ผักกาดหอม
มิติใหม่แวดวงนักวิชาการวันนี้….
การตรวจสอบ คือ การขัดขวาง
นักวิชาการกลุ่มหนึ่งซึ่งเลื่อมใสในแนวทางของพรรคก้าวไกล มองว่าการตรวจสอบ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ที่กำลังก้าวขึ้นสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรี คือการขัดขวาง
ไม่ขัดขวางธรรมดา
เป็นการตรวจสอบจุกจิก
ทำไมนักวิชาการสีส้มถึงตั้งคำถามเรื่องการตรวจสอบ ทั้งๆ ที่การตรวจสอบบุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะนักการเมือง เป็นเรื่องที่ควรกระทำ ไม่ว่าคนนั้นจะดีเลิศ หรือเลวสุดขั้ว
ครับ…มีบทสัมภาษณ์ของ รศ.ดร.พรอัมรินทร์ พรหมเกิด อาจารย์ประจำสาขาสังคมศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พูดถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปในทางลบ
“…เป็นเรื่องหยุมหยิม จุกจิก สะท้อนถึงทัศนคติที่คับแคบของ กกต. และมองว่า กกต.มีความคิดเรื่องประชาธิปไตยน้อยเกินไป ประเทศที่พัฒนาแล้วจะไม่มีเรื่องการตรวจสอบจุกจิกเช่นนี้ ปล่อยให้กระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยพัฒนาไปได้…”
กกต.ไปตรวจสอบอะไรถึงเป็นเรื่องหยุมหยิม!
สืบเนื่องจาก กกต.ส่งเอกสารด่วนที่สุดถึงหัวหน้าพรรคก้าวไกล มีใจความตอนหนึ่งระบุว่า…ตามที่พรรคก้าวไกลได้โพสต์ข้อความและรูปภาพทางเฟซบุ๊กพรรค ในหัวข้อ “เตรียมพบกับซีรีส์ชุดปาร์ตี้ลิสต์ก้าวไกล” โดยโพสต์ดังกล่าวมีความหมายว่าอย่างไร และเหตุใดจึงต้องใช้สัญลักษณ์ค้อนไขว้กับเคียวประกอบตัวละครในโพสต์ดังกล่าว
ประเด็นอยู่ที่สัญลักษณ์ค้อนเคียว
ในความเห็นของ “รศ.ดร.พรอัมรินทร์” สัญลักษณ์ค้อนเคียว แสดงความหมายถึงชนชั้นกรรมาชีพ คือชนชั้นที่ใช้แรงงาน ประกอบด้วยกรรมกรและชาวนา ต้องสามัคคีกันและรวมพลังสร้างสังคมใหม่
“…เป็นแนวคิดที่กระจายไปทั่วโลก สำหรับโลกประชาธิปไตยสมัยใหม่ ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยเสรี แนวคิดเช่นนี้เป็นเรื่องปกติ จะเปิดให้พรรคการเมืองได้เปิดกว้าง เสนอความคิดเห็นของตัวเอง แล้วให้ประชาชนเป็นคนเลือกและตัดสินใจว่านโยบายเหมาะหรือไม่ สำหรับประเทศไทยการพัฒนาประชาธิปไตยสะดุด…”
ใช่ครับ ค้อนเคียว เคยเขย่าขวัญไปทั่วโลก
ประเทศไทยมีแผลในอดีต จาก ค้อนเคียว
หากพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยชนะ รูปแบบการปกครองของไทย จะไม่ใช่การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างทุกวันนี้
แต่จะเป็นระบอบคอมมิวนิสต์
จะเป็นคอมมิวนิสต์แบบเวียดนาม หรือ จีน ไม่ทราบได้ แต่สิทธิเสรีภาพที่โหยหากันอยู่ในวันนี้จะไม่มีแม้แต่ตารางนิ้วเดียว
จริงครับประเทศประชาธิปไตยทั่วโลกเปิดกว้าง
แต่ปัจจุบันไม่รู้ทำไม อเมริกา ยังกลัวระบอบคอมมิวนิสต์อยู่
สิ่งไม่ดีในจีน ตามสายตาอเมริกาคือ ระบอบการปกครอง
คอมมิวนิสต์ ในสายตาอเมริกาคือ กำจัดเสรีภาพประชาชน ละเมิดสิทธิมนุษยชน ฯลฯ
แล้วรู้หรือเปล่าว่า “ค้อนเคียว” ในสายตาคนไทยจำนวนมากคืออะไร
มันคือการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
แต่พวกบูชา “ค้อนเคียว” ไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหวตรงๆครับ เพราะมี ม.๑๑๒ ค้ำอยู่
