สันต์ สะตอแมน
ขอให้สมหวัง-สำเร็จนะครับ!
ผมหมายถึงคุณอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ทำหล่อประกาศ..
“พรรค ปชป.จะเคารพเสียงของประชาชนด้วยการลงมติสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี โดยไม่มีเงื่อนไขร่วมรัฐบาล..
โดยจะเสนอแนวทางนี้ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ ซึ่งจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้า รวมทั้งแกนนำและสมาชิกพรรคทั่วทั้งประเทศ”
ในขณะที่คุณชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ได้แสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้เช่นกันว่า..
“อย่าไปก้าวก่ายหรือรุกล้ำคนอื่นเลย แต่ละพรรคการเมืองคิดอย่างไร ก็ให้พรรคนั้นคิดและมีมติของเขาเอง ดังนั้นอย่าไปก้าวก่าย และไม่ควรให้คนอื่นเขาคิดเหมือนตัวเอง
แต่ละพรรคคิดเองได้ และเขามีสติปัญญาที่จะคิดเองได้”
เนี่ย..ในวันประชุมพรรคประชาธิปัตย์ คงได้เห็นลีลาคุณอลงกรณ์ คุณชวนสัประยุทธ์กันในกรณีนี้ด้วยเหตุด้วยผล ส่วนใครจะได้เสียงสนับสนุนมากกว่า..รอดู!
เอ้า..แต่นั่นไม่รง-ไม่รอแล้ว และไม่รู้กินยาผิดซอง หรือสมองกระทบกระเทือนอะไรรึเปล่า เพราะจากหน้าตาหยีๆ ยิ้มๆ สุภาพตามแบบฉบับ “นักร้องผู้ดี”..
แต่วานซืน “คุณเจนนิเฟอร์ คิ้ม” ได้โพสต์.. “ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่…ผูกอู่ตามใจผู้นอน…ประเทศชาติถูกขับเคลื่อนด้วยความต้องการและความเป็นอยู่ของประชาชน….
บ้านเมืองต้อง “ก้าวไปข้างหน้า” ไปหาความเจริญ….อะไรดีก็ทำให้มันดียิ่งๆ ขึ้น…อะไรไม่ดีก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนกันไปให้มันเข้ากับผู้คนทั้งรุ่นเด็กและรุ่นแก่ และเข้ากับปัจจุบันทันเหตุการณ์….
การดูถูก…ก่นด่า….ขัดขวางทำให้ล่าช้าโดยกลุ่มคนหัวหงอกหัวแข็ง รังแต่จะเสียเวลาเสียความน่าเคารพ..เสียผู้ใหญ่….และผมหงอกก็มีไว้ให้คนไหว้..ไม่ได้เอาไว้ให้คนถอน!!…
บางทีบ้านเมืองไม่คืบไม่ศอกก็เพราะหัวหงอกที่ยึดมั่นถือมั่นและกลัวตัวเองจะไม่สำคัญ!!….ประเทศชาติเป็นของทุกคนไม่ใช่คนกลุ่มเดียว
การขับเคลื่อนไปข้างหน้าต้องอาศัย “คนรุ่นใหม่” ที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่เข้าใจคนทุกรุ่นทุกวัย….เมื่อได้คนที่ถูกใจแล้วก็ต้องให้กำลังใจเห็นอกเห็นใจและเอาใจช่วย….
ตอนนี้เราไม่มีอะไรจะเสียแล้ว….และ “ต่อให้หนทางข้างหน้าจะทำได้ไม่ดีเท่าที่หวังไว้แต่ก็ไม่ฉิ..หายเท่าที่ผ่านมา!!” ผลที่ออกมา…กูตายตาหลับละค่า”
ซึ่งทำเอาผมถึงกับอึ้งกิมกี่ อ่านไปขยี้ตาไป ใช่เจ๊คิ้มแน่รึวะ และเมื่อมั่นใจว่าใช่ก็ให้สงสัยต่อว่า เจ๊แกโมโหโกรธา และผรุสวาจาใส่ใคร?
โดยเฉพาะประโยค..การดูถูก…ก่นด่า….ขัดขวางทำให้ล่าช้าโดยกลุ่มคนหัวหงอกหัวแข็ง รังแต่จะเสียเวลาเสียความน่าเคารพ..เสียผู้ใหญ่….
และผมหงอกก็มีไว้ให้คนไหว้..ไม่ได้เอาไว้ให้คนถอน!!…”นั้น
ดูเหมือนคุณเจนิเฟอร์ คิ้ม จะชี้นิ้วไปที่คนอื่น โดยลืมไปว่าอีกสี่นิ้วได้ชี้กลับมาที่ตัวเจ๊เอง
ก็..เจ๊คิ้มนี้แหละที่กำลังดูถูก-ก่นด่าผู้อื่นอยู่ และเจ๊นี้แหละที่กำลังเป็นคนหัวหงอก-หัวแข็งที่เสียความน่าเคารพ เสียผู้ใหญ่ เสียความเป็นนักร้องผู้ดีไป..รู้ตัวไหม?
จะต้องรีบร้อน หรือกราดเกรี้ยวไปทำไมล่ะเจ๊.. ช้า-เร็วอย่างไรเสีย คุณพิธาก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่วันยังค่ำ และเจ๊ก็จะได้นอนตายตาหลับแน่!
ขอแต่ตอนนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนักการเมืองเค้า..เจ๊ต้องรู้อย่างคนหัวหงอกพึงรู้สิว่า การเมืองก็คือการต่อสู้เพื่อแสวงหาอำนาจ…
พรรคก้าวไกลได้ส.ส.มาแค่ 151 คน และเมื่อคุณพิธากำลังไขว่คว้าหาอำนาจอยู่ เจ๊ก็ควรจะอยู่นิ่งๆเฉยๆเสียก่อนเพื่อที่.. “ผมหงอกก็มีไว้ให้คนไหว้..ไม่ได้เอาไว้ให้คนถอน!!…”
อีกอย่างเจ๊แน่ใจได้ไง.. “ต่อให้หนทางข้างหน้าจะทำได้ไม่ดีเท่าที่หวังไว้แต่ก็ไม่ฉิ..หายเท่าที่ผ่านมา!!”
ประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยการด่า ไม่มีวันที่เจ๊จะนอนตายตาหลับหรอก..
เชื่อเหอะ!