คลิกฟังบทความ..⬇️
เปลว สีเงิน
น่าเห็นใจ “ไหม-ศิริกัญญา” เธอนะ
องุ่นที่เคยปลิดกินในมื้อ “ดินเนอร์ทอล์ค” หารือตั้งรัฐบาล “ก้าวไกล-เพื่อไทย” พิธาเป็นนายกฯ ที่ Chez Miline เมื่อ ๑๗ พฤษภา.ครั้งนั้น
เห็นว่า “หวาน…จนมดอิจฉา”!
แต่เมื่อวาน (๑๑ กย.๖๖) ฟังน้ำเสียงชำแหละนโยบายรัฐบาลเพื่อไทย ที่ก้าวไกล-ก้าวพลาด จนตกน้ำป๋อมแป๋ม
ทำไมองุ่นที่เคยหวาน กลับทั้งเปรี้ยว ทั้งขม ทั้งขื่น ทั้งประชด-ประชัน ให้ความรู้สึกเหมือน “คนอกหัก” ยังงั้นล่ะ?
ไม่เอาน่า….
รักษาทรง “ว่าที่รัฐมนตรีคลังหญิง” หนึ่งเดียวคือ “ไหม..คนนี้” เข้าไว้
ครั้งนี้พลาด ครั้งหน้ามาชัวร์!
เพราะตอนนี้ เรตติ้งก้าวไกล “กลบฝังเพื่อไทย” มิดแล้วมิใช่หรือ?
เลือกซ่อมที่ระยองวานซืน ก้าวไกลยังชนะคู่แข่งเสียงท่วมเลยฮิ!
“พิธา-นายกฯว่าว” ประกาศตีตราจองแล้ว เขาคือ “นายกรัฐมนตรี คนที่ ๓๑”
ฉะนั้น เลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อไทย ส่งเสาไฟฟ้า ก็ไม่แน่ว่าคนจะเลือกเหมือนเดิม
แต่ก้าวไกล ต่อให้ส่งโจร ส่ง working woman คนรุ่นใหม่ no สน no care แห่กันเลือกชนิดหีบแตก
“คุณไหม-หนึ่งเดียวในปฐพี” กับเก้าอี้รัฐมนตรีคลัง มันแน่อยู่แล้ว
ใครแย่ง บอก “กำนันนก” เลย!
“กำนันนก” ตอนนี้ฝากขังอยู่ในเรือนจำ ได้ยินราชทัณฑ์บอก เข้าคุกปุ๊บ กำนันนก เครียด ความดันโลหิตขึ้นสูงทันที
อยู่นอกคุก “อ้วน-ใหญ่” พระโคทำนายว่า “สมบูรณ์ดี”
แต่พอเข้าคุก อ้วน-ใหญ่ กลายเป็นโรค “น้ำหนักตัวกดทับ”!
ถ้าจะให้ฮ.มารับไปเข้าโรงพยาบาลตำรวจละก็ ราชทัณฑ์ต้องค่อยๆ บอกกำนันดีๆ นะ อย่าให้กำนันต้องโกรธ ว่าจะนอนชั้นไหน เลือกได้
ยกเว้น “รอยัล สวีท” ชั้น ๑๔ เพราะชั้นนั้น เป็นที่สถิต “นักโทษเทวดา” โดยเฉพาะ!
พูดถึง “นักโทษเทวดา” นี่ก็ป่วยความดันสูงมา ๒๐ กว่าวันแล้วนะ ยังไม่มีวี่แววว่าจะลด
จะว่าไป โชคดีที่ได้เหาะกลับมาเข้าคุก
แต่โชคร้าย เข้าปุ๊บ ไม่ทันได้นอนฉลองคุก ก็ป่วยปั๊บ ต้องเหาะจากคุกไปเป็นนักโทษเทวดา
นอน “รอยัล สวีท” ที่โรงพยาบาลตำรวจ จาก ๒๒ สิงหา.ถึงวันนี้ ๑๒ กันยา.ร่วมเดือนแล้วนะ
สงสัยเทวดาท่าจะ “อาการหนัก” เพราะป่านนี้แล้ว ทั้งหมอ ทั้งราชทัณฑ์ ทั้งรัฐบาลเพื่อไทย ไม่แจ้งอาการให้ชาวบ้านรู้เลย ว่าเป็นตายยังไง?
