คลิกฟังบทความ…?
เปลว สีเงิน
น้ำเป็นของปลา ฟ้าเป็นของนก
“เก้าอี้นายกฯ” เป็นของ “พิธา”!
“หอมกลิ่นความเจริญ” มากับสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงตลบอบอวลเมืองไทย
ก็ยินดีด้วยกับ “พ่อของส้ม” ที่จะเป็นผู้นำรัฐบาลบริหารประเทศและเข้าไปคุมกลาโหม เพื่อปรับลด, รื้อ, เลิกเกณฑ์ทหาร จนที่สุด “เลิกกองทัพ”
-“ราชนาวีไทย” ใช้เรือประมงแทนเรือรบ!
-ค่าแรงขึ้นทันที ๔๕๐ บาท/วัน และจะขึ้นทุกๆ ปี
-เงินเดือน ป.ตรี ๒๕,๐๐๐ บาท/เดือน
-เกษตรกรมีรายได้เพิ่ม ๓๐,๐๐๐ บาท/ไร่/ปี ได้พักหนี้ ๓ ปี และในอีก ๔ ปี จะมีรายได้เพิ่ม ๓ เท่า
-เด็กเล็กได้ ๑,๒๐๐ บาท/เดือน/คน คนชรา ๓,๐๐๐ บาท/เดือน/คน สตรีได้สิทธิ์ลาคลอด ๑๘๐ วัน
-นิสิต นักศึกษา เรียนฟรี เด็กนักเรียน, ครูได้ tablet คนละเครื่อง
-อาหารโรงเรียนฟรี มีรถรับ-ส่งไปเรียน และมีทุนเรียนต่อ ต่างประเทศ ๑ อำเภอ ๑ ทุน “ทุกอำเภอ”
-โละรัฐธรรมนูญปัจจุบัน เขียนใหม่ทั้งฉบับ, เลิกหรือแก้ไข มาตรา ๑๑๒
-รถไฟฟ้าใน กทม. ๒๐ บาทตลอดสาย มีรถเมล์ไฟฟ้าวิ่งให้บริการประชาชนในทุกจังหวัด
-ค่าไฟฟ้าลดทันที ๗๐ สตางค์/หน่วย ค่าน้ำมัน-ก๊าซ ลดราคาทันที
-เปิดให้ผลิต จำหน่าย ดื่ม “สุราพื้นบ้าน” ได้ทันที
-อากาศจะสะอาด ไม่มี PM2.5
-คนอายุเกิน ๑๘ แจกเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ไปซื้อของจากร้านในระยะ ๔ กม.จากบ้าน
-ซื้อครบทุกๆ ๕๐๐ บาท ได้หวยใบเสร็จ
-เลิกผู้ว่าราชการจังหวัด “มหาดไทยแต่งตั้ง” เป็น “เลือกตั้ง” ทั้งหมด ในทุกจังหวัด ใครสมัครก็ได้
-ออกกฎหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่ง
-แยก ๓ จังหวัดใต้ปกครองตนเอง
-ท้องถิ่นได้งบประมาณเพิ่มอีกตำบลละ ๒๐ ล้านบาท/ปี
นี่คือตัวอย่าง “ความเจริญ” ล้วนๆ ที่กำลังจะมาจากรัฐบาลคนหนุ่ม คนรุ่นใหม่
และนั่นเพียงเศษเสี้ยวในอีกหลายร้อยความเจริญที่ “ก้าวไกล” ประกาศ เลือกเขาเป็นรัฐบาลแล้ว “เขาทำทันที”
เห็นผล ภายใน ๑ ปี “หลังจากเข้าไปบริหารประเทศ!”
รัฐบาลพ่อของส้ม “ใจป๋า” ขนาดนี้ ขนาดผ้าอนามัยยังแจกฟรี ใครไม่เลือก ไม่สนับสนุน ให้พิธา-ก้าวไกล เป็นรัฐบาลเร็วๆ
ต้องตัดหัวเจ็ดชั่วโคตร
แต่ถ้าพิธา-ก้าวไกลเข้าไปแล้ว ทำไม่ได้ ก็ต้องลากคอรัฐบาลทั้งคณะ ออกมาตัดหัว ๗ ชั่วโคตรเหมือนกัน
โอเคมั้ย?
แล้วคณะพรรคที่จะร่วมกันเป็นรัฐบาลก้าวไกล มีพรรคไหนบ้างล่ะ?
แรกๆ ก็ ๖ พรรค ๓๐๙ เสียง
แต่ “ตอนนี้วัฒนา” เป็น ๘ พรรค ๓๑๓ เสียง ประกอบด้วย
“ก้าวไกล, เพื่อไทย, เสรีรวมไทย, ประชาชาติ, ไทยสร้างไทย, เป็นธรรม, เพื่อไทรวมพลัง และพรรคพลังสังคมใหม่”
ถ้าบวกพันธมิตรนอกชาติ “สหรัฐ-ยุโรป” เข้าไปด้วย
ก็เป็น “๓๑๓ เสียง” กับอีก ๑ แบ็คอัพ
แกร่งยิ่งกว่า “เรือไททานิก” ล้านเท่า!
