ผสมโรง
สันต์สะตอแมน
กะโหลกบางตายช้า กะโหลกหนาตายก่อน..
ชื่อหนังครับชื่อหนัง..พอดีเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา โรงภาพยนตร์ศรีศาลายา ได้มีการจัดกิจกรรมฉายหนังเรื่องนี้ เห็นว่าจัดฉายให้ดูกันฟรีๆ ในโปรแกรม ตา+กล้องหนัง (The Eyes Behind The Movie Camera)
ผมไม่ได้ไปดูหรอก แต่มีคนเขาเล่าว่ามีคอหนังไทยจำนวนไม่น้อยเลยไปดู ทั้งที่ต้องการไปย้อนความหลัง และที่โตไม่ทันดู เพราะผมนั้นจำได้ดีว่า ตอนที่หนังเรื่องนี้เข้าฉายนั้น..
ช่วงบรรยากาศหลังเหตุการณ์ “รัฐบาล พล.อ.ชาติชายถูกรัฐประหาร” ยังอุ่นๆ เลย.. ก็ 28 ปีมาแล้ว นับเป็น “ตำนาน” ทั้งหนังทั้งรัฐบาลคณะนั้นก็ว่าได้
หนังเรื่องนี้คุณมานพ อุดมเดช เป็นผู้กำกับฯ นายทุนคือเจ้าสัวธวัชชัย โรจนโชติกุล เจ้าของ บริษัท ทีเคอาร์ กรุ๊พ จำกัด เป็นหนังที่ผู้สันทัดกรณีในเรื่องภาพยนตร์บอกว่า เป็น “ฟิล์มนัวร์” เรื่องแรกของไทย
ผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นยังไงฟิล์มนง ฟิล์มนัวร์ เคยถามคุณมานพ ก็ได้คำตอบว่า..เป็นหนังแนวแฉด้านมืดของคน บรรยากาศในเรื่องจะมืดๆ ทึมๆ อึมครึมๆ แสงเงาจัดจ้าน..
แต่เป็นเรื่องแรกของวงการภาพยนตร์ไทยหรือเปล่า คุณมานพบอก.. “ไม่รู้”!
ก็จริงอย่างผู้กำกับฯ บอกนั่นแหละ เพราะที่ผมดูเมื่อสมัยนู้น ทั้งเรื่องมืดๆมอมๆ แต่ก็มีลุ้นระทึกใจเหมือนกัน
ถามว่าดีมั้ย?..เป็นหนังดี โดนใจทีเดียว แต่เห็นว่าหนังขาดทุนยับเยิน แถมสายหนังบางสายเบี้ยวไม่จ่ายตังค์ค่าซื้อหนังด้วย สายหนังภาคไหนอย่าไปรู้เลย
เอาว่า..เป็นสาเหตุที่เจ้าสัวธวัชชัยได้ตัดสินใจล้างมือในอ่างทองคำ ลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ไทย พร้อมปิดบริษัทอย่างถาวร ทำเอาคุณมานพเกือบจะประกาศ..
ล้างมือในอ่างดินเผาตามไปอีกคน!
และถึงไม่ได้ประกาศ คุณมานพก็หยุดกำกับหนังไปถึง 8 ปีเต็มๆ เลยทีเดียว ก่อนจะได้โอกาสทำหนังเรื่อง “ดอกไม้ในทางปืน” แต่ดูเหมือนไม่ประสบความสำเร็จอีกเหมือนกัน..
ได้แต่รางวัล ซึ่งนายทุน (ทุกคน) ไม่ค่อยแฮปปี้เท่ากับหนังได้เงิน!
10 ปีให้หลัง ผมเคยได้ยินนักดูหนังรุ่นใหม่บอกว่า สมัยนั้นคนทำหนังไทยทำ “หนังแนว” เป็นแล้วเหรอ?
คำว่า “หนังแนว” เป็นภาษานักดูหนังช่วงหนึ่ง ใช้เรียกหนังที่มีลีลาการเล่าเรื่องแหวกจากความจำเจ ชนิดที่ดูแล้วต้องบอกว่า คิดได้อย่างไร? กลายเป็นหนังที่มีคอหนังหาซื้อแผ่น แต่น่าเสียดายไม่มีออกมาวาง
หนังสองเรื่อง ทั้งกะโหลกบางฯ และดอกไม้ฯ ของคุณมานพ ใช้มือถ่ายภาพคนเดียวกัน คือ คุณสุทัศน์ อินทรานุป–กรณ์ ซึ่งความเป็นมาของมือถ่ายภาพยนตร์คนนี้มีความเป็นมาน่าสนใจมาก ไม่ธรรมดา
อยากจะพูดถึงเขามาก เพราะหนึ่งทศวรรษกว่าทีเดียว ที่วงการภาพยนตร์ไทยที่หนังไทยส่วนใหญ่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของผู้ชายคนนี้..
เอาไว้พรุ่งนี้..มาคุยต่อครับ!