หากินกับ “มวยไทย”? – สันต์ สะตอแมน

สันต์ สะตอแมน

จบละคร “ตากสินมหาราช” ปี 2550

คุณมด-นพพร วาทิน ยังคงป้วนเปี้ยนอยู่ในวงการบันเทิง และได้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “ซามูไรอโยธยา” เมื่อปี 53 แล้วจากนั้นเขาก็ได้วางมือในอาชีพ “ผู้กำกับ” มาจวบจนปัจจุบัน!

กระนั้น คุณนพพร ก็ไม่ได้หายหน้าไปไหน เพราะแม้จะไม่ได้ข้องแวะกับหนัง-ละคร แต่จากที่ได้หันไปประกอบธุรกิจใหม่ เป็นผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร “THAI FIGHT”

ซึ่งเป็นบริษัทจัดการแข่งขัน “มวยไทยอาชีพ” ระดับโลก โดยมี “สมาคมกีฬามวยไทยไฟท์นานาชาติ” หรือ “THAI FIGHT INTERNATIONAL BOXING ASSOCIATION” (อักษรย่อ TFIBA)

ภายใต้การกำกับดูแลและการรับรองของ“การกีฬาแห่งประเทศไทย” ตามพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.๒๕๔๒

โดยใช้กฎ กติกาของ “สมาคมกีฬามวยไทยไฟต์นานาชาติ” ในการจัดการแข่งขัน “THAI FIGHT” และประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงทั้งในและต่างประเทศมาตลอดเวลานับ 10 ปี

คุณนพพรกับผมจึงได้มีโอกาสพบปะเจอหน้ากันอยู่เป็นครั้งคราว..

บางคราวก็ได้ไปนั่งดู “ไทยไฟต์” ข้างขอบเวที ซึ่งให้รู้สึกตื่นตา-ตื่นใจอยู่ไม่น้อยกับการดูมวยไทยที่ใช้คอนเซปต์กีฬากับเอ็นเตอร์เทนเป็นเวทีแรกจนเอาอย่างตามกัน

และเมื่อไม่กี่วันก่อน คุณนพพรก็ได้โทรชวนดื่มโกโก้กันแถวๆ เลียบด่วนเอกมัยฯ จากที่คุยกันก็ได้รู้ว่า..

ไทยไฟต์เพิ่งจะลงนามความร่วมมือเชิงธุรกิจกับ United Vansen Sports Management Co., Ltd โดย Mr. William Wu ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ทั้งนี้ ก็ด้วยการประสานงานของคุณเชาว์ชัย เจียมวิจิตร กับคุณฉัตรชัย เล่งอี้ ประธานและรองประธาน คณะอนุกรรมการหอการค้าแห่งประเทศไทยด้านค้าชายแดนด้านจีนตอนใต้

โดยมีคุณจิราพร สุดานิช กงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว ร่วมเป็นสักขีพยาน

คุณนพพรเล่าว่า United Vansen เป็นบริษัทบริหารจัดการกีฬาชั้นนำอันดับต้นๆ ของประเทศจีน มีสำนักงานใหญ่อยู่ ณกรุงปักกิ่ง

ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์แบบครบวงจร โดยไทยไฟต์ ตกลงร่วมมือกับบริษัท “United Vansen” แต่เพียงผู้เดียว

เพื่อร่วมกันส่งเสริมอุตสาหกรรมมวยไทยเข้าสู่ “จีนแผ่นดินใหญ่” รวมถึงการจัดการแข่งขันมวยไทยระดับโลกในประเทศจีน

พร้อมดำเนินการเปิดยิมมวยไทยทั่วประเทศจีน เพื่อฝึกอบรมตลอดจนปลูกฝังและคัดเลือกนักมวยไทยมืออาชีพที่เป็นชาวจีน

รวมทั้งบุคคลทั่วไปที่สนใจออกกำลังกายด้วยวิชามวยไทย ที่จะส่งผลให้ได้ทั้งเรื่องสุขภาพและศิลปะการป้องกันตัวอีกด้วย

คุณนพพรคุยว่า..ตั้งเป้าจะเปิดยิมมวยไทย 10,000 ยิมภายในเวลา 5 ปี แต่ทาง Mr. William บอกว่าถ้า 5 ปี ไม่ใช่แค่หมื่นแต่จะหลายหมื่นยิมแน่นอน!

อีกทั้ง ทั้งสองฝ่ายวางแผนที่จะผลักดันด้านลิขสิทธิ์กีฬา สื่อบันเทิงกีฬา รวมไปถึงอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์กีฬาต่างๆ ที่มีคุณภาพของประเทศไทย

นอกจากนั้นยังได้เปิดตัวโครงการแลกเปลี่ยนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจีน – ไทย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมพัฒนาในเชิงลึกของทั้ง 2 ประเทศ

ไม่ว่าจะเป็นในด้านวัฒนธรรม กีฬา การท่องเที่ยว และด้านอื่นๆ อีกด้วย!

“ผมใช้นโยบายหลักของบริษัทคือ “THAI SPIRIT” บ่งบอกความเป็นไทย และคนไทยเท่านั้น ที่จะทำได้ดีที่สุด เพราะมันคือจิตวิญญาณของคนไทย”

นี่..ดูเหมือนคุณนพพรจะภูมิอก-ภูมิใจมากกับคำว่า “THAI SPIRIT” ซึ่งผมก็ว่า “ดี” เป็นการสร้างอัตตลักษณ์ให้ “ไทยไฟต์-มวยไทย” อาจจะชัดเจนกว่าซอฟต์ พาวเวอร์เสียด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ผมก็ได้ย้ำกับคุณนพพรว่า มวยไทยต้องสวมมงคล คาดผ้าปะเจียด ไหว้ครู มีวงปี่พาทย์ และสวมนวมปิดไม่มีนิ้วโผล่นะ

“แน่นอน เราใช้กติกามวยไทย ตามพรบ.มวยไทย ภายใต้สมาคมมวยไทย ที่รองรับโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย ถ้าผิดไปจากนี้ก็ไม่ใช่มวยไทยแล้ว..

ยกเว้นคาดเชือกที่เป็นมวยไทยมาตั้งสมัยโบราณ” คุณนพพรพูดหนักแน่น!

ครับ..ก็เล่าสู่กันฟัง เผื่อคนที่ไม่รู้-ไม่เข้าใจคำว่า “มวยไทย” จะได้ไม่ตกหลุมพราง ไปเที่ยวสนับสนุน หรือสร้างมูลค่าให้กับนักธุรกิจ..

ที่เอาชื่อ “มวยไทย” ไปหากิน!


Written By
More from pp
JKN ยืนยัน มั่นใจ ชำระหุ้นกู้ได้ครบถ้วน ไม่ดีฟอลท์ เตรียมจ่ายทันที 156,000,000 บาท
JKN ยืนยัน มั่นใจ ชำระหุ้นกู้ได้ครบถ้วน ไม่ดีฟอลท์ เตรียมจ่ายทันที 156,000,000 บาท เตรียมเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ขอเลื่อนกำหนดชำระคืนที่เหลือ ภายในปีนี้ มั่นใจธุรกิจ...
Read More
0 replies on “หากินกับ “มวยไทย”? – สันต์ สะตอแมน”