วันนี้ (12 พ.ค. 63) เวลา 13.30 น. ณ ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงชื่นชมภาคเอกชนและภาคประชาชนที่จัดทำ “ตู้ปันสุข” เพื่อแบ่งปันอาหารและของใช้จำเป็นแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
นายกรัฐมนตรีชื่นชมภาคเอกชนและประชาชนจัดทำ “ตู้ปันสุข” เพื่อแบ่งปันอาหารและของใช้จำเป็นแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 วอนผู้รับต้องมีจิตสำนึก ไม่เอาเปรียบผู้อื่น รู้จักเฉลี่ยและเรียนรู้แบ่งปันสิ่งของซึ่งกันและกัน
ทั้งนี้ ทุกคนจะต้องรู้จักรักษาสิทธิของตน รู้จักห้ามปรามกันและกันโดยที่ไม่ใช่วิธีการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะผู้ให้มีจุดประสงค์ที่จะบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือสังคม หากสามารถทำได้ในทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ก็จะเป็นการสร้างความสบายใจทั้งผู้ให้และผู้รับ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มว่า ในวันที่ 15 พ.ค. นี้ คณะกรรมการ ศบค. จะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานประกอบการ จากการผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 2 ให้เตรียมพร้อมสอดคล้องกับมาตรการของศบค. อย่างครบถ้วน เพื่อเป็นต้นแบบให้สถานประกอบการอื่นๆ นำมาปรับใช้อย่างเท่าเทียมกัน นายกรัฐมนตรียังย้ำ อาจจะมีการสั่งปิดสถานประกอบการใดๆ หากไม่ปฏิบัติตามมาตรการ
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย รวมทั้งไม่ให้ละเลยมาตรการการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย โดยผู้ประกอบการต้องให้ความร่วมมือกับ ศบค. ด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการทำงานของ ศบค. เป็นความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลรวมทั้งกระทรวงต่าง ๆ ซึ่งยินดีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจ สังคม ขณะนี้ ประชาชนบางส่วนก็ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาแล้ว
นายกรัฐมนตรียังกล่าวในช่วงท้าย ขอบคุณภาคธุรกิจที่ได้ให้การช่วยเหลือดูแลลูกจ้างในห่วงโซ่ของตน และรัฐบาลจะทำงานอย่างเต็มที่ในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยคำนึงถึงข้อกฎหมายเสมอ ดังนั้น จึงอยากให้คนไทยทุกคนมีความรัก ความสามัคคี มีน้ำใจ แบ่งปันซึ่งกันและกัน เพื่อให้เป็น New Normal ของประเทศไทยด้วย