“ผู้กำกับมีไว้ทำไม”? – สันต์ สะตอแมน

สันต์ สะตอแมน

ครั้ง..นโยบายรับจำนำข้าว!

คนพรรคเพื่อไทยก็ดาหน้าออกมาพูดทำนองเดียวกับที่คุณสมคิด เชื้อคงกล่าว.. “นักวิชาการที่ออกมาโจมตีนโยบายดิจิทัล วอลเลต เพราะคนเหล่านี้อยู่ดีมีกินแล้ว จึงไม่คิดถึงประชาชนที่ลำบาก

ดังนั้นรัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ ประชาชนมีความสุข นโยบายที่ออกมาจึงเป็นนโยบายที่ยึดประโยชน์ของประชาชน จะส่งผลต่อประเทศ และประชาชน อย่างแน่นอน”

ซึ่ง..ก็แน่นอนจริง นายกฯ หญิงหนี รัฐมนตรี-ข้าราชการติดคุก ชาวนาฆ่าตัวตาย ประเทศแบกหนี้หลายแสนล้าน..แล้วนี่จะเอา (ให้ได้) อีกแล้วเหรอ?

ครับ..วันก่อนได้อ่านความในใจที่คุณมะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วิระกุล ผู้กำกับหนังคนดังได้โพสต์ระบาย เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์อยู่บ้างสำหรับผู้ที่สนใจจะเข้ามาเป็นผู้กำกับหนัง

จึงเลยใคร่ขออนุญาต (ลอก) นำมาให้ได้อ่านเพื่อศึกษา เป็นความรู้ ตามนี้… “มีผู้กำกับฯไว้ทำไม?

ได้ยินคำถามนี้จากผู้คร่ำหวอดในวงการท่านหนึ่งที่กำลังนำเสนอทฤษฎีการทำงานในกองถ่ายรูปแบบใหม่ ในวงสนทนาแกล้มแอลกอฮอ ที่ฟังแล้วชีวิตรู้สึกขมกว่าเหล้าที่จิบอยู่มิรู้เมา

มันเริ่มจากการถกกันว่ามีตำแหน่งแบบ Creator หรือ Show Runner เข้ามาในวงการที่ดูจะใหญ่โตกว่าผู้กำกับ

แล้วก็ยังมีคนรวยที่กำตังเข้ามาแล้วจ้างทุกตำแหน่งให้พวกเขาและเธอได้นั่งหน้ามอนิเตอร์

หรือโปรดิวเซอร์ที่คิดว่าเมื่อมีคนทำทุกอย่างมาให้เลือกตรงหน้าแล้วใครๆก็สามารถสั่งให้หนังออกมาเปนอย่างที่ต้องการได้

และโลกของการทำคอนเทนท์ที่ใครๆก็เล่าเรื่องของตัวเอง ที่พร้อมจะมีคนดูอยู่ใน Social Media อยู่มหาศาลไม่รู้จบ มันก็ชวนตั้งคำถามแบบนี้จริงๆนะ

การที่เราอยู่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ความเปนผู้กำกับยังถูกยอมรับในฐานะศิลปิน และในมุมของการทำงานผู้กำกับก็ยังเปนแม่ทัพใหญ่ของกองถ่ายอยู่

แต่โลกของละครและซีรี่ส์ผู้จัด หรือ Show Runner จะมีบทบาทในการควบคุมงานมากกว่าเพราะงานต่างประเทศบางทีซีรี่ส์เรื่องหนึ่งอาจจะให้ ผกก หลายคน

เลยต้องมีคนมาคุมตรงกลางให้งานออกมาเปนก้อนเดียวกัน แต่บ้านเราส่วนใหญ่กำกับคนเดียว และผู้กำกับกลายเปนมีหน้าที่นำวิสัยทัศน์ของผู้จัดออกมาให้เปนรูปเปนร่าง

คุมกองถ่ายให้ทำงานเสร็จทันเวลา ไปๆมาๆ ก็มีคนเขียนบทเทพ ตากล้องเทพ อาร์ตเทพ ครูสอนการแสดงเทพ ผู้กำกับเลยเหมือนไม่ต้องทำอะไรมากนอกจากสั่งคัทไปวันๆ

