11 พฤศจิกายน 2566 ดร.แทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้ข่าวว่า เป็นผู้ประสานกับแรงงานที่หนีตายจากภัยสงครามที่อิสราเอล โดยส่งข้อมูลให้กับกระทรวงการต่างประเทศ
ตอนแรกตนรู้สึกชื่นชมในความมีน้ำใจ และการตัดสินใจอย่างทันท่วงที การช่วยชีวิตของพี่น้องคนไทยต้องมาก่อนเรื่องอื่นใดและยามวิกฤต เราไม่เคยทิ้งกัน ต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ สามัคคีกัน ช่วยชีวิตพี่น้องแรงงานให้เร็วและมากที่สุด เท่าที่จะทำได้
จนในสองวันนี้ ได้รับประสานจากแอดมินเพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร ส่งหลักฐานแชตไลน์และเฟซบุ้กจากหนึ่งในผู้ประสานงานแรงงานไทย ที่ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมก้าวไกลว่า เคยประสานขอความช่วยเหลืออะไรเขาไปแต่ไม่ได้ช่วยอย่างเต็มที่
แค่ต้องการรายชื่อเพื่อไปใช้โปรโมทพิธาและพรรค และยังขอให้แรงงานไทยช่วยโพสต์อวย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ทางโซเชียลมีเดีย และมีหลายครั้งไม่ได้ใส่ใจข้อเรียกร้องว่า อย่าโทรไปตอนที่กำลังเผชิญวิกฤตแทบเอาชีวิตไม่รอดจนทำให้คนร้ายรู้ตำแหน่งที่ซ่อนของแรงงานไทย
เพราะเขามัวแต่ต้องการข้อมูลไปออกสื่อให้ข่าว แย่งซีนกระทรวงต่างประเทศ ทำให้เกิดความสับสนระหว่างการประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่จริงๆ จนการแก้ปัญหายุ่งยากมากขึ้น
โดยทางตัวแทนแรงงานไทยอักษรย่อ “ห” ได้ขอให้ตนเปิดโปงความจริงถึงพฤติกรรมสร้างภาพลวงโลกบนวิกฤตชีวิตคนไทยเพื่อให้คนไทยตาสว่าง
เขารู้สึกผิดหวังเสียใจอย่างมากว่า ทำไมต้องทำขนาดนี้กับชีวิตที่กำลังอยู่บนความเป็นความตาย โดยตนอยากเตือนสตินายพิธาและนายสุเทพ อู่อั้น ว่า ต่อไปอย่าทำแบบนี้อีก คิดว่าถ้าเป็นพ่อแม่คุณ หรือคนในครอบครัวคุณ ติดในสภาวะสงคราม แล้วถูกนักการเมืองเลวๆ ที่หวังเพียงแค่ต้องการให้ตัวเองดูดี แต่ทำให้ชีวิตผู้บริสุทธิ์เดือดร้อน พวกคุณจะทำอีกไหม จากวีรบุรุษกลายเป็นปีศาจร้ายบนคราบน้ำตาและเลือดเนื้อประชาชน
โดยแหล่งข่าวได้โทรคุยกับตนทั้งน้ำตาแห่งความเจ็บปวดว่า “เสียใจมากที่ตอนแรกคิดว่าเขาคือความหวัง แต่กลับไม่ใช่ หลังจากได้ซีนแล้วเขาไม่ได้ช่วยอะไรอีกเลย และที่เจ็บปวดที่สุดคือ ต้องเห็นเพื่อนร่วมชาติเสียชีวิตลงโดยมีคนนำประเด็นเหล่านี้ไปแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองอย่างไม่น่าเชื่อเลยว่า จิตใจเขาทำด้วยอะไร
ตอนแรกนึกว่าเขาจะมาช่วยด้วยใจจริง แต่สุดท้ายพอได้ออกข่าวก็ทิ้งพวกเรา โดยพวกเขาไม่เพียงไม่ช่วยอะไรยังทำให้เราลำบากขึ้น”
โดยตนขอให้เรื่องนี้เป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดที่พรรคก้าวไกลจะทำต่อประเทศไทยโดยส่วนตัวตนไม่เคยอยากให้มีการยุบพรรคใดๆเลยแต่ตอนนี้ตนเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงต้องมีกฎหมายยุบพรรคเพราะพฤติกรรมสร้างภาพบนคราบเลือดประชาชนเป็นสิ่งที่เลวร้ายจริงๆ
ที่มา Tankhun Jittitsara page