และเมื่อวาน (๑๙ พค.) ๘ พรรคพร้อมหน้า มีมติให้พิธาแถลง หลักๆ ใจความว่า
๑.ทุกพรรคเห็นชอบสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ คนที่ ๓๐ เสียงข้างมากจาการเลือกตั้งของประชาชน
๒.ทุกพรรคจะร่วมกันจัดทำเอ็มโอยู ข้อตกลงร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล และวาระทุกพรรค
จะแถลงในวันที่ ๒๒ พ.ค.นี้ เพื่อแก้ไขวิกฤตทางการเมือง
ครับ…..
เป็นปรากฏการณ์แรกนับตั้งแต่มีการตั้งรัฐบาลมา ที่ครั้งนี้ smooth as silk ดั่งปาฎิหาริย์ ด้วยบารมีก้าวไกล!
ขอพูดจากใจ “ไอ้เฒ่า” คนนี้หน่อยนะ
ชอบ-ไม่ชอบก้าวไกล เป็นเรื่องหนึ่ง แต่เมื่อก้าวไกลชนะเลือกตั้ง มีเสียงสส.มากที่สุด
“ผมยอมรับ” ตามกติกา ชนิด Absolutely ไม่เกี่ยงงอนใดๆ กับการที่ก้าวไกลจะเป็นรัฐบาล และนายพิธาเป็นนายกฯ
ในทางเดียวกัน ก้าวไกลหรือใคร/พรรคไหนก็ตาม ไม่ควรยกประเด็นที่รัฐธรรมนูญบัญญัติเป็นบทเฉพาะกาลไว้ ๕ ปี
ที่ให้ “สว.มีสิทธิโหวตเลือกนายกฯ” นั้น เป็นข้ออ้างว่า “ไม่เป็นประชาธิปไตย”
แล้ว หยาม ประณาม รัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ดังที่ทำกันอยู่ ซึ่งจะเป็นตัวอย่างเลว ให้อนุชนทำตาม
ที่สำคัญ จะด้วยสามัญสำนึกหรือด้วยวุฒิภาวะอันมนุษย์พึงมีก็ตาม พวกคุณจะใช้เงื่อนไขนี้ไปเหยียดหยาม วุฒิสมาชิก จิกหัวด่าว่าเขา
เช่นว่า สว.มาจากแต่งตั้ง ต่ำชั้นกว่าสส.ที่มาจากเลือกตั้ง แล้วจะให้คนแต่งตั้งมาโหวตเลือกคนที่มาจากเลือกตั้งได้ไง นั้น ไม่สมควร
แต่ผมไม่เถียง เพราะนั่นมาจากความคิดเห็น ไม่ใช่มาจากเหตุผล แต่ขอถามคำ
ไอ้คนที่มาจากการเลือกตั้งเนี่ย ทุกคน มันวิเศษ เลิศเลอ เหนือกว่าคนทั่วไปทั้งหมด แม้กระทั่งกับ สว.ที่มาจากแต่งตั้ง จริงหรือ?
ผมยังไม่เห็น สว.ซักคน “ติดคุก” เพราะใช้อำนาจโกงกินบ้านเมืองเลยนะ
ในขณะเดียวกัน พวกที่มาจากเลือกตั้ง ทั้งระดับนายกฯ ระดับรัฐมนตรี ระดับสส.มันโกงกินบ้านเมือง ต้องหนีไปอยู่นอกประเทศก็มี ติดอยู่ในคุกก็มาก
เดือน-สองเดือนที่แล้ว ศาลฎีกาก็สั่งจำคุก ๖ ปี สส.ฐาน “ตบทรัพย์” อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล
นี่คือตัวอย่าง ระบบเลือกตั้ง มันไม่ใช่ “ตรายางสวรรค์” ใช้ประทับรับรองคนเป็นสส.คือ “เทวดา” ไปทุกคนหรอก
“เหี้ย” คลอดจากคูหา ก็ถมเถไป!
ก็เหมือนสว.นั่นแหละ จากคนมีวุฒิภาวะสมบูรณ์ก็มี วุฒิภาวะบกพร่องก็มี
ดังนั้น ในบทสรุป ทั้งสส.และสว.ล้วนคลอดจากครรภ์ “รัฐธรรมนูญบัญญัติ” ฉบับเดียวกัน
และต่างมีอำนาจ/หน้าที่ต้องปฎิบัติตาม “กติกา” อันสุดแต่รัฐธรรมนูญมาตรานั้นๆ จะบัญญัติเป็น “กรอบกติกา” ไว้อย่างใด เสมอเหมือนกัน
เข้าใจมั้ย……….