ทีนี้โปรดิวเซอร์บางคนก็เลยคิดจะกำกับเองไปเลยก็มี ประกอบกับว่าเอาจริงๆ มันเปนอาชีพที่ต้องสั่งสมประสบการณ์นะ แล้วเปนประสบการณ์แบบคนอื่นไม่รู้ว่าเราเก่งยังไง

อย่างตากล้องเก่งเขาก็ถ่ายสวยเลย อาร์ตเก่งเซ็ทออกมาสวย ครูสอนการแสดงเก่งก็ทำให้นักแสดงเล่นได้ดีได้ดังมีมนต์เสก แต่ผกก ล่ะ กว่าจะรู้ว่าเก่งแค่ไหนก็ต้องรองานออกมาก่อน

แล้วงานที่เก่งของผกก แต่ละคนเปนยังไง คร่าวๆก็คือเล่าเรื่องได้ไหม พาคนดูไปถึงจุดที่อยากให้ไปถึงหรือเปล่า สไตล์ของงานเปนที่จดจำแบบมีเอกลักษณ์หรือไม่

กว่าจะพาตัวงานไปถึงจุดที่พิสูจน์ตัวเองได้ ก็ต้องผ่านอะไรมากมาย ทั้งการพิชชิ่ง พัฒนาบท ออกกอง ตัดต่อ ซีจี การตลาด มากมายที่จะทำให้งานที่ตั้งใจไว้แบบนึงในตอนแรกกลายเปนงานอีกแบบนึง

ถ้ากระดูกไม่แข็งจริงๆ บางทีการต่อสู้ให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการก็ไม่ง่าย หลายคนถอดใจไปกลางทางก็มี

แล้วในฐานะโปรดิวเซอร์ การที่จะปั้นใครให้ได้กำกับเปน การลงทุนที่มีความเสี่ยงมหาศาลเลย กว่าจะขัดเกลาไอเดียให้เขาเห็นทิศทางของตัวเอง ไกด์ให้เห็นว่าถ้าจะไปทิศทางที่อยากไป ต้องทำยังไงบ้าง

ทำให้เข้าใจภาพรวมของตัวหนังและการทำงาน ตลอดไปจนการรันกองถ่ายว่าได้ประสิทธิภาพแค่ไหน ฯลฯ

อีกมากมายที่กว่าจะรู้ว่ามันทำได้หรือเปล่า เงินก็บินไปเปน 7-8 หลัก เดิมพันสูงมากนะ

และเพราะด้วยเดิมพันราคาแพง เลยอย่าไปคิดว่าเก้าอี้ผู้กำกับใครจะลงไปนั่งสั่งการพาหนังพากองถ่ายไปไหนก็ได้ เพราะความเสียหายอาจจะยิ่งใหญ่เกินจินตนาการ

การสร้างวิสัยทัศน์ออกมาเปนความจริงมันใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในระดับนึงเลย การทำงานกำกับก็เปนงาน Inner มากๆ

ไม่มีใครรู้หรอกว่าแค่ไหนและเพราะอะไรเราถึงสั่งคัท และการสั่งเทคอีกรอบเพื่อจะเอาอะไรเพิ่มเติม มันต้องใช้ความคิดเยอะมากนะ

โดยเฉพาะการหาคำสุภาพที่สุดมาอธิบายการแสดงอันเลวร้ายเกินคำบรรยายของดาราเมื่อสักครู่นี้ ตรงนี้สมองทำงานเยอะมากๆ

ยังไงก็สำคัญครับ เชื่อผม อย่าผลีผลามไปทำอะไรกันเองโดยเชื่อว่าง่าย มันไม่ง่ายหรอกครับ”

ทีนี้..รู้ยัง ทหาร เอ๊ย “ผู้กำกับมีไว้ทำไม”?

Written By
More from pp
เวที ด่า-หาเสียง – ผักกาดหอม
ฝ่ายค้านด่ารัฐบาลเพื่อดิสเครดิตได้ทุุกเรื่อง ส่วนรัฐบาลประกาศผลงานได้ทุกชิ้น อยู่ที่ใครพูดเก่งกว่ากัน และประชาชนเชื่อใครมากกว่ากัน เดินหน้าสู่สนามเลือกตั้งครับ
Read More
0 replies on ““ผู้กำกับมีไว้ทำไม”? – สันต์ สะตอแมน”