ผักกาดหอม
เรื่อยๆ มาเรียงๆ
คือบรรยากาศการแถลงนโยบายรัฐบาลเศรษฐา เมื่อวานนี้ (๑๑ กันยายน) ครับ
ไม่ดุดัน แต่ก็ไม่ถือว่าจืดสนิท
เพราะสมาชิกรัฐสภาบางคน อภิปรายได้น้ำได้เนื้ออยู่เหมือนกัน
ปกติแล้วเวทีแถลงนโยบายนี้ รัฐบาลเป็นฝ่ายบอกสภาฯ ว่าจะทำอะไรบ้าง
ส่วน สส.ฝ่ายค้าน และรัฐบาล จะใช้เวทีนี้ในการหาเสียง หรือสร้างวาทกรรมใหม่ๆ
สำหรับ สส.ใหม่ นี่คือเวทีประเดิมในการสร้างชื่อเสียง
ส่วนสมาชิกวุฒิสภา ก็ว่าไปตามจุดยืน และความรู้ความสามารถของแต่ละคน
เชียร์รัฐบาลก็มีให้เห็น
ที่ตำหนิติติงมีอยู่จำนวนหนึ่ง
ฟัง สว.วันชัย สอนศิริ อภิปราย นึกว่า สส.เพื่อไทยอวยยศนายกฯ
“…ผมไม่ใช่คนงมงาย แต่ขอเรียนว่า ขนาดดาวมฤตยูที่ทับดวงเมืองมา ๗ ปี ยังต้องย้าย ดาวราหูยังต้องไปในวันที่ ๑๗ นี้
เขาจึงกล่าวกันว่านายกฯ เศรษฐามา ราหูไป ความศิวิไลซ์จะบังเกิด ตามหลักโหราศาสตร์กล่าวว่า สิ่งที่ไม่ได้เห็นจะได้เห็น สิ่งที่จะไม่ได้เกิดจะได้เกิด สิ่งที่ไม่เคยมีจะได้มี รัฐบาลชุดนี้คือความหวังของประเทศที่ประชาชนรออยู่…”
ใครว่า สว.คือพวกเผด็จการสืบทอดอำนาจ คงได้เถียงกันคอแตก
“เศรษฐา ทวีสิน” คงยิ้มแก้มปริ ขอบคุณ ๓ ลุงในใจ เพราะที่เคยบอกจะปิดสวิตช์ สว. ถึงวันนี้ เสียบปลั๊ก ๒๔ ชั่วโมง
วันข้างหน้า สว.กับรัฐบาลยังต้องทำงานร่วมกันอีกเยอะ โดยเฉพาะการผ่านกฎหมาย รวมไปถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สิ่งที่จะไม่ได้เกิดจะได้เกิดมีรออีกเพียบ
ส่วนฝ่ายค้านที่ยังไร้เอกภาพ ก็เป็นอีกปรากฏการณ์ที่ต้องให้ความสนใจ
พรรคประชาธิปัตย์ใช้เวทีแถลงนโยบายรัฐบาลแถลงท่าทีของพรรค
คำอภิปรายของ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” ถือว่าแปลกใหม่ ไม่เคยได้ยินมาก่อน
“…ขอแสดงจุดยืนต่อประธานรัฐสภาในการทำหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์ คือ
๑.จะไม่ค้านทุกเรื่อง โดยจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านด้วยความเข้มแข็ง ตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน และรักษาผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน
๒.ในการทำงานกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่น พรรคประชาธิปัตย์จะแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง อะไรที่เป็นจุดยืนสำคัญของพรรค อาทิ ไม่แตะประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ แม้วันหนึ่งอาจมีพรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคใดพรรคหนึ่งหยิบยกเรื่องการแก้กฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา แต่พรรคประชาธิปัตย์จะไม่สนับสนุน
พวกผมพร้อมทำงานตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคอย่างเต็มกำลังความสามารถ เหตุผลที่ผมนำมาพูดตอนนี้เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดในอนาคตที่อาจเกิดข้อครหาว่าฝ่ายค้านแตกกัน….”
ออกตัวแบบนี้ คงไม่มีใครติดใจเรื่องฝ่ายค้านแตกกัน
เพราะมิได้สมานฉันท์ตั้งแต่แรกเริ่ม
แต่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ การเมืองวันนี้ แตกต่างจากการเมืองวันวานอยู่มากโขทีเดียว
เป็นหน้าที่ของประชาชน ที่ต้องพิสูจน์ทราบฝ่าย!