อาการยังหนัก หรือทุเลาแล้ว หรือยังทรงๆ ทรุดๆ ต้องอยู่ในการดูแลของหมอไปจนกว่าครบโทษ ๑ ปีตามพระบรมราชโองการ นั่นแหละถึงจะหายสบายดี
แต่ปรากฏว่า ไม่มีเสียงตอบรับจากปลายสายใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจากแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ รัฐมนตรียุติธรรม
และนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน”!?
ได้ยินนายกฯ เศรษฐา อ่านนโยบายรัฐบาลเป็นการแถลงต่อรัฐสภาเมื่อวาน ตอนหนึ่งมีว่า…….
“รัฐบาลจะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ด้วยการฟื้นฟูหลักนิติธรรม (Rule of Law) ที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ เพราะการมี “หลักนิติธรรม” ที่น่าเชื่อถือ
เป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางความคิดและสังคมที่สําคัญของประเทศ
เป็นการลงทุนทําให้ประเทศไทยมี “หลักนิติธรรม” ที่น่าเชื่อถือ ที่ใช้งบประมาณของรัฐน้อยที่สุด
แต่ได้ “ประสิทธิภาพมากที่สุด” ในการพัฒนาประเทศ”
เห็นก้าวไกลเขาโฆษณา ว่าระดม ๓๐ กว่าขุนพลชำแหละนโยายรัฐบาลวันนี้
ผมก็แคะหูรอฟัง เพราะก้าวไกล ทั้งตี๋หัวตั้ง-เจ้าของพรรค ทั้งตี๋ตาปลาดุก-ศาสดาใต้กระโปรงเด็ก ทั้งพิธา-นายกฯ ว่าว ทั้งสมุนกระตุกสายป่านว่าวในพรรค
พล่ามกันตลอด….
คำนึงก็เหลื่อมล้ำสองคำก็เหลื่อมล้ำ สามคำก็เป็นคนต้องเท่าเที่ยมกัน สี่คำก็ การใช้กฎหมายต้องไม่ ๒ มาตรฐาน
แคะจนไม่เหลือขี้หูให้แคะ ก็ไม่ได้ยินซักแอะจากปากไอ้พวกเหลื่อมล้ำล้นสมอง
ว่าไหนล่ะ “หลักนิติธรรม” ที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตามนโยบายที่แถลงนั่นน่ะ
ลองทำให้เห็น “หลักนิติธรรม” ที่เข้มแข็ง ทะลายกำแพงความเหลื่อมล้ำให้ดูซิ
“นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร” เป็นคนไม่ใช่เทวดาใช่มั้ย?
เมื่อเป็นคนต้องเท่าเทียมกัน การอ้างป่วยความดันแล้วเหาะไปนอน “รอยัล สวีท” ชนิดไร้คำตอบ
ทั้งที่มีนักโทษป่วยเป็นความดันสูงอีกเป็นหมื่น-เป็นแสนในคุก แต่ไม่มีคนไหนได้เหาะไปนอนรักษาตามโรงพยาบาลชั้นดีอย่างนักโทษเทวดาคนนี้เลย
เนี่ย….
ไอ้ ๓๐ ขุนพลเหลื่อมล้ำ ไปตำตูดใครอยู่ที่ไหน ทำไมไม่ทวงถาม ไม่ค้ำคอให้นายกฯ แจกแจงว่า
ไหน….หลักนิติธรรมตามที่แถลง มันอยู่ตรงไหน หือ?
ก้าวไกลทำไม ไม่บอกนายกฯ เศรษฐาไปล่ะว่า…ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีนะ ท่านไม่ใช่ตำรวจ ท่านไม่ใช่ผู้การฯ นครปฐม และท่านก็ไม่ใช่ “หน่อง-มือปืน”
และนักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ก็ไม่ใช่ “กำนันนก”
ฉะนั้น ท่านจงพิสูจน์ให้เห็นว่า เข้มแข็ง-โปร่งใสในหลักนิติธรรมจริง ตามนโยบายที่แถลง
การใช้กฎหมายต้อง “มาตรฐานเดียวกัน”
ดังนั้น ในฐานะนายกฯ ผู้ต้องรับผิดชอบตามนโยบายที่แถลง ต้องเอาตัวนักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ
ไป “นอนคุก” มาตรฐานเดียวกับนักโทษทั่วไปให้ประชาชนเห็นความชอบธรรมในการบริหารตามที่อ้าง ให้เป็นที่ประจักษ์
แต่ก้าวไกล ก็ “ไม่กล้า”
ไม่ใช่ไม่กล้ากับเศรษฐา ผมว่านะ ไอตี๋มันไม่กล้ากับนักโทษเทวดา จึงสั่งสมุน “นั่นนายข้าเหมือนกัน” ห้ามแตะอย่างนั้นซะละมากกว่า
ก็รู้ๆ กันอยู่ “ปลาแยกข้อง” แต่มาจาก “หนองน้ำ” เดียวกัน!
