17 ธันวาคม 2566 นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ให้สัมภาษณ์โดยวิเคราะห์ว่า วันนี้ทุกพรรคการเมือง ต้องพิสูจน์การทำงานให้กับประชาชนได้เห็น เหมือนรัฐบาลที่เพิ่งเข้ามาได้ 3 เดือนก็ต้องพิสูจน์ผลงาน ต้องทำนโยบายให้สำเร็จ พรรครวมไทยสร้างชาติเองก็เช่นกัน รวมถึงต้องปรับยุทธศาสตร์เพื่อจะเดินหน้าทำงานต่อไปได้ หากพรรคใดไม่ปรับตัว ในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ไปยาก
ยกตัวอย่างเช่น ภาคใต้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก และเชื่อว่าเลือกตั้งที่ผ่านมา ทุกพรรคไม่ได้คิดว่าพรรคก้าวไกลจะมา ทุกพรรคจึงต้องมีรูปแบบการทำงาน นโยบาย ปรับวิธีคิดใหม่ เช่นการใช้โซเชียลมีเดีย แต่ตนเชื่อว่าวันนี้ทุกพรรคปรับแล้วทั้งหมด แต่วิธีคิดที่ใหม่อย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและทำสำเร็จด้วย ไม่ใช่พูดไปเรื่อย
เมื่อถามว่า ในอนาคตการเลือกตั้งรอบหน้า ไม่ได้สู้กันแบบเดิม แต่อาจจะเป็นการรวมพลังของทุกพรรคเพื่อสู้กับก้าวไกลหรือไม่ นายธนกร ยอมรับว่า ก็เป็นไปได้ ต้องยอมรับความจริงว่าในอนาคต พรรคเล็กเกิดยาก เมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กติกาใหม่ต้องสู้กันทั้งระบบ
“ในพรรคก้าวไกลเองก็ต้องปรับตัว หลังจากเลยช่วงพีคผ่านไปแล้ว และต้องมาปรับ มาแก้ปัญหาภายในพรรคที่มีปัญหาหลายเรื่อง วันนี้ประชาชนเห็นทั้งหมดแล้ว ไม่ใช่ไปว่าคนอื่น ว่าพูดอย่างทำอย่าง
แต่ในขณะเดียวกัน ตัวเองพูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โกหกไปวันๆ ประชาชนฉลาดทุกคน และ โซเชียลมีเดียในยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์ มีการเน้นให้ประชาชนเข้าถึง แอปพลิเคชันต่างๆ เช่นแอปฯเป๋าตัง วันนี้ประชาชนฉลาด รู้ทันนักการเมือง การพูดอย่างทำอย่าง พูดไม่ตรงข้อเท็จจริง ประชาชนรู้หมด
เมื่อถามว่า การแก้รัฐธรรมนูญในสมัยรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำนั้นจะสำเร็จหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า หากพรรคแกนนำมีความตั้งใจจริงที่จะแก้ก็แก้ได้ แต่การจะแก้ไขต้องไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ และในส่วนพรบ.นิรโทษกรรม ต้องไม่เกี่ยวข้องกับคดีทำผิดมาตรา 112 หากฝั่งที่จะแก้ยืนกรานตน เชื่อว่า ไม่ผ่าน ฟันธงว่าไม่สำเร็จแน่นอน
ทั้งนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ง่ายและมีการใช้งบประมาณทำประชาพิจารณ์เกือบ 7,000 ล้านบาท หาวิธีการที่จะประหยัดงบประมาณได้หรือไม่เอาเงินจำนวนนี้มาทำโครงการ ”คนละครึ่ง“ ต่อดีกว่า ซึ่งหากพรรคก้าวไกลไม่ยอมถอยมันก็เดินต่อไม่ได้
“วันนี้สิ่งที่พลเอกประยุทธ์ได้ทำไว้ให้กับคนไทยมีความยั่งยืนอย่างแน่นอนเป็นประโยชน์กับประเทศชาติมาก วันนี้อยากให้ความขัดแย้งลดลงและทุกวันนี้ก็ถือว่าดีขึ้นมาก การชุมนุมต่างๆก็น้อยลง คนไทยเริ่มหันหน้าเข้าหากันมากขึ้น อยากให้คนไทยรักกัน จะทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้และด้วยนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลชุดนี้และพรรคร่วมรัฐบาล
ผมคิดว่าเราไปได้และทำให้ยั่งยืนได้ ซึ่งมีหลายอย่างที่ทำต่อ ยอดจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ก็ไม่อยากให้หวนกลับไปสู่ความขัดแย้งอีก ขอให้ถ้อยทีถ้อยอาศัยและพูดคุยกันจะดีกว่า” นายธนกร กล่าว