25 มิ.ย.63 นนทบุรี – ประกันสังคม ชูนโยบายเชิงรุก หนุนโครงการ ‘เฮลธ์ตี้ ไทยแลนด์ เพื่อผู้ประกันตน‘ ดูแลสุขภาพของแรงงานในสถานประกอบการทั่วประเทศ มุ่งหวังดูแลแรงงานให้มีสุขภาพที่ดี ลดเจ็บป่วยจากการทำงาน
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า จากสถิติ ปี 2562 มีลูกจ้างที่ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานจำนวน 94,906 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2561 จำนวน 8,609 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตขณะทำงานถึง 639 ราย และในปี 2563 ณ.เดือนเม.ย. ที่ผ่านมาพบผู้ประกันตนเจ็บป่วยไม่เนื่องจากการทำงานเข้ารับการรักษาพยาบาล จำนวน 2,360,167 ครั้ง
ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของลูกจ้างและผู้ประกันตนสำนักงานประกันสังคมจึงได้จัดทำโครงการในเชิงรุกชื่อว่า “Healthy Thailand เพื่อผู้ประกันตน” ขึ้นโดยจะทำงานในเชิงรุก ด้วยการนำแพทย์และพยาบาลหรือผู้ช่วยไปตรวจสุขภาพประจำปีในสถานประกอบการ โดยนายจ้างและลูกจ้างไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น สำนักงานประกันสังคมจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
ในขณะเดียวกันก็จะระดมสรรพกำลัง ให้คลินิกโรคจากการทำงาน ซึ่งมีอยู่ที่สถานพยาบาลทั่วประเทศดูแลลูกจ้างที่เจ็บป่วยด้วยโรคที่เกิดจากการทำงานอย่างเป็นระบบ ให้การตรวจรักษาวินิจฉัยโรคที่มีมาตรฐาน เฝ้าระวัง/ป้องกัน และลดอุบัติเหตุจากการทำงานพร้อมทั้งให้คำปรึกษาและส่งเสริมด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานแก่สถานประกอบการ
รวมทั้งศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานของสำนักงานประกันสังคมซึ่งมีอยู่ 5 ภาค ที่ดูแลลูกจ้างที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานหรือเป็นผู้ประกันตนทุพพลภาพที่ไม่เนื่องจากการทำงานสามารถช่วยเหลือตนเองได้ในกิจวัตรประจำวัน สภาพการสูญเสียที่เกิดขึ้นสามารถฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงานให้ดีขึ้น และขับเคลื่อนในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งสำนักงานประกันสังคมตั้งเป้าลูกจ้างเข้าถึงการบริการทางการแพทย์ได้ง่าย มีสุขภาพดี มีความปลอดภัยจากการทำงาน
“โครงการ “Healthy Thailand เพื่อผู้ประกันตน” สำนักงานฯได้จัดทำเชิงรุกในการดูแลสุขภาพของแรงงานในสถานประกอบการทั่วประเทศ เพื่อมุ่งหวังดูแลแรงงานให้มีสุขภาพที่ดี และหันมาสนใจสุขภาวะของตนเองมากยิ่งขึ้น อีกทั้งผู้ใช้แรงงานยังมีโอกาสในการพบสถานพยาบาลได้ภายในสถานประกอบการ ซึ่งจะได้รับความสะดวก สำนักงานประกันสังคมหวังว่าโครงการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคแก่ผู้ประกันตนในสถานประกอบการจะเป็นหนึ่งในหลักประกันความมั่นคงในการทำงานการเข้าถึงบริการของรัฐ ลดความเลื่อมล้ำทางสังคม และนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนในชีวิตต่อไปหากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายบุญสงค์ กล่าว