ฉะนั้นเมื่อ กกต.ตรวจสอบ “ค้อนเคียว” ก็อย่าไปมองเป็นเรื่องจุกจิก ควรจะมองว่า เป็นการสร้างความเข้าใจให้สังคมไทยมากกว่า
ปัจจุบัน ไทยไม่ได้เสี่ยงตามทฤษฎีโดมิโนคอมมิวนิสต์อีกแล้ว แต่เสี่ยงถูกเปลี่ยนเป็นการปกครองระบอบ “สาธารณรัฐ” มากกว่า
เป็น “สาธารณรัฐ” ที่ซ่อนอยู่หลัง “ค้อนเคียว”
นิยาม “ค้อนเคียว” ในทางวิชาการ คือสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของลัทธิคอมมิวนิสต์
มักใช้เพื่อเป็นเครื่องหมายของลัทธิคอมมิวนิสต์ พรรคคอมมิวนิสต์ หรือรัฐคอมมิวนิสต์ต่างๆ ทั่วโลก
โดยปกติแล้วมักทำเป็นรูปค้อนและเคียวไขว้กันดังภาพ ซึ่งเครื่องหมายทั้งสองอย่างนี้ คือสัญลักษณ์บุคคลในชนชั้นกรรมาชีพและชนชั้นชาวนา
การนำสัญลักษณ์ทั้งสองอย่างมารวมกัน จึงหมายถึงเอกภาพของแรงงานในภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคมในแบบคอมมิวนิสต์
ตรงนี้นักวิชาการต้องเข้าใจให้ชัดนะครับ มันคือ “เอกภาพ” ของแรงงาน
ไม่ใช่ “สิทธิเสรีภาพ” ของชนชั้นแรงงาน
คอมมิวนิสต์มอง “แรงงาน” เป็นเครื่องจักรในการขับเคลื่อน โดยไม่มีมิติของสิทธิเสรีภาพแต่อย่างใด
ฉะนั้นการใช้ “ค้อนเคียว” มานำเสนอกิจกรรมของพรรคก้าวไกล จึงดูพิกลพิการ ไม่รู้ตัวเองจะไปทางไหนด้วยซ้ำ
กลับมาที่ความเห็นของ “รศ.ดร.พรอัมรินทร์” มองการตรวจสอบพรรคก้าวไกล และ “พิธา” ว่าจุกจิก
“…เป็นเรื่องจุกจิก และขัดขวางการพัฒนาประชาธิปไตย สำหรับประเทศที่พัฒนาประชาธิปไตยแล้ว พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งชัดเจนว่าเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ถือเป็นกติกาสากลที่ต้องยอมรับและร่วมแสดงความยินดี แต่สำหรับประเทศไทย พบว่ามีการยื่นฟ้องยิบย่อย ฝั่งอำนาจเก่ามีการปรับใช้กฎหมายมากลั่นแกล้งพรรคก้าวไกล
เพราะคนที่ยื่นฟ้องพรรคก้าวไกลนั้นเป็นคนของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน…”
เลิกคิดเรื่องอำนาจเก่าอำนาจใหม่ครับ
ควรจะคิดในเชิงวิชาการ และการตรวจสอบ
ฝ่ายที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้น ถือเป็นประโยชน์ต่อชาติและประชาชน
คงจำช่วงรัฐบาลลุงตู่ได้นะครับ
ถูกตรวจสอบยิบเช่นกัน
ตรวจสอบจนน่ารำคาญ แต่ก็ต้องปล่อยให้ตรวจสอบ
ย้ำกันอีกที กรณีถวายสัตย์ปฏิญาณตนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกตรวจสอบทั้งในและนอกสภา
เรื่องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว ก็ยังตรวจสอบต่อ
ตรวจสอบกันจนเบื่อไปเองครับ
ฉะนั้นไม่มีหรอกครับอำนาจเก่าอำนาจใหม่ หากปักใจเชื่อว่า ฝ่ายอำนาจเก่าไม่มีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบ “พิธา” ก็แก้รัฐธรรมนูญสิครับ
ให้ “พิธา” เป็นผู้อยู่เหนือการตรวจสอบ
อำนาจเก่าต้องสูญสิ้นไป
นี่แค่เพิ่งจะเริ่มต้นเองครับ กลัวอะไรกันนักหนา
ระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ “พิธา” ต้องเป็นนายกฯ ก้าวไกลเท่านั้นที่ต้องเป็นรัฐบาล
แค่รวมเสียง ให้เป็นเสียงข้างมาก ตำแหน่งนายกฯ จะหนีไปไหนได้
แต่พรรคก้าวไกลกลับไปกระตุ้นให้ ส.ว.ไม่เลือกตัวเอง ด้วยการปิดสวิตช์ ส.ว.
การเมืองไทยมีความซับซ้อนมาก จนนักการเมืองที่อ่อนพรรษาอาจตามไม่ทัน
รู้ตัวอีกทีก็โน้นครับ… “พิธา” ไม่ได้เป็นแม้กระทั่ง ส.ส.
เพราะโดนสอยทีหลัง