ถึงชั่วดีถี่ห่าง หน้าที่ฝ่ายค้านนั้น หนึ่งในตองอู ยังไงๆ ก็ต้องยกให้ “ประชาธิปัตย์” เขา
ถึงไม่ฟันฉัวะ แต่เมื่อวาน “คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” ก็รำดาบฉวัดเฉวียนเชิงปาหี่ ยั้งดาบไว้ไมตรี ประมาณนั้น
“…………นโยบายดังกล่าวคือจุดเริ่มต้นของความหวัง จะศักดิ์สิทธิ์หรือเป็นจริงได้อยู่ที่ตัวของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล การ “พระราชทานอภัยโทษ” ที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๑ กันยา.
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่ผู้ได้รับพระราชทานอภัยโทษต้องสำนึก
และรัฐบาลก็ต้องสำนึกว่า ผู้ได้รับพระราชทานอภัยโทษยังเป็นผู้มีความผิด หากมีคำพิพากษาศาลในคดีใดเกิดขึ้นอีก ว่ามีการกระทำความผิด ยังจะต้องรับโทษใหม่ในอนาคต
จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องตระหนักว่า
เป็นหน้าที่ที่ต้องบังคับใช้กฎหมายโดยหลักนิติธรรม เท่าเทียมกับคนไทยทุกคนต่อไป
ถ้ารัฐบาลก่อนหน้าทำไม่ถูก ท่านก็ทำให้ถูก อย่าปล่อยเลยตามเลย ผมเห็นว่าโอกาสนี้ ….
เป็นโอกาสสำคัญของรัฐบาลที่จะทำให้วลีที่เราพูดกันว่า “คุกมีไว้แค่ขังคนจน” กับ “คนไม่มีอำนาจ” ให้หายไปได้
โดยนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน ผมขอให้นายกรัฐมนตรีรักษาคำพูด ยึดมั่นในสิ่งที่แถลงไป…..”
ทักษิณนั้น กลับมาตีทะเบียนนักโทษแต่นอนห้องสวีท แทนคุก จบจากนี้ ใช่ว่าหมดคดีแล้ว
ยังมีอยู่ที่ป.ป.ช.และที่อัยการสั่งฟ้องแล้ว ราวๆ ๒-๓ คดี
แต่แค่โทษ ๘ ปี ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือ ๑ ปี ยังตั้งท่า-ตั้งแท่นกัน ให้ได้รับสิทธิ์อภัยโทษตามปกติอีก
จนทำท่า “พ้นคุก” โดยไม่ต้อง “ติดคุกจริง” จนได้!
ก็อย่าลืมกันนะ โทษ ๑ ปีนี้ เป็นไปตาม “พระบรมราชโองการ” จากที่ทักษิณทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะตัวขึ้นไป
นั่นคือ ทรงพระมหากรุณา มีพระบรมราชโองการอภัยลดโทษ ให้เหลือโทษจำคุก ๑ ปี แล้ว
ดังนั้น การจะเอา “กฎกระทรวง” ว่าด้วยการอภัยโทษตามปกติกับนักโทษทั่วไป ทำตีขลุม “ลดโทษ” ให้อีก
ต้องคิดกันให้รอบคอบ……
ว่านั่น เป็นการบังอาจลบล้างโทษ ๑ ปี ตาม “พระบรมราชโองการ” กระทำประหนึ่งลบล้าง “พระบรมราชโองการ” ใช่หรือไม่?
เปลว สีเงิน
๑๒ กันยายน ๒๕๖๖