และรัฐธรรมนูญนี้ ก็ผ่านการรับรองจากประชาชนส่วนใหญ่ จากการทำประชามติ
และก้าวไกล ที่คุยว่า มหาประชาชนเลือกผม ก็คลอดจากรูรัฐธรรมนูญ ที่พวกคุณด่าว่าเป็น “ผลผลิตเผด็จการ” นี้แหละ
ถ้าพวกสส.หรือใครก็ตาม บอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เฮงซวย ร่างเป็นกติกาขึ้นมาเพื่อสืบต่ออำนาจให้พลเอกประยุทธ์
ถ้าจริง เลือกตั้ง ๑๔ พฤษภา.พลเอกประยุทธ์จะแพ้ได้ไง?
แต่นี่มันไม่ใช่ มันก็ไอ้ขบวนการสร้างวาทกรรมชักใยให้แตกแยก เกลียดชังกัน หวังอำนาจเฉพาะตัว จนมองไม่เห็นชาติ
แยกเป็นฝ่ายเผด็จการ ฝ่ายประชาธิปไตย แล้วคอยดูเถอะ ทั้งสองฝ่าย ก็จะกลายเป็น “ไก่งวง” ตอนคริสต์มาสให้ตะวันตกยัดเข้าเตาอบ!
มันเป็นเรื่องของ “กติกา”
ทุกอย่าง ล้วนมี “กติกา” อะไรที่คุณยอมรับกติกานั้นๆ ไม่ได้ ก็อย่าลงไปแข่งกัน มันก็หมดเรื่อง
อย่างซีเกมส์ที่เขมร เขาจัดแข่งโบกาตอร์ แทนมวยไทย เรายอมรับกติกาเขาไม่ได้ ก็ไม่ส่งนักกีฬาไปแข่ง มันก็เท่านั้น
เรื่องกติกา….
ใครชอบ-ไม่ชอบกติกานั้น เป็นสิทธิ แต่ถ้าต้องการเข้าแข่งขันในเกมนั้น คุณก็ต้องพร้อม “ยอมรับกติกา” นั้น
จะมาเกี่ยงงอน ใช้เป็นข้ออ้างไม่ได้ ไม่ใช่พอได้ประโยชน์จากกติกา ก็ทำเฉย แต่พอเสียประโยชน์ ก็โวยวาย โทษ-ก่นด่ากติกาเขาร้อยแปด
อย่างนั้น ไม่ใช่กติกาเลว แต่คนมันจัญไร เข้าใจมั้ย?
การอ้าง “พวกผมเสียงส่วนใหญ่มาจากเลือกตั้ง พวกคุณมันพวกแต่งตั้ง ต่ำชั้น-ต่ำศักดิ์ ไม่ควรให้มาโหวตพวกผม” นั่นน่ะ
แบบนั้น มันใช้ไม่ได้ อันธพาลชัดๆ ในเมื่อ “กติกา” กำหนดให้สว.ร่วมโหวตเลือกนายกฯ เขาก็ต้องโหวต โหวตแบบไหนอีกเรื่อง
และอีกอย่าง กติกาก็บอกเพียง ใครจะเป็นนายกฯ ต้องได้เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของ ๒ สภา คือ ๓๗๖ เสียงขึ้นไป
กติกาไม่ได้บอก ๓๗๖ เสียงนั้น ต้องเป็นเสียงสว.ด้วยนี่ นั่นคือ สส.มีตั้ง ๕๐๐ คน
ตอนนี้ ก้าวไกลก็มีถึง ๓๑๓ เสียง แล้ว
ก็ไปขอเสียงสนับสนุนจากสส.ที่มาจาก “วงศ์เลือกตั้ง” ด้วยกัน อีกซัก ๖๓ เสียงโหวตให้ มันจะยากตรงไหน?
ถ้ายาก ก็มี ๒ กรณี
กรณีแรก ก้าวไกลทำตัวเป็นเทวดาอยู่พรรคเดียว พรรคอื่นต่ำศักดิ์หมด กรณีที่สอง พรรคต่ำศักดิ์ เขาไม่ต้องการข้องแวะกับพรรคเทวดาด้วย?
มันก็ยากอยู่นิดนะ การไม่เอาเพื่อน ถึงตอนต้องพึ่งเพื่อน เพื่อนเขาก็ไม่เอาด้วย
แล้วพิธา จะไปถึงสวรรค์ชั้นทำเนียบรัฐบาลมั้ยเนี่ย?
ผมฟังทักษิณยอวาทีสถาบัน เห็นชลน่าน ลูบหลัง-ลูบไหล่ ใกล้จะลูบหัว แทนการรับไหว้ “ว่าที่นายกฯ” คนที่ ๓๐ ในงานดินเนอร์วันก่อนแล้ว
อยากบอกว่า ในรอบ ๘ ปี
ผมไม่เคยเห็น “บิ๊กป้อม” หน้าตา อิ่มเอิบ ยิ้มแย้ม หัวเราะสบายใจ เท่า ๓-๔ วัน ที่ผ่านมา จน “ราศีจับ” เจิดจ้า อย่างนี้มาก่อนเลย
…………ทั้งๆที่ “แพ้เลือกตั้ง”
พิธาสังเกตมั้ย?
เปลว สีเงิน
๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๖