ต้องรู้ว่า ณ เวลานั้นๆ ใครอยู่ฝ่ายไหน
แล้วจะไม่หลงทิศ
วันใดก็ตามที่ ม.๑๑๒ ถูกเสนอแก้ไขในสภา ซึ่งพรรคก้าวไกลเสนอแน่นอน เพราะพรรคการเมืองนี้ถือเป็นนโยบายเร่งด่วน จึงต้องแก้ไขให้ได้ในเร็ววัน ก็ขอให้รับรู้ทั่วกันว่า วันนั้น พรรคก้าวไกล จะถูกโดดเดี่ยวจากทุกฝ่าย
แต่ก็น่าเป็นห่วงครับ โดยเฉพาะคุณภาพในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล
ฝ่ายค้านที่ไร้เอกภาพ อาจส่งผลถึงประสิทธิภาพการทำหน้าที่ตรวจสอบ
ครับ…การแถลงนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา หลายประเด็นคลุมเครือ ไร้คำตอบ
ถ้าจะให้คะแนนคงให้ไม่ได้ เพราะไม่รู้จะวิเคราะห์อย่างไร
คำแถลงที่มีแต่หัวข้อหลัก แบบครอบจักรวาล กว้างจนไม่รู้ว่ารัฐบาลจะทำอะไร เมื่อไหร่ และอย่างไร
“เศรษฐา ทวีสิน” ใช้คำว่า “อย่างเหมาะสม” ในหลายเรื่่องหลายตอน
เช่น….
การแก้ปัญหาหนี้สินภาคเกษตร ภาคธุรกิจและภาคประชาชน ด้วยการพักหนี้เกษตรกรตามเงื่อนไขและคุณสมบัติที่ “เหมาะสม”
ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแก่ประชาชน จะสนับสนุนให้เกิดการบริหารจัดการราคาพลังงานทั้งค่าไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้ม ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงให้อยู่ในระดับที่ “เหมาะสม” ทันที
สนับสนุนการจัดหาแหล่งพลังงาน “อย่างเหมาะสม”
การฟื้นอุตสาหกรรมประมง แก้ไขข้อกฎหมายให้ “เหมาะสม”
ให้ความสำคัญกับกรอบวินัยการเงินการคลังของประเทศอย่างเคร่งครัด รัฐบาลจะใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ “เหมาะสม”
“เหมาะสม” กับใคร อย่างไร
“อย่างเหมาะสม” ของรัฐบาล เท่ากับ “อย่างเหมาะสม” ของประชาชนหรือเปล่า
มันกว้างจริงๆ
ก็เป็นสิทธิของรัฐบาลครับ ในเมื่อมีเวทีให้ชี้แจงประชาชนแล้วว่าจะทำอะไรบ้าง อย่างไร เมื่อไหร่ แต่รัฐบาลเลือกที่จะปล่อยให้คลุมเครือในหลายประเด็น สิ่งที่รัฐบาลต้องเจอหลังจากนี้คือความไม่ไว้วางใจของประชาชน
มาดูประเด็นที่เริ่มชัด แต่ไม่ได้ชัดเจนกว่าเดิมมากนัก
แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตหัวละ ๑ หมื่นบาท รัฐบาลยังคงยืนยันจ่ายผ่านบล็อกเชน ไม่ใช่แอปเป๋าตัง
น่าจะมีการทำโพลถามประชาชนว่า อยากได้เงิน ๑ หมื่นบาทผ่านอะไร ระหว่าง บล็อกเชน หรือ เป๋าตัง
หรือถามว่า บล็อกเชน คืออะไร
ใครไม่รู้จักเป๋าตังบ้าง
รัฐบาลน่าจะได้คำตอบว่า อะไรยุ่งยากน้อยกว่ากัน และควรบริหารนโยบายนี้แบบไหน
อีกประเด็นที่มีคำเฉลยอยู่บ้าง คือ ค่าแรงขั้นต่ำ เงินเดือนขั้นต่ำ ตอนหาเสียงเล่นใหญ่ปูพรมไปขอเสียงทั้งประเทศ
แต่ในคำแถลงนโยบายหาไม่เจอ
นายกฯ เศรษฐา ชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภา ทำเอาหงายหลังไปตามๆ กัน
“ถ้าจีดีพีโต ๔-๕ เปอร์เซ็นต์ตามเป้าหมาย ค่าแรง เงินเดือน ก็ขยับตาม”
โชคดีมีเงินใช้กันครับ