หลายคนอาจไม่เคยมีอาการเจ็บป่วย จนมองข้ามการตรวจสุขภาพประจำปี เพราะเห็นว่าไม่มีความสำคัญ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่ออายุเริ่มมากขึ้นความเสี่ยงต่อการเป็นโรคก็เพิ่มสูงขึ้น เช่น โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง, โรคมะเร็ง, โรคหัวใจ ซึ่งความผิดปกติในระยะเริ่มแรก อาจไม่มีอาการแสดง จนกระทั่งเกิดอาการในระยะลุกลามและยากต่อการรักษา
นายแพทย์ วิรุณ เกียรติคุณรัตน์ แพทย์ประจำศูนย์ตรวจสุขภาพ Wellness Center โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า การตรวจสุขภาพประจำปี คือการตรวจคัดกรองเพื่อหาความเสี่ยงโรคต่าง ๆ ที่ช่วยให้รู้ทันสภาพร่างกายของตัวเอง
ซึ่งถ้าตรวจพบความผิดปกติของร่างกายได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ก็จะช่วยให้สามารถวางแผนการรักษาที่เหมาะสม และมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้สูงกว่าการตรวจพบในระยะร้ายแรง รวมถึงค่าใช้จ่ายจะน้อยกว่าในระยะลุกลาม ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี และควรเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อให้ได้ผลตรวจที่แม่นยำยิ่งขึ้น
การตรวจสุขภาพประจำปีสามารถตรวจได้ทุกวัย ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยผู้สูงอายุ โดยรายการตรวจจะแตกต่างกันไปตามช่วงอายุ เพศ และความเสี่ยงต่อการเกิดโรคของแต่ละบุคคล โดยสามารถแบ่งการตรวจสุขภาพประจำปีได้ดังนี้
วัยเด็ก เป็นการตรวจร่างกายเพื่อดูการเจริญเติบโตและพัฒนาการเป็นหลัก ซึ่งจะประเมินโดยกุมารแพทย์ และยังรวมไปถึงการฉีดวัคซีนตามช่วงอายุ เพื่อป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ
วัยทำงานหรือวัยผู้ใหญ่ อายุตั้งแต่ 18-50 ปี เป็นการตรวจสภาพร่างกายพื้นฐานโดยรวม ประกอบด้วย การวัดความดันโลหิต, การวัดชีพจร, การวัดอัตราการหายใจ, วัดส่วนสูง, ชั่งน้ำหนัก, การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด, ตรวจวัดระดับน้ำตาล ระดับไขมัน การทำงานของตับ ไต, ตรวจเอ็กซเรย์ทรวงอก, การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ, การตรวจอัลตร้าซาวน์ช่องท้อง, การตรวจปัสสาวะ เป็นต้น
กลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจเพิ่มเติมจากการตรวจสุขภาพพื้นฐาน ได้แก่ การตรวจสมรรถภาพหัวใจจากการวิ่งสายพาน และการอัลตร้าซาวน์หัวใจ มีความสำคัญมาก และอาจต้องตรวจก่อนอายุ 50 ปี ในกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว และมีญาติเป็นโรคหัวใจ, การประเมินสมรรถภาพการทำงานของสมอง, การตรวจความหนาแน่นกระดูก เพื่อคัดกรองภาวะกระดูกพรุน และ การตรวจสภาพสายตา
สำหรับเพศหญิงอายุ 30 ปีขึ้นไปหรือเคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจเอ็กซเรย์เต้านมเพื่อคัดกรองมะเร็งเต้านม และสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไปทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ควรเข้ารับการส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนล่าง เพื่อเป็นการคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง
การเตรียมตัวตรวจสุขภาพ
– นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง
– งดดื่มน้ำและอาหาร อย่างน้อย 8 – 12 ชั่วโมง แต่สามารถจิบน้ำเปล่าได้
– งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
– ไม่ต้องหยุดยาที่รับประทานเป็นประจำ แต่ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ ยกเว้นยาโรคเบาหวานที่ต้องงดก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพ
– ผู้หญิงไม่ควรตรวจสุขภาพช่วงก่อนและหลังมีประจำเดือน 1 สัปดาห์ เพราะจะมีเลือดปนในปัสสาวะและทำให้การแปลผลคลาดเคลื่อน
– การเอกซเรย์ ต้องไม่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือเสี่ยงตั้งครรภ์ หากมีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบล่วงหน้า
– การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ต้องไม่อยู่ในช่วงที่มีประจำเดือน หรือก่อนมีประจำเดือน 7 วัน
ศูนย์ตรวจสุขภาพ Wellness Center โรงพยาบาลเวชธานีให้บริการแบบ One Stop Service มีโปรแกรมการตรวจสุขภาพหลากหลายโปรแกรม ที่ได้รับการออกแบบโดยทีมแพทย์มากประสบการณ์กว่า 30 ท่าน เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพศ อายุ ปัจจัยเสี่ยงการทำงาน พฤติกรรมการใช้ชีวิต และพันธุกรรม ภายใต้เครื่องมือมาตรฐาน และทันสมัย
โดยเน้นการตรวจค้นหาความเสี่ยงด้านสุขภาพ ทั้งโรคพื้นฐาน และโรคร้ายแรงที่ต้องใช้การตรวจเฉพาะทาง เพื่อให้สามารถควบคุม และป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค ก่อนที่จะเกิดความเจ็บป่วยขึ้น โดยผู้เข้ารับบริการจะได้เข้าพบแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยง, วินิจฉัย และแนะนำแนวทางการป้องกัน ทั้งเรื่องอาหาร การออกกําลังกาย และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ทางศูนย์ตรวจสุขภาพ Wellness Center โรงพยาบาลเวชธานีจัดเตรียมอาหารว่าง เครื่องดื่ม และบริการนวดบริเวณคอ บ่า ไหล่ และฝ่าเท้า เพื่อเพิ่มความผ่อนคลาย
ทั้งนี้ การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย เพราะระยะเริ่มต้นของโรคร้ายอาจแฝงตัวอยู่กับผู้ที่มีสุขภาพดีได้โดยที่ไม่รู้ตัว ซี่งการตรวจสุขภาพประจำปีจะช่วยให้รู้ทันโรคร้าย และสามารถรักษาป้องกันได้ ก่อนที่จะสายเกินไป