สันต์ สะตอแมน
ตั้งสติหน่อยไหม?
เข้าใจล่ะว่า “คุณกัน จอมพลัง” ผู้ที่ได้ชื่อเป็น “ที่พึ่งยามยาก” ให้กับประชาชนที่เดือดร้อน มีเจตนา-จิตใจงดงามที่จะช่วยเหลือ “ป้าปูนา” ให้ได้หนี้คืน
แต่คำพูด.. “ผู้ใหญ่เชิญยิ้มขอท้าเลย หลังจากนี้เป็นการการันตีคนของท่านด้วยกว่ากล้าไหม ถ้าคนของท่านติดเงินใครให้มาเอาที่ตัวท่านเอง ท่านจะจ่ายเอง
ถ้าจะให้โอกาสคนของท่าน ท่านก็ต้องการันตีด้วย..ถ้าท่านมั่นใจก็ให้ทีโพยืมเงินมาจ่ายป้าปูนา แล้วให้ทีโพผ่อนคืนท่านดีไหม” นั้น
ดูจะเป็นการใช้อารมณ์ไปนิด ซึ่งใครอ่าน-ใครฟังก็คงจะนึกในใจ.. “มันเกี่ยวอะไรด้วย” เพราะเท่าที่อ่าน-ที่ดู (ผู้ใหญ่) คุณเป็ด เชิญยิ้ม พูด..(ในรายการ คุยแซ่บ show ช่อง One31)
“เราทำตลาดอยู่แล้ว เจ้าของที่จ้างเราไปทำ เขาบอกว่าขออนุญาตให้จั๊กกะบุ๋มมาขายของที่ร้านได้มั้ย เราบอกว่ามาเลยสิ จะได้ใช้หนี้เขาได้ ใช้ให้หมด
สองเขากราบขอโทษที่ทำลายเชิญยิ้ม เราก็ผู้ใหญ่ เราเปรียบเสมือนพ่อ เราจะทำยังไง เราจะถีบส่งก็ไม่ได้ เราก็คิดว่าอยู่ที่ตัวมึงนะบุ๋มนะ โอกาส อย่าหลอกตัวเอง ทำมันๆ แล้วใช้หนี้ๆๆ
คุณเป็นคนก่อจะให้ผมรับเป็นไปไม่ได้ แต่ที่ผมให้คุณได้คือคำว่าโอกาส คุณไปทำเถอะ เชื่อว่าผู้ร้าย คนฆ่าคนตายมา ทำผิดมาเยอะแยะ ทุกคนพร้อมให้อภัย
แต่ผมยังไม่ให้อภัยคุณนะ เพราะคุณทำผิดไว้เยอะ แต่ผมให้โอกาสคุณ คุณเอาโอกาสไปสร้างความน่าเชื่อถือ สร้างคำว่าอภัยของสังคม เดี๋ยวเขาจะอภัยโทษให้คุณเอง..
สิ่งไหนที่เคยเลวร้ายกับทุกคนเรากลับซะ โบราณบอกคนดีต้องแก้ไข คนจังไรต้องแก้ตัว เราต้องเป็นคนดีให้ได้ ในฐานะผมเป็นผู้ใหญ่ผมจะไปเหยียบไปซ้ำก็เจ็บปวดตัวเรา
เราเคยเขียนเขาด้วยมือ แล้วจะให้ลบเขาด้วยตีนเหรอ อยู่ที่เขาจะพิสูจน์ตัวเองว่าเขาโปร่งแล้วนะ สว่างแล้วนะ เขาทำจริง แค่นั้นเอง ที่เราให้วันนี้คือให้โอกาส..”
เนี่ย..คุณเป็ดก็ไม่ได้จะเข้าข้างคุณจั๊กกะบุ๋มแบบไม่ลืมหู-ลืมตา ตรงกันข้ามเขาพยายามจะอบรม สั่งสอน แนะนำไปพร้อมๆ กับการให้โอกาส
ซึ่งการให้โอกาสคน-ช่วยเหลือคน ก็น่าจะอยู่ในอุดมคติของคุณกันด้วยเช่นกัน ถึงทำให้คุณกันได้ชื่อเป็นคนที่ประชาชนผู้เดือดร้อนสามารถพึ่งพาได้
ผมเองก็แอบชื่นชมและติดตามกับการทำงานเพื่อสังคมของคุณกันมาโดยตลอด และเข้าใจดีว่าการยื่นมือเข้าช่วยเป็นธุระให้กับ “ป้าปูนา” เจ้าหนี้ของตลกจั๊กกะบุ๋ม..
เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อที่จะให้ป้าแกได้เงินคืน ไม่ได้มีอคติหรือโกรธเกลียดคุณจั๊กกะบุ๋มเป็นการส่วนตัวใดๆ!
ฉะนั้น..ที่คุณกันบอกให้ผู้ใหญ่เชิญยิ้ม ซึ่งก็หมายถึงคุณเป็ด ให้ทีโพ (จั๊กกะบุ๋ม) ยืมเงินมาจ่ายป้าปูนา แล้วให้ทีโพผ่อนคืนคุณเป็ด
จึงฟัง (อ่าน) แล้ว มันไม่ค่อยเข้าท่า ไม่สมเหตุสมผล และไม่ควรออกจากปากของคนที่มีผู้คนชื่นชม-ศรัทธาอย่างคุณกัน
เพราะอย่างที่กล่าวแต่ต้นแหละว่า “มันคนละเรื่อง” แค่คุณเป็ดเปิดใจ-เปิดโอกาสให้คุณจั๊กกะบุ๋มได้มีที่ยืน ทำมาหากิน เก็บเงินใช้หนี้..
คุณกันถึงกับจะบีบคอ-บังคับให้คุณเป็ดต้องรับผิดชอบหนี้สินของตลกรุ่นลูกกระนั้นเลยเชียวหรือ?
แล้วเกิดมีคนถาม..ในเมื่อคุณกันต้องการให้ป้าปูนามีเงินไปประกอบสัมมาอาชีพได้ต่อไป “ทำไมไม่หยิบยื่นเงินตัวเองให้ไปก่อนล่ะ” ขึ้นมาบ้าง คุณกันจะว่ายังไง?
ซึ่งหากใครถามเช่นนั้น ผมก็ว่ามัน “เพี้ยน-บ้า” ไปแล้ว อีกอย่างผมอยากให้คุณกันมองกระจกทั้งสองด้านด้วย..
ด้านหนึ่ง ในขณะที่ “ป้าปูนา” ลำบากแสนสาหัสกับการทวงหนี้ อีกด้าน..คุณจั๊กกะบุ๋มก็ลำบากแสนสาหัสกับการหาเงินใช้หนี้!
เมื่อคุณกันเห็นแล้วก็จะได้เข้าใจ มีเมตตาให้กับทั้งสองฝ่ายอย่างเที่ยงธรรม-เป็นธรรม ซึ่งก็เป็นลักษณะของผู้ได้ชื่อ “เป็นที่พึ่งยามยาก” ของประชาชนผู้เดือดร้อนโดยแท้!
เวลานี้คุณจั๊กกะบุ๋มกำลังเดือดร้อน-ทุกข์หนักพอๆ กับป้าปูนา และถ้าคุณกันจะได้ช่วยอนุเคราะห์ให้ทั้งสองเดินหน้ากันต่อไปได้ ในสายตาสังคมก็มีแต่ความยินดี-สรรเสริญ
ดีกว่าต้อนคนหนึ่งเข้ามุมอับแล้วขยี้ให้แหลกลาญ แถมลามปามไปถึงผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย..
แบบนั้น..คนเขาจะส่ายหัวเอา!