สันต์ สะตอแมน
มีการเบิกจ่ายไปแล้ว 1,200 ล้านบาท
นี่..ล่าสุดผู้แทนจากกรมบัญชีกลาง และสำนักงบประมาณได้เผยถึงโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรือ “อะควาเรียมหอยสังข์”..
ที่ออกแบบให้เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงาม โดดเด่น เป็นรูปหอยสังข์ขนาดใหญ่ วัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ พันธุ์ไม้น้ำ
และการเพาะขยายพันธุ์ที่มีความทันสมัย เป็นสถานที่ศึกษาวิจัย และจำลองระบบนิเวศทะเลสาบ ด้วยงบประมาณสร้างกว่า 1,400 ล้านบาท
แต่..15 ปีผ่าน โครงการนี้ก็ยังไม่แล้วเสร็จ และไม่มีทีท่าว่าจะแล้วเสร็จ ในขณะที่เงิน 1,200 ล้าน ได้เสร็จพวกมันไปแล้ว
พวกไหนนั่นรึ..ผมไม่รู้ รู้แค่ว่าเมื่อวันที่ 27 กันยา คุณพัฒนพงศ์ จันทร์เพ็ชรพูล ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. ภาค 9
ได้รับแจ้งประสานจากเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง ว่า ขณะนี้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหาแล้วรวมทั้งสิ้น 27 ราย
ต่อมา..วันที่18 ตุลา คุณพัฒนพงศ์ ได้ชี้แจง “คาดว่าภายในเดือนธันวาคมนี้ จะมีข้อสรุปว่าจะชี้มูลความผิดผู้ใดหรือไม่ มีผู้ที่กระทำความผิดหรือไม่
หากพบว่ามีการชี้มูลผู้กระทำความผิด จะส่งเรื่องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาสั่งฟ้องคดีต่อไป”
และเมื่อไม่กี่วันก่อน ในการประชุมคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ก็มีการพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย
โดยคุณสรรเพชญ บุญญามณี ส.ส. สงขลา ในฐานะ กมธ. ได้เผยว่า.. “สาเหตุและความจำเป็นที่ต้องให้พิจารณาเรื่องนี้ในวาระการประชุม
สืบเนื่องมาจากโครงการก่อสร้างอะควาเรียมหอยสังข์แห่งนี้ได้รับการอนุมัติงบก่อสร้างตั้งแต่ปี 2551 ครั้งแรก 800 ล้านบาท
หลังจากนั้นเกิดความไม่ชอบมาพากลในการดำเนินการ ทั้งมีการขอลดสเปกของผู้รับงาน การก่อสร้างที่ทำให้เกิดข้อถกเถียงด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม
จนกระทั่งกระทรวงศึกษาธิการได้สั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและตั้งคณะกรรมการสอบสวน และได้ยื่นเรื่องดังกล่าวให้ ป.ป.ช.พิจารณา..
เมื่อเกิดปัญหา ประชาชนในพื้นที่เกิดความสงสัย เพราะเกรงว่าจะเป็นอนุสรณ์สถานแห่งการโกงหรือไม่
จึงทำให้ผมซึ่งได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการก่อสร้างอะควาเรียมที่สร้างไม่เสร็จมากว่า 15 ปี และใช้งบประมาณกว่า 1,200-1,400 ล้านบาท เข้าพิจารณาในคณะกรรมาธิการ”
ครับ..ก็หวังว่าคุณสรรเพชรจะได้เกาะติดเรื่องนี้อย่างแข็งขัน-จริงจัง ที่นอกจากจะลากคอคนโกงมาลงโทษให้สาสมแล้ว
ด้านหนึ่งก็เพื่อชาวสงขลาจะได้พูด-ได้ตอบเต็มปากเต็มคำเมื่อมีคนชี้และถาม.. “นั่นอะไร”?
เหมือนกับที่วานซืน มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งถามผมขณะนั่งรถตู้ลงมาจากขึ้นไปดื่มกาแฟบนเขาเกาะยอ บอกชื่อร้านเลยก็ได้.. “ The Proud Koh Yor” นัยว่าเจ้าของคือคุณถาวร เสนเนียม
ซึ่งผม (คนปัตตานี) ก็ได้แต่นั่งเงียบ ไม่กล้าจะตอบว่าเป็น “สุสานหอยสังข์” หรือเป็น “อนุสรณ์สถานแห่งการโกง”..
ด้วยให้รู้สึกเกรงใจรูปเหมือน “ป๋าเปรม” ที่ยืนเด่นสง่าอยู่อีกฝั่งถนนจะได้ยิน และทำให้เสียชื่อคนสงขลาน่ะ!
และนี่ก็จะปลายเดือนธันวาคมแล้ว คงได้กฤกษ์-ได้เวลา ที่ผู้มีอำนาจ-หน้าที่จะได้สรุป จะปล่อยให้เป็น “สุสาน-อนุสรณ์” หรือจะดำเนินต่อให้แล้วเสร็จ..
แต่ที่ต้องสะเด็ดน้ำ ก็ 27 คนที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต..
ควรได้รู้ชื่อ-เห็นหน้าเสียที!