คำถวายสัตย์ปฏิญาณ – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

อย่างเป็นทางการ…

รัฐบาลเศรษฐา มีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศ หลังคณะรัฐมนตรี เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ลำดับต่อไปคือการแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งจะเริ่มในวันที ๑๑ กันยายนนี้

จากนั้นได้เวลาพิสูจน์ฝีมือ ว่าสามารถเป็นรัฐบาลที่ดี ตามที่ได้ให้คำถวายสัตย์ปฏิญาณไว้หรือไม่

ก็คงต้องเวลาอีกสักระยะ

แต่วันนี้มาพูดคุยกันเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณตนกันครับ

ข้อมูลที่พอจะหาได้ทั่วไป เกือบทุกประเทศทั่วโลกถือว่า การกระทำสัตย์ปฏิญาณ การสาบานตน ก่อนเข้ารับตำแหน่งที่สำคัญในการบริหารประเทศชาติ เช่น ตำแหน่งประธานาธิบดี หรือตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นสิ่งสำคัญ

และจำเป็นต้องทำ

นี่เป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับใครก็ตามที่เพิ่งจะสนใจเรื่องการบ้านการเมืองได้รับทราบว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสากล ไม่ได้มีเฉพาะในไทย

ฉะนั้นการมองการถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นเรื่องไม่จำเป็น เพราะรัฐบาลมาจากประชาชนแล้วนั้น ขอให้มองใหม่ หันไปมองรอบๆตัวแล้วค่อยๆทำความเข้าใจ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อคนชั่ว

รัฐธรรมนูญบัญญัติให้ผู้ดำรงตำแหน่ง องคมนตรี รัฐมนตรี ผู้พิพากษาและตุลาการ ต้องกระทำก่อนเข้ารับหน้าที่ การถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระมหากษัตริย์

ประเพณีการกระทำสัตย์ปฏิญาณ หรือสาบานตนต่อพระมหากษัตริย์ มิได้เพิ่งมีมาไม่กี่วัน

มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี

ขณะนั้นเรียกว่า “พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา”

ประเพณีนี้ถูกยกเลิกไป โดยคณะราษฎร์ หลังประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อปี ๒๔๗๕

แต่การปฏิญาณตน ยังคงมีอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบ

เช่นการปฏิญาณตน ของสมาชิกรัฐสภาเริ่มขึ้นครั้งแรกในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ ๑/๒๔๗๕ ในวันอังคารที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๕ เป็นการปฏิญาณตนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมีหลวงประดิษฐ์มนูธรรม เป็นผู้นำปฏิญาณ ดังนี้

“ข้าพเจ้า (ออกนามผู้ปฏิญาณ) ขอให้คำปฏิญาณว่าจะซื่อสัตย์ต่อคณะราษฎรและจะช่วยรักษาหลัก ๖ ประการของราษฎรไว้ให้มั่นคง

๑.จะต้องรักษาความเป็นเอกราชทั้งหลาย เช่น เอกราชในการเมือง ในทางศาล ในทางเศรษฐกิจ ฯลฯ ของประเทศไว้ให้มั่นคง

๒.จะรักษาความปลอดภัยในประเทศให้การประทุษร้ายต่อกันลดน้อยลงให้มาก

๓.จะต้องบำรุงความสมบูรณ์ของราษฎรในทางเศรษฐกิจโดยรัฐบาลใหม่จะพยายามหางานให้ราษฎรทำโดยเต็มความสามารถจะร่างโครงการณ์เศรษฐกิจแห่งชาติ ไม่ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก

๔.จะต้องให้ราษฎรได้มีสิทธิเสมอภาคกัน

๕.จะต้องให้ราษฎรได้มีเสรีภาพมีความเป็นอิสสระ เมื่อเสรีภาพนี้ไม่ขัดต่อหลักการ 4 ประการ ดั่งกล่าวแล้วข้างต้น

๖.จะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร”

ต่อมารัฐธรรมนูญปี ๒๕๑๑ บัญญัติให้คณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้าพระมหากษัตริย์ก่อนเข้ารับหน้าที่ ต่อเนื่องมาจนถึงรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน

ครับ…นั่นคือเรื่องของที่มา

ส่วนถ้อยความในการถวายสัตย์ปฏิญาณ ตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี ๒๕๑๑ ซึ่งเป็นข้อความเดียวกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน นั่นคือ…

“ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

กลับพบว่าคณะรัฐมนตรีหลายรัฐบาล มิได้ปฏิบัติตามสักเท่าไหร่นัก ประเทศไทยจึงเต็มไปด้วยการคอร์รัปชั่น

นักการเมืองบางส่วนอาจมองเป็นเพียงพิธีกรรมก่อนเริ่มทำงานเท่านั้น

ขณะที่เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ต้องการให้คณะรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต

แต่การโฟกัสรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๖๑ นี้ กลับแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ต้องการผลลัพธ์อย่างไร

อย่าง “ปิยบุตร แสงกนกกุล” พยายามจับผิดเรื่องถวายสัตย์ครบถ้วนหรือไม่ จะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกประการหรือเปล่า

โพสต์ข้อความไว้ตามนี้ครับ

…วันนี้ ๕ กันยายน เวลา ๑๔.๐๐ เศรษฐา ทวีสิน จะนำรัฐมนตรีทั้งคณะเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๖๑ ซึ่งบัญญัติว่า

“ก่อนเข้ารับหน้าที่ รัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ด้วยถ้อยคำ ดังต่อไปนี้

“ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

การถวายสัตย์ปฏิญาณนี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นคนกล่าวถ้อยคำนำ โดยอ่านตามข้อความที่ปรากฏในมาตรา ๑๖๑

เมื่อ ๔ ปีก่อน ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณ ด้วยข้อความที่ไม่ครบถ้วน ขาดคำว่า “ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

โดยคลิปที่เผยแพร่ในข่าวพระราชสำนัก ได้เผยแพร่เสียงและภาพของประยุทธ์ ยืนยันว่า ประยุทธ์กล่าวถวายสัตย์ไม่ครบ โดยไม่ได้อ่านจากแฟ้มสีน้ำเงินที่สำนักเลขาฯเตรียมไว้ แต่อ่านจากกระดาษแข็งที่ประยุทธ์นำมาจากที่เสียบไว้ในกระเป๋าเสื้อด้านข้าง

สำหรับการถวายสัตย์ปฏิญาณบ่ายวันนี้ เราจะทราบว่าเศรษฐา ทวีสิน กล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณด้วยถ้อยคำครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๖๑ หรือไม่ ก็ต่อเมื่อ…

ภาพข่าวในพระราชสำนักเผยแพร่คลิปภาพและเสียงตอนถวายสัตย์ (ระยะหลัง ข่าวการถวายสัตย์ของรัฐมนตรีในหลายกรณี ไม่มีเสียงถ่ายทอดออกมา)

หรือมิเช่นนนั้น ก็ต้องสอบถามเอากับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ถวายสัตย์ปฏิญาณว่าได้กล่าวครบถ้วนหรือไม่ ได้เปล่งวาจาคำว่า “ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” หรือไม่…

อ่านเสร็จแทบไม่ต้องคิด

มีคำถามที่จะถามกลับไปว่า หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล จะรักษาคำถวายสัตย์ไว้ได้หรือไม่

โดยเฉพาะท่อนที่ว่า “ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์”

ครับ…นี่คือการถวายสัตย์ปฏิญาณตน เมื่อพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล จะมีปฏิกริยาอย่างไรกับรัฐธรรมนูญมาตรานี้ น่าจับตามองครับ

และนี่คงเป็นรัฐธรรมนูญอีกมาตราที่พรรคก้าวไกลจะแก้ไข

เพื่อสืบสานคณะราษฎร์ ๒๔๗๕

Written By
More from pp
ลาออก..ยังน้อยไป?
ผสมโรง สันต์ สะตอแมน “ผมขออภัยและขอน้อมรับผิด”.. แล้วไงต่อ?..นี่ผมถาม ผศ. ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต ม.ธรรมศาสตร์น่ะ! เพราะในฐานะ “ผู้อนุญาต”...
Read More
0 replies on “คำถวายสัตย์ปฏิญาณ – ผักกาดหอม”