +หาแสง
ข้าราชการน้อย-ใหญ่ ผู้สยบยอมอำนาจโจรเพื่ออยู่รอด พากันมายืนกุมไข่ รายงานนักโทษที่เคารพ!
พองในประเทศไม่พอ
จ้านจุ้นเข้าไปในปัญหาพม่า ทั้งมีเจรจาลับทั้งกับผู้นำเขมรและมาเลย์ฯ
เรื่องในวงแขน ทำแทนกันไม่ได้ก็จริง
แต่เรื่องพลังงานใน “อ่าวไทย-ในพม่า” มันเป็นเรื่อง “นอกวงแขน” พอจะทำแทน “มาเฟียพลังงาน” ในด้านประโยชน์ร่วมกัน นั่นพอได้!
รัฐบาล “ปรับใหม่” ดูหน้าคนที่จับยัดเข้ามา ใครจะเถียงบ้างละว่า ไม่ใช่ “นักโทษ” สั่งมาเป็น?
ทั้งมือทำขนมถุง
ทั้งมือทำหุ้น
ทั้งมือทำพาสปอร์ต (แดง)
ทั้งมือตัดช่อง-ย่องเบางบประมาณ
บ้านเมืองจึงส่งสัญญานอาเพศ ด้วยสาร “สารพัดพิษ-สารพัดภัย” สร้างวิบัติวอดวายให้ชาติ-ประชาชน
ฝุ่น PM 2.5 ไม่ทันคลาย
แคดเมียม “สารตัวร้าย” ก็ผุดล้อมเมือง ทำพิธีย้าย ขลังนัก “โซ่ยกถุงขาด” สารร้ายตอนนี้ ไม่มีใครบอกได้ ยังอยู่หรือไปไหนแล้ว?
ครม.ใหม่ประกาศออกมา…
แทนที่จะแฮปปี้ กระดี้-กระด้า แต่พอเห็นหน้า “น้ำขุ่น-สวมปลอกคอเข้ามา”
บรรดา “น้ำใส-ต่างทะยอยลาออก”!
เพราะรู้ได้ “หัวหน้าคอก” วางแผนปฎิบัติการในเกมผ่านตัว “ผู้เล่นใหม่” ที่ถูกส่งลงสนาม
๘ เดือน “ครึ่งแรก” ทำประตู ๕ แสนล้าน ยังไม่ได้
“ครึ่งหลัง” ด้วยเล่ห์ตามใบสั่ง ต้องเอาให้ได้ ถ้าไม่ได้ ก็ต้องเอาด้วยกลให้จงได้
เพราะงาน “งาบประเทศ” ยังรออยู่อีกหลายงาน
“การเมือง” ต้องแข่งเวลา
จะอ้อยอิ่ง ชะล่าใจ ไม่ได้ ปุบ-ปับ อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ กับการเมืองไทย “แบบไทยๆ”
ทั้งเรื่องพลังงานในอ่าวไทย เรื่องคอมเพลกซ์กาสิโน เรื่องแก้ผังเมืองเพื่อตลาดอสังหาฯ
มันเงินทั้งน้าาาาน เรื่องมันต้องรีบ!
“สำนักงานสลากกินแบ่ง” ที่เรียกกันว่า “กองสลาก” นั่นคือ “กองเงิน-กองทอง” มันมีช่องให้เฉาะ
เคยส่งมือเข้าไปเฉาะจนฉ่ำมาแล้วด้วยซ้ำ
น้ำขึ้น ก็ต้องรีบตัก
ฉะนั้น “คนอื่นอย่าแหยม” มันต้องคนของข้า เท่านั้น
ไม่เชื่อก็…คอยดู!
เมื่อตัวใหม่ถูกส่งลงมา มันก็ต้องเตะให้เข้าตา เข้าผลประโยชน์นาย ถ้าไม่อยากถูกเปลี่ยนตัว
ก็ดูที่คลังซิ
อะไรกันนักหนา กระทรวงเดียวไปสุมกันอยู่ ๑ รัฐมนตรี ๓ ช่วย!
แบ่งงานปุ๊บ ก็รู้ปั๊บ ว่าแผน “สับขาหลอก” ของเจ้าของคอก เขาต้องการยังไง
“กฤษฎา-ช่วยเดิม” จะอยู่ได้ยังไง ขอบายดีกว่า!
“เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว” ฉันใด
เรื่องนี้ จะบอกว่าไม่สะเทือนถึงพรรครวมไทยสร้างชาติก็คงไม่ได้ ฉันนั้น
เพราะรัฐมนตรีพลังงาน “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่กำลังรื้อโครงสร้างพลังงานขะมักเขม้น คือหัวหน้าพรรค
เมื่อ “รมช.กฤษฎา” ที่เคยคุมหน่วยงานสัมพันธ์กับผลได้ผลเสียจากพลังงาน ถูกยึดคืนไป
นั่นเท่ากับเป็นสัญญานถึงรัฐมนตรีพีระพันธุ์ การปรับโครงสร้างนั้นว่า “มันสะเทือนผลประโยชน์ข้า” ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใคร
“กฤษฎา” ไป……
แล้วทำไม “สุพัฒนพงษ์” จึงต้องลาออกจากสมาชิกพรรคในวันเดียวกันด้วย เพราะเหตุใด?
ก็ต้องยกความฉงนฉงายนั้นให้เป็นเรื่องของ “ปาฎิหาริย์อำนาจเทวดาเหนือนายทุน” เท่านั้นเอง
บ้านเมืองมันจึงดูอลเวง “มึนตึ๊บ” กันไปหมดว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลไทย หรือเป็น “รัฐบาลของใคร” กันแน่?!
แล้ว “ข้าวทิพย์ ๑๐ ปี” คนกินได้-ให้หมากินดี ก็เป็นปรากฎการณ์ข้าวไทย จากรัฐบาล “เศรษฐา-เพื่อไทย” ระบึง-ระบือทั้งในตลาดไทยและตลาดโลก
ท่ามกลางสารพัดเสียงค้าน ว่าเก็บนาน ผ่านการรมยามาเป็น ๑๐ ปี มันเกิดสารก่อมะเร็ง ไม่ควรขายให้คนกินแม้กระทั่งสัตว์
แต่รัฐมนตรีภูมิธรรม “ร่างทรงเจ้าของคอก” บอกกินได้ และกินโชว์แบบตักกับคลุมข้าวแล้วตีโป่งใส่ปากให้เห็นเป็นการันตี
ว่า “กินได้วันนี้-ตายผ่อนส่งวันหน้า”
แถมคุยสรรพคุณข้าว ๑๐ ปีซะด้วย ว่า มิถุนา. “เดือนหน้า” เปิดประมูลแน่
“๑๕๐,๐๐๐ กระสอบแค่นี้ ไม่พอส่งไปขายตลาดแอฟริกาด้วยซ้ำ”!
ด้วย “อภินิหาริย์รัฐบาลในคอก”
“สุทิน-รัฐมนตรีกลาโหม” ประกาศเปรี้ยง เสียงฟ้าฟาด “จะซื้อข้าวทิพย์ ๑๐ ปี “ทักษิณคิด-ยิ่งลักษณ์ทำ” ไปให้ทหารในกองทัพกิน”
สาาาาธุ!
กินแล้ว ไอ้เณรคงมีแรงขยี้ผ้าคุณนายเพิ่มเป็นสิบๆ กาละมังละทีนี้
รัฐมนตรีภูมิธรรมบอก “จะนำไปหุงให้ครม.รวมทั้งนายกฯ เศรษฐากินด้วย”
ถ้าไม่จริง แช่งให้พี่อ้วน กลายเป็นพี่ผอม เหมือนตอนนั้นนะ!
บ้านเมืองในภาวะ “ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก” แทบจะรายวัน
เมื่อวาน “ถังแก๊สโซลีน” บริษัท มาบตาพุดแท็งค์ เทอร์มินอล ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยอง เกิดระเบิด
ครั้งเดียวไม่มี มีครั้ง ๒ ครั้ง ๓ ตูมตาม..ตูมตาม แสงไฟแดงฉาน ควันพิษด้วยสารก่อมะเร็งและสารพัดโรค
ทะมึนเป็นมวลมหึมามิดฟ้า…น่ากลัว!
ต้องประกาศ “ภาวะฉุกเฉิน” เพราะคุมเพลิงไม่ได้ ทีท่าลามไปหาเหยื่อลุกไหม้ต่อ
ชาวบ้านไม่เพียงตรงนั้น แทบทั้งระยองและใกล้เคียง ปานอยู่ท่ามกลางนรกสารเคมีซ้ำๆ ซ้อนๆ
จากแคดเมียม ยังผงาบๆ ซ้ำอีกวันนี้ ด้วยแก๊สโซลีน
แล้วพรุ่งนี้..ปะรืนนี้
ด้วยบริหารจาก “รัฐบาลใต้อำนาจเทวดาเหนือคุก” จะเกิดอาเพศแห่งปาฏิหาริย์อะไร-แบบไหนขึ้นอีกกับประเทศไทย?
ผู้ “เลือกเศรษฐา-เพื่อไทยหวังได้เป็นเศรษฐี” ช่วยตอบข้าฯ ด้วยเถิด!!!!
“ในนามหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขอยืนยันว่า เราตัดสินใจถูกต้องมากที่จัดตั้งรัฐบาลผสมเมื่อ ๑๐ เดือนที่แล้ว …….
……เรามีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบอยู่ในมือ ซึ่งกำลังลงมือทำ เราทำได้อย่างแน่นอน
ในขณะที่นโยบายกำลังเดินไปข้างหน้า พรรคเพื่อไทยก็กำลังพัฒนาไม่หยุดยั้ง เพื่ออนาคตของประเทศไทย
รัฐบาลเพิ่งปรับ ครม.ซึ่งมีเสียงจากนักวิชาการหลายท่านที่น่าเชื่อถือได้ให้คำยืนยันว่า “ถูกฝา-ถูกตัว” มากที่สุด ทุกอย่างกำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้า ไม่มีทางเลยที่เราจะแย่กว่าเดิม
เรารู้ว่า การทำงานให้บ้านเมืองนั้น เป็นงานที่ Thank Less and End Less ต้องทุ่มเทไม่มีวันสิ้นสุด
แต่เราเต็มใจที่จะทำ เพราะเราเป็นพรรคการเมืองแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อความเจริญของประเทศ”
นี่คือ ประกาศิต “๑๐ เดือนที่ไม่รอ ไปต่อให้เต็ม ๑๐” จาก “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร” ลูกเทวดา
ผู้ดำรงสถานะประมุขพรรคเพื่อไทย ประกาศไว้ ณ ๓ พฤษภา.๖๗
Thank Less and End Less เกิดขึ้นแล้ว ณ บัดนี้
ด้วย Tank Terminal
ระเบิดไฟลุกท่วมมหาวินาศสันตะโร
“เพราะเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อความเจริญของประเทศ” ไงล่ะ!
เปลว สีเงิน